สภาม.นครพนมมีมติสั่งปลดอธิการบดี
มติสภาม.นครพนมอาศัยคำสั่ง คสช.สั่งปลด 'สุวิทย์' พ้นเก้าอี้อธิการบดีกรณีถูกกล่าวหา เจ้าตัวยื่นฟ้องศาลปกครองขอความเป็นธรรม
เมื่อวันที่24มิ.ย.ดร.ไพฑูรย์ พลสนะ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม(มนพ.)เปิดเผยว่า ในการประชุมสภามหาวิทยาลัย นพ.เมื่อเร็ว ๆนี้ ได้มีมติปลดออกชั่วคราว รศ.ดร.สุวิทย์ เลาหศิริวงศ์ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีความผิดกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสภา พบที่สร้างความเสียหายให้แก่มหาวิทยาลัยและเข้าข่ายความผิดทางวินัยและผิด กฎหมายทั้งอาญาและแพ่ง อาทิ การเปิดหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิตนอกสถานที่โดยไม่ขออนุมัติสภามหาวิทยาลัยและ ผิดหลักเกณฑ์ของคุรุสภา เป็นต้น ซึ่งหากปล่อยให้บริหารงานต่อไปจะทำความเสียหายให้แก่มหาวิทยาลัย
ดังนั้นสภาฯจึงอาศัย คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่69/2557เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ ข้อ2ระบุว่าในกรณีที่มีการกล่าวหาหรือพบเหตุอันควร สงสัยว่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำการหรือเกี่ยวข้องกับการทุจริตประพฤติมิชอบ ทั้งในฐานะตัวการ ผู้ใช้หรือผู้สนับสนุนให้หัวหน้าส่วนราชการและหัวหน้าหน่วยงานของรัฐดำเนิน การตามอำนาจหน้าที่ภาคใต้ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534และพระราชกฤษฏีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546ประกอบกฏหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคล โดยให้บังคับใช้มาตรการทางวินัย มาตรการทางปกครอง และมาตรการทางกฏหมายอย่างเฉียบขาดและรวดเร็ว ในการปลดดังกล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยฯยังมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ที่เหมาะสม เพื่อมาดำรงตำแหน่งอธิการบดีแทน รศ.ดร.สุวิทย์ ซึ่งจะหมดวาระวันที่17พ.ย. 2558ซึ่งกระบวนการสรรหานี้ไม่ถือว่าเร็ว เกินไป เพราะพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยนครพนม กำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการสรรหาอธิการบดีว่าจะต้องสรรหาอธิการบดีมาแทนคนเดิมให้เสร็จภายใน6เดือนจก่อนที่อธิการบดีจะหมดวาระ อย่างไรก็ตามหาก รศ.ดร.สุวิทย์ เห็นว่ามติดังกล่าวไม่เป็นธรรมก็สามารถอุทธรณ์ได้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่การอุทธรณ์ใด ๆ
ด้าน รศ.ดร.สุวิทย์ กล่าวว่า ตามที่สภาฯได้มีมติสั่งปลดตนนั้น ตนได้ไปฟ้องศาลปกครองแล้ว เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากเห็นว่านายกสภาฯและสภามหาวิทยาลัยฯไม่มีอำนาจที่จะมาสั่งปลดอธิการบดีได้ นอกจากนี้กำลังดูว่าจะไปฟ้องศาลอาญาด้วยว่านายกสภามหาวิทยาลัย และสภามหาวิทยาลัย ประพฤติมิชอบ เพราะที่ผ่านมาสภามหาวิทยาลัยฯได้อ้างว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินระบุผลการตรวจสอบว่าตนได้กระทำการทุจริต แต่ตนได้พบผู้ว่าการตรวจเงินแผ่น เพื่อขอรายงานผลการตรวจสอบ แต่ผู้ตรวจการแผ่นดิน แจ้งว่ายังไม่เห็นรายงานเรื่องนี้ และจะติดตามให้
อนึ่ง ที่ประชุมสภา มนพ.เคยมีมติพักงาน รศ.ดร.สุวิทย์ เป็นเวลา90วัน และให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง กรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสภา พบที่สร้างความเสียหายให้แก่มหาวิทยาลัยและเข้าข่ายความผิดทางวินัยและผิด กฎหมายทั้งอาญาและแพ่งอาทิ การเปิดหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิตนอกสถานที่ เปิดหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิตนอกสถานที่ตั้ง
โดยไม่ขออนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย และให้บุคคลนอกมหาวิทยาลัยมานำหลักสูตรไปเปิดโดยมหาวิทยาลัยไม่รับรู้ ฯลฯ นอกจากนี้ สภามนพ. เคยมีมติให้ รศ.ดร.สุวิทย์ พ้นจากตำแหน่งอธิการบดีไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม2557เนื่องจาก รศ.ดร.สุวิทย์ ได้รับคะแนนการประเมินในเกณฑ์ที่ไม่ผ่าน ซึ่ง รศ.ดร.สุวิทย์ ได้ฟ้องศาลปกครองและศาลปกครองอุดรธานีได้มีคำสั่งให้ทุเลาการใช้คำสั่งสภา มนพ. ในการปลดอธิการบดีไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาเป็นอย่างอื่นในวันที่17ธันวาคม2557ทำให้นายสุวิทย์ กลับเข้ามาทำหน้าที่อธิการบดีได้ต่อ