คืนผู้ป่วย"ออทิสติก”3แสนคนสู่สังคม
กรมสุขภาพจิต หนุนพัฒนาคุณภาพชีวิต ผู้ป่วย“ออทิสติก”3 แสนคน เข้าสู่สังคม มีงานทำ มีความสุข
26 ก.ย.60 - นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ จ.สมุทรปราการ และติดตามปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานจัดบริการรักษาพยาบาลเด็กที่ป่วยเป็นโรคจิตเวชในปี2560ว่า จากรายงานพบว่างานมีความก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้นอกจากมีความเชี่ยวชาญรักษาโรคจิตเวชเด็กทุกโรคแล้ว ยังมีความเชี่ยวชาญพิเศษในด้านการดูแลเด็กที่เป็นโรคออทิสติก (Autistic) มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกและเป็นศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้งในและต่างประเทศรวมทั้งการเยี่ยมเยียนจากองค์การอนามัยโลกมาอย่างต่อเนื่องกว่า30ปี พัฒนามาตรฐานเครือข่ายการจัดบริการดูแลโรคจิตเวชในเด็กและวัยรุ่นรวมทั้งออทิสติกในเขตสุขภาพทั่วประเทศ
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สำหรับโรคออทิสติกนี้ เป็นโรคที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม เด็กจะมีร่างกายปกติ สมองปกติ แต่มีปัญหาการสื่อสาร พฤติกรรมและอารมณ์ ผลการสำรวจล่าสุดในปี2557พบว่าคนไทยป่วยด้วยโรคออทิสติกประมาณ300,000คน พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงเกือบ5เท่าตัว ในปี2560นี้ กรมสุขภาพจิตได้เน้นการเข้าถึงบริการรักษาและกระตุ้นแก้ไขพัฒนาการและปรับพฤติกรรม โดยใช้มาตรการตรวจคัดกรองหาเด็กที่อายุต่ำกว่า5ขวบที่มีลักษณะของเฉพาะของโรคนี้คือ ไม่สบตา ไม่พาที และไม่ชี้นิ้ว เพื่อเข้ารับการรักษา ซึ่งจะให้ผลดีมากหากพบผู้ป่วยได้เร็ว ในภาพรวมการจัดบริการในเขตสุขภาพทั้ง13เขต พบว่าการเข้าถึงบริการดีขึ้น ปัญหาที่พบในระบบริการขณะนี้ คือการขาดแคลนบุคลากรด้านการฝึกพูด เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้สื่อสารไม่ได้ ในปีนี้กรมสุขภาพจิตจะจัดหลักสูตรอบรมให้แก่พยาบาลสถานพยาบาลเครือข่ายทุกเขตสุขภาพ เพื่อให้เด็กได้รับบริการใกล้บ้าน
นาวาอากาศตรี นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์
สำหรับในกลุ่มเด็กออทิสติกอายุ6ปึขึ้นไป ซึ่งเริ่มเข้าสู่วัยเรียน มุ่งเน้นพัฒนาระบบบริการที่เชื่อมโยงกับโรงเรียน เพื่อเตรียมเข้าสู่สังคม ระบบการศึกษาและการสร้างอาชีพตามศักยภาพของเด็ก เพื่อให้เด็กและครอบครัวมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่า รพ.ยุวประสาทฯ ได้จัดโปรแกรมพัฒนาทักษะทางสังคมให้สามารถปรับตัวอยู่ในโรงเรียนและสังคมได้ในช่วงปิดเทอม มีโปรแกรมการดูแลต่อเนื่อง เชื่อมโยงกับโรงเรียนโรงพยาบาลและครอบครัว และจัดโครงการฟื้นฟูพัฒนาทักษะทางอาชีพและสังคมเพื่อการมีงานทำสำหรับบุคคลที่เป็นออทิสติก โดยร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนกว่า10บริษัทอาทิ ชิโน-ไทย เอนจิเนียริ่ง เอสแอนด์พี เอ็มเค โมเดิร์นฟอร์ม อุดมเอก รพ.มนารมย์ รพ.สุขสวัสดิ์ รพ.บางนา5เป็นต้น
ทั้งนี้รพ.ยุวประสาทฯจะเตรียมความพร้อมให้ฝึกการทำงานจริงในหน่วยงานต่างๆของรพ. โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นครูฝึกเป็นเวลา1ปี โดยไม่ได้รับเงินเดือน จากนั้นจะประเมินผลการฝึกปฏิบัติงานตามาตรฐาน ก่อนส่งไปทำงานจริงในสถานประกอบการ และจะติดผลการทำงานอย่างต่อนื่องเป็นระยะ กรณีมีปัญหาทางรพ.จะเข้าไปช่วยเหลือแนะนำที่บริษัท เริ่มโครงการตั้งแต่พ.ศ.2555จนถึงปัจจุบัน ปีละ1รุ่น รุ่นละ10-15คน มีบุคคลออทิสติกจากภายนอกเข้าร่วมโครงการ56คน ขณะนี้ได้รับการจ้างงานแล้ว50คน และอยู่ระหว่างฝึกงานที่รพ.ยุวประสาทอีก10คน จะจบโครงการเดือนธันวาคม2560โดยมีบริษัทจองตัวแล้ว4คน กรมสุขภาพจิตได้วางแผนขยายโครงการนี้ ในปี2561-2562โดยผ่านเครือข่ายผ่านชมรมออทิสติกทั่วประเทศในทุกจังหวัด และรพ.จิตเวชฯในสังกัดกรมสุขภาพจิต เพื่อให้บุคคลที่เป็นออทิสติกในต่างจังหวัดได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการและสามารถทำงานได้ตามศักยภาพ
แพทย์หญิงรัชนี ฉลองเกื้อกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ กล่าวว่าจากการติดตามผลโครงการฯ ในปี2559พบว่า บุคคลออทิสติกมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีความรับผิดชอบสูง ทำงานตรงเวลา ผลงานเป็นที่ยอมรับของสถานประกอบการ โดยส่วนใหญ่ทำงานในงานสำนักงาน ยังมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร สัมพันธภาพอยู่บ้าง มีรายได้มากกว่า10,000บาทต่อเดือน มีเงินเก็บสามารถช่วยเหลือครอบครัวได้ ในจำนวนนี้สามารถสอบบรรจุเป็นข้าราชการครูสอนเด็กพิเศษในโรงเรียนในจ.สมุทรปราการ1คน ทำงานที่การไฟฟ้า1คน ในส่วนของผู้ปกครองพบว่ามีความสุขขึ้น บางคนบอกว่า หมดห่วง โล่งใจนอนตายตาหลับได้แล้ว โดยเด็กในโครงการนี้มีไอคิวอยู่ในระดับใกล้เคียงปกติ สามารถเรียนจบการศึกษาระดับอนุปริญญาขึ้นไป บางรายมีความสามารถพิเศษทางด้านคอมพิวเตอร์