ม.44 แก้ธรรมาภิบาลประเดิมเชือด 2 ราชภัฏ “สุรินทร์-ชัยภูมิ”
นายกฯ ใช้อำนาจม.44 แก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในอุดมศึกษา เปิดทาง รมว.ศึกษาธิการ มีอำนาจจัดการม.รัฐที่มีปัญหา พร้อมให้คำสั่งมีผลบังคับใช้กับ “มรภ.สุรินทร์-มรภ.ชัยภูมิ”
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 39/2559 เรื่องการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงนามวันที่ 13 กรกฎาคม ระบุว่า ตามที่ปรากฎข้อเท็จจริงสถาบันอุดมศึกษาบางแห่ง เปิดการสอนและจัดการศึกษาทั้งในและนอกสถานที่ โดยใช้หลักสูตรที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ผลิตบัณฑิตที่มีปัญหาด้านคุณภาพ และไม่สอดคล้อกับความต้องการของประเทศ ซึ่งสภาสถาบันอุดมศึกษาบางแห่งอาศัยอำนาจและช่องว่างทางกฎหมายดำเนินการใน ลักษณะที่ส่อเจตนาแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว หรือเพื่อให้คงอยู่ในตำแหน่งต่อไป มีการกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม จนกระทั่งเกิดปัญหาร้องเรียนและฟ้องร้อง ทางคดีเป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา แม้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้พยายามใช้กลไกทางกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ให้สถาบันอุดมศึกษาดังกล่าว แก้ไข ทบทวน หรือดำเนินการใหม่ในเรื่องต่าง ๆ แล้ว แต่ไม่อาจทำให้ปัญหาคลี่คลายได้โดยเร็ว การดำเนินการของสถาบันอุดมศึกษาเหล่านี้จึงไม่สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล และส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาของประเทศโดยตรง ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิรูปการศึกษาของรัฐบาล และธำรงไว้ซึ่งความเป็นสถาบันทางวิชาการชั้นสูงของสถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่ง จึงจำเป็นต้องแก้ไขสถานการณ์ความไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรมของการดำเนินการ ของสถาบันอุดมศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพ และสร้างความมั่นใจแก่สังคมโดยรวมต่อไป
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 หัวหน้า คสช.โดยความเห็นชอบของ คสช.มีคำสั่ง ดังต่อไปนี้ 1.ในคำสั่งนี้ “สถาบันอุดมศึกษา” หมายความว่า สถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่อยู่ในสังกัดและในกำกับ ของ ศธ.และให้หมายความรวมถึงสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนด้วย
2.ในกรณีที่ปรากฏว่าการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภา สถาบันอุดมศึกษา กรรมการสภาฯ หรืออธิการบดี ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้ รมว.ศึกษาธิการ มีอำนาจยับยั้งการแต่งตั้ง หรือการดำเนินการเพื่อได้มาผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
3.เพื่อ ให้การดำเนินการของสถาบันอุดมศึกษา มีประสิทธิภาพสูงสุด การแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งนายกสภาฯ กรรมการสภาฯ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภาฯ จะดำรงตำแหน่งนายกสภาฯ ในเวลาเดียวกัน สำหรับผู้ที่ดำรงตำแหน่งนายกสภาฯ 2 แห่งแล้ว อาจจะรับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกสภาฯ ได้อีกไม่เกิน 1 แห่ง ส่วนผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ 1 แห่งอาจจะรับแต่งตั้งได้ไม่เกิน 2 แห่ง กรณีดำรงตำแหน่งกรรมการสภาฯ ครบ 4 แห่งไม่อาจรับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกสภาฯ หรือกรรมการสภาฯ ในเวลาเดียวกันได้อีก
ผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภาฯ หรือกรรมการสภาฯ ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐตามวรรคหนึ่ง ไม่มีสิทธิ์ได้รับค่าตอบแทน เบี้ยประชุม หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดนอกเหนือจากในฐานะนายกสภาฯ หรือกรรมการสภาฯ จากสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้น เว้นแต่เป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่ รมว.ศึกษาธิการ กำหนดหรือให้ความเห็นชอบ ความในวรรคหนึ่งและวรรคสอง ไม่นำมาใช้บังคับแก่ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกสภาฯ หรือกรรมการสภาฯ อยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้
4.ให้ คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) รายงานต่อ รมว.ศึกษาธิการ เมื่อปรากฎว่าสภาสถาบันอุดมศึกษา หรือ สถาบันอุดมศึกษาแห่งใด มีกรณีดังต่อไปนี้ 1.จัดการศึกษาไม่เป็นไปตามมาตรฐานอุดมศึกษา หรือมาตรฐานหลักสูตร จนอาจก่อให้เกิดความเสียหาย แก่นิสิต นักศึกษา ระบบการศึกษา สังคม หรือประเทศชาติ 2.จงใจหลีกเลี่ยง หรือประวิงการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับของสถาบันอุดมศึกษา หรือคำสั่งของ รมว.ศึกษาธิการ ที่สั่งการตามคำสั่งนี้ หรือตามกฎหมาย 3.นายกสภาฯ กรรมการสภาฯ หรือผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต 4.ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในสถาบันอุดมศึกษา จนสภาฯ หรือสถาบันอุดมศึกษา ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้ดำเนินการตามวรรคหนึ่ง กกอ.อาจจะตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือมอบหมายบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือหลายคนตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
5.เมื่อ มีกรณีตามข้อ 4 ให้รมว.ศึกษาธิการ โดยคำแนะนำของ กกอ.มีอำนาจสั่งการให้สภาฯ หรือสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้น ยับยั้งการรับนิสิต นักศึกษา ปิดหลักสูตร ยุติการจัดการศึกษา หรือดำเนินการอื่นใด ใน การดำเนินการตามวรรคหนึ่งให้ รมว.ศึกษาธิการ มีอำนาจขอข้อมูลจากบุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือสั่งให้ดำเนินการในเรื่องเกี่ยวกับการได้มาซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในสถาบันอุดมศึกษา ภายในระยะเวลา หรือให้ดำเนินการใด ๆ เพื่อระงับ ยับยั้ง หรือยุติ เหตุที่เกิดขึ้นนั้น
6.เมื่อ มีกรณีตามข้อ 4 และปรากฏว่าสภาฯ หรือสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้น เป็นสภาฯ หรือสถาบันอุดมศึกษา ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วย สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ให้รมว.ศึกษาธิการ โดยคำแนะนำของ กกอ.มีอำนาจสั่งให้สถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้นอยู่ในการควบคุมของ สกอ.ตามมาตรา 68 วรรคสอง แห่งพ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546
7.ให้ สภาฯหรือสถาบันอุดมศึกษา ดำเนินการทางอาญา ทางละเมิด หรือทางวินัยแก่ผู้ซึ่งได้กระทำการให้เกิดเหตุตามข้อ 4 ด้วย
8.ให้รมว.ศึกษาธิการ โดยคำแนะนำของกกอ.กำหนดมาตรการให้สถาบันอุดมศึกษา แก้ไขเยียวยาความเดือดร้อน หรือเสียหายให้แก่นิสิต นักศึกษา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามข้อ 5 หรือข้อ 6 หรืออาจสั่ง หรือมอบหมายให้สถาบันอุดมศึกษาอื่น แก้ไขเยียวยา ความเดือดร้อน หรือเสียหายของนิสิต นักศึกษาเหล่านี้ด้วยก็ได้
ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง สภาฯ และผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา หรือบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา ที่ถูกดำเนินการตามข้อ 5 หรือข้อ 6 ไม่พ้นจากความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่นิสิต นักศึกษา
9.ให้รมว.ศึกษาธิการ โดยคำแนะนำของ กกอ.มีอำนาจสั่งให้ผู้ดำรงตำแหน่งใดในสถาบันอุดมศึกษา หยุดการปฏิบัติหน้าที่ พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ หรือให้ไปปฏิบัติงานในหน่วยงานแห่งอื่น และแต่งตั้งหรือมอบหมายให้บุคคลใด บุคคลหนึ่ง หรือหลายคนเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต่าง ๆ ในสถาบันอุดมศึกษานั้น ในกรณีที่นายกสภาฯ และกรรมการสภาฯ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ทั้งคณะ ให้รมว.ศึกษาธิการ แต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน จำนวนไม่น้อยกว่า 5 คนแต่ไม่เกิน 15 คน ผู้ ซึ่งถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน เบี้ยประชุม สิทธิประโยชน์ หรือเงินประจำตำแหน่งใด ตำแหน่งนั้น และผู้ที่ได้รับหรือมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ในสถาบันอุดมศึกษาตามคำสั่งนี้มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน เบี้ยประชุม สิทธิประโยชน์ หรือเงินประจำตำแหน่ง ตามระเบียบราชการ หรือสภาฯ กำหนดแล้วแต่กรณี
10.ผู้ ซึ่งได้รับตำแหน่งหรือมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งนี้ ได้กระทำการตามอำนาจหน้าที่โดยสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่เกินสมควรแก่เหตุย่อมได้รับความคุ้มครองและไม่ต้องรับผิดทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ได้รับความเสียหายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากทางราชการ ตามกฎหมาย ว่าด้วย ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
11.การแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อน หรือเสียหายแก่นิสิต นักศึกษาตามข้อ 8 รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามคำสั่ง ให้เบิกจ่ายจากสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นต้นเหตุแห่งการนั้น
12.เมื่อ คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ให้ดำเนินการตามคำสั่งนี้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) สุรินทร์ และ มรภ.ชัยภูมิ โดยทันที การนำข้อ 4,5,6,7,8,9,10 และ 11 มาบังคับใช้แก่สถาบันอุดมศึกษาอื่น นอกเหนือจากสถาบันอุดมศึกษาตามวรรคหนึ่ง ซึ่งกระทำผิดกฎหมายหรือมีกรณีตามข้อ 4 และแก้ไขเยียวยาโดยมาตรการปกติไม่ได้ หรือล่าช้าจนเกิดความเสียต่อระบบ หรือนิสิต นักศึกษาจำนวนมากให้เป็นไปตามที่ คสช.กำหนด
13.ใน กรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของ รมว.ศึกษาธิการ และ14.สถาบันอุดมศึกษาใดมิได้อยู่ในสังกัดหรือกำกับดูแลของ ศธ.ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแล หรือรักษาการตามพ.ร.บ.จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษานั้น มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือสั่งให้ สถาบันอุดมศึกษานั้น ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ โดยอนุโลม โดยจะขอคำแนะนำจาก กกอ.ด้วยหรือไม่ก็ได้ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งนี้ให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของ รัฐมนตรีตามวรรคหนึ่ง โดยคำสั่งนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
“คำสั่งนี้ จะมีผลบังคับใช้ทันทีกับมรภ.ราชภัฏสุรินทร์ และมรภ.ชัยภูมิ เนื่องจากมีปัญหาขัดแย้งมายาวนาน คาราคาซังมานานหลายปี และแก้ปัญหาไม่ได้ ส่วนมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่มีปัญหาอยู่ในปัจจุบัน กกอ. สามารถส่งคณะทำงานเข้าไปตรวจสอบ และหากพบ ว่ามีประเด็นปัญหา ที่ต้องเข้าไปควบคุม สามารถเสนอให้ตนพิจารณาสั่งตั้งคณะกรรมการควบคุมเข้าไปดูแลได้ทันที โดยคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ ทั้งกับมหาวิทยาลัยรัฐ เอกชน รวมถึงมหาวิทยาลัยสังกัดกระทรวงอื่น ๆ ด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าคำสั่งดังกล่าว จะเข้าไปเพื่อแก้ปัญหา หากมหาวิทยาลัยมีธรรมาภิบาลดีขึ้นแล้ว ก็จะถอยออกมาให้มหาวิทยาลัยดูแลเองตามเดิม ส่วนที่ให้นายกสภาฯ ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 3 แห่ง นั้น หากใครเป็นเกินอยู่แล้วในปัจจุบัน ก็ให้ดำรงต่อไปจนครบวาระ เพราะถือว่า คำสั่งนี้ยังไม่ประกาศใช้ แต่ต่อไปจะเป็นเกินกว่าที่กำหนดไว้ไม่ได้”พล.อ.ดาวพงษ์กล่าว และว่า ส่วนที่นายกฤณพงศ์ กรติกร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) แต่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสภาฯ และกรรมการสภาฯ อยู่หลายแห่งนั้น จะยังถือว่ามีสิทธิรับตำแหน่งนายกสภามก. อีกหรือไม่นั้น เรื่องนี้นายกฤณพงศ์ ต้องพิจารณาเอง ซึ่งหากเป็นนายกสภา เกินกว่า ที่คำสั่งกำหนด ก็อาจเลือกลาออกที่ใดที่หนึ่งแล้วมารับตำแหน่งที่ใหม่ก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันกลุ่มคณจารย์ พนักงานมหาวิทยาลัย บุคลากร ศิษย์เก่าแลศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ทั้ง 4 วิทยาเขต คือ วิทยาเขตบางพระ อุเทนถวาย จันบุรี และจักรพงษภูวนารถ ได้มายื่นหนังสือถึงรมว.ศึกษาธิการ ของให้ใช้ม.44 ดำเนินการกับนายกสภาฯ กรรมการสภาฯเสียงข้างมาก กรณีมีมติถอนถอนอธิการบดีอย่างไม่เป็นธรรม และแต่งตั้งพรรคพวกในสภาฯมารักษาราชการแทนอธิการบดี และรองอธิการบดี โดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และไร้ธรรมาภิบาล