“แม้เราจะเป็นคนพิการ แต่ได้งานทำหลังจากลงทะเบียนกับศูนย์สมาร์ท จ๊อบ ทำให้รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากค่ะ ที่สามารถหางานทำได้ รู้สึกมีความสุข ดีใจ และจำทำงานเพื่อสร้างคุณค่าให้ตัวเองและคนอื่นต่อไปค่ะ” กัลยา ปันเป็ง หรือหมวย อายุ 29 ปี เป็นผู้พิการหลังจากถูกรถชนเมื่ออายุ 10 ขวบ จนต้องตัดขาขวา ทุกวันนี้เธอใส่ขาเทียม และได้งานทำเป็นเจ้าหน้าที่จัดหางานที่ ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย หรือ Smart Job Center ตั้งอยู่ที่กระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี ดินแดง มาประมาณ 2 เดือนแล้ว
ก่อนหน้านี้ กัลยา เรียนจบ ป.ตรี คณะบริหาร สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จาก ม.เจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ แล้วไปทำงานที่บ้านเกิด จ.ตาก เมื่อทราบข่าวว่ารัฐบาลมีศูนย์ฯ นี้ จึงได้ลงทะเบียนสมัครงานทางระบบเวบไซท์ของศูนย์ กระทั่งนายจ้างที่เรียกมาสัมภาษณ์และให้ทำงานคือ ศูนย์ฯ แห่งนี้เอง ด้วยเงินเดิอน 15,000 บาท โดยมีหน้าที่จัดหางานให้กับคนพิการที่มาสมัครงานกับศูนย์ ตั้งแต่การลงทะเบียน และจัดหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมให้กับคนพิการประเภทต่าง ๆ ซึ่งเป็นงานที่เธอรัก และภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
ศิริพร อิ่มทั่ว อายุ 61 ปี อดีตข้าราชการ จากกรมการค้าภายใน กระทรวงพานิชย์ ที่เพิ่งเกษียณอายุงาน กล่าวว่า ได้มาสมัครงานกับศูนย์ฯ เพราะอยู่บ้านเฉย ๆ รู้สึกเหงา เมื่อทราบข่าวว่ารัฐบาลมีนโยบายช่วยให้ผู้สูงอายุได้มีงานทำ และมีการเปิดรับสมัครงานที่ศูนย์ฯแห่งนี้ จึงมาสมัครงาน โดยทางครอบครัวก็สนับสนุน เพราะเห็นว่ายังมีเรี่ยวแรง และความสามารถในการทำงานได้อยู่
“ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย หรือ Smart Job Center จัดตั้งเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ โดยแรงงานไทยจะสามารถเข้าถึงตำแหน่งงานว่างที่มีคุณภาพ มีงานทำที่ดี มีรายได้มั่นคง โดยมุ่งเน้นให้คนไทยมีงานทำในทุกพื้นที่ และส่งเสริมการจ้างงานในทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย ผ่านบริการส่งเสริมการมีงานทำแบบครบวงจร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แนะการแนวอาชีพ และให้ข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน” สิงหเดช ชูอำนาจ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าว
นอกจากนี้ ผู้ที่ไม่สะดวกในการเดินทางมาติดต่อโดยตรงที่ศูนย์ฯ สามารถใช้บริการผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตwww.doe.go.th/smartjobได้ทุกที่ทุกเวลา หรือทาง Smart Phone ที่ Smartjob Mobile App
ผลการดำเนินงานของศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 จนถึง พฤศจิกายน 2559 มีผู้สมัครงาน 618,477 คน บรรจุงาน 396,529 คน ก่อให้เกิดรายได้คิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 89,199,812,292 บาท สำหรับปี 2560 จะพัฒนารูปแบบการให้บริการ โดยเชื่อมโยงข้อมูลระบบสารสนเทศกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นศูนย์รวมตำแหน่งงานภาครัฐและภาคเอกชน เป็นการลดขั้นตอนเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน
นอกจากนี้คนพิการ สถานประกอบการ และหน่วยงานภาครัฐที่ต้องการยื่นขอสิทธิตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 สามารถยื่นเรื่องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ เว็บไซต์www.doe.go.th/smartjob
และที่สำคัญจะได้จัดทำระบบงานและเครื่องมือในการสรรหาบุคลากร เพื่อให้คนหางานได้งานที่ตรงตามความถนัด ความรู้ ความสามารถของตนเอง และนายจ้างได้คนทำงานตรงตามคุณสมบัติที่ต้องการ ทำให้เกิดการจ้างงานที่ยั่งยืน ทั้งนี้ คนหางานและนายจ้าง/สถานประกอบการสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
ทั้งนี้สถานการณ์การมีงานทำในปี 2560 ด้วย ว่า ในช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา กกจ. ได้รับแจ้งความต้องการแรงงานจากนายจ้างและสถานประกอบการ 32,728 อัตรา โดยอุตสาหกรรมที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุดได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิต 13,499 อัตรา การขายปลีก-ขายส่ง ซ่อมรถยนต์ จักรยาน ยนต์ ที่พักแรม และบริการด้านอาหาร 2,338 อัตรา ส่วนอาชีพที่ต้องการแรงงานมากที่สุด ได้แก่งานพื้นฐานแรงงานทั่วไป และแรงงานด้านการผลิต พนักงานบริการ พนักงานขาย เสมียน เจ้าหน้าที่ ช่างเทคนิคและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง
ปัจจุบันอัตราว่างงานมีไม่มาก แต่ที่ยังมีคนว่างงาน ส่วนหนึ่งเพราะจบมาไม่ตรงกับความต้องการของตลาด กกจ. ได้วิเคราะห์ทิศทางอาชีพในปี 2558 – 2562 พบว่า อาชีพที่มีแนวโน้มอัตราการขยายตัวเพิ่มมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ นักบำบัดด้านการฟังและการพูด นักกายภาพบำบัด ครูสอนขับรถ เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยแพทย์ และแพทย์ชำนาญการเฉพาะทาง