ไลฟ์สไตล์

ผู้บริหารสธ.ยันไม่ได้ชนแล้วหนีปัดตอบดื่มน้ำเมาหรือไม่(มีคลิป

ผู้บริหารสธ.ยันไม่ได้ชนแล้วหนีปัดตอบดื่มน้ำเมาหรือไม่(มีคลิป

13 พ.ย. 2560

นพ.ยอร์น ผู้บริหารสธ.ขับรถชนรปภ. ยันไม่ได้ชนแล้วหนี แต่ปัดตอบดื่มน้ำเมาหรือไม่ แจ้งญาติยินดีรับผิดชอบช่วยเหลือทุกอย่าง อาการคนไข้ยังวิกฤติ

      จากกรณีที่ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ขับรถชนรปภ.ที่บริเวณประตูเข้ากระทรวงสาธารณสุข ซึ่งผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู รพ.พระนั่งเกล้า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560นั้น
       เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)และโฆษกสธ. เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่ภายในห้องไอซียู รพ.พระนั่งเกล้า จากนั้นเวลา 17.10 น.ได้ออกมาแถลงข่าวร่วมกับนพ.ยอร์น จิระนคร  สาธารณสุขนิเทศก์เขต 12 ผู้ที่ขับรถชนรปภ.
        นพ.ยอร์น กล่าวว่า ตนยอมรับในสิ่งที่กระทำและผลที่ตามมา ซึ่งตนไม่ได้ตั้งใจอยากให้เกิดขึ้นที่ขับรถพุ่งชนคุณสมชาย และได้ให้ข้อมูลที่เกิดขึ้นกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ส่วนการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย ได้มีการพูดคุยกับญาติว่า ตนยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง ส่วนจะเป็นเรื่องไหนอย่างไรจะหารือรายละเอียดกับทางญาติคุณสมชายอีกครั้ง และการออกมายอมรับและเผชิญกับความจริงเป็นสิ่งที่ควรกระทำ

      ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะขับรถได้ดื่มเครื่องอื่มแอลกอฮอล์มาก่อนหรือไม่  นพ.ยอร์น กล่าวว่า ตนได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจแล้ว ซึ่งเรื่องในส่วนที่เป็นคดีขออนุญาตให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

        "ยืนยันว่าผมได้จอดรถและชวยเหลือผู้บาดเจ็บ ยืนยันไม่ได้ขับชนแล้วหนี ซึ่งถ้าผมอธิบายจะเป็นเรื่องแก้ตัว ประตูที่ปิดและบริเวณนั้นมืด ผมมองไม่เห็น แต่รถคันหน้าของผมขับเข้าไปก่อน แต่เมื่อเกิดเหตุไปแล้วแอร์แบ็กระเบิด แล้วผมก็หยุด ซึ่งในรายละเอียดในส่วนเหล่านี้จะให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ผมไม่ได้ขับรถมาเร็ว แต่ไม่แน่ใจว่าความเร็วเท่าไร" นพ.ยอร์น กล่าว

         ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบหรือไม่ว่าขับรถชนคนและมีคนเข้าไปอยู่ใต้รถ  นพ.ยอร์น กล่าวว่า ตนคิดว่าขับรถชนประตู ไม่ทราบว่าชนคน จนกระทั่งมีคนตะโกนบอก หลังจากนั้นจึงหยุดรถและให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ให้รถฉุกเฉินมาช่วย แต่ตนไม่ได้เข้าปฐมพยาบาลด้วยตัวเองมาก เพราะสิ่งที่คิดว่าอยากให้ทำเร็วที่สุดคือ นำผู้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล 

          นพ.ยอร์น กล่าวว่า ส่วนที่เกี่ยวข้องกับรายละเอียดเกิดอุบัติเหตุ ขอให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยืนยันว่า ณ จุดนั้นมืดจริง จะบอกว่าชนประตู ชนคน ซึ่งตนไม่เห็นทั้งประตูทั้งคน ถ้าเห็นคงไม่ชน และหลังจากเกิดเหตุตนไม่ได้ตามผู้เสียหายไปที่โรงพยาบาล เนื่องจากต้องไปให้การที่สถานีตำรวจ

         "ข้อเท็จจริงผมก็ให้ได้เท่าที่เป็นข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องของคดีและในรายละเอียดก็ต้องเป็นเรื่องของตำรวจ ส่วนที่ว่าชนแล้วทำไมรถยังเคลื่อนต่อไปข้างหน้านั้น ผมตอบไม่ได้จริงๆ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การชนแล้วหนี หนีไม่ได้อยู่แล้ว ที่วันเกิดเหตุขับรถเข้ามาบริเวณดังกล่าวช่วงเวลาค่ำ เพราะต้องการทะลุผ่านไปออกซอยอัคนี ซึ่งเป็นอีกด้านของกระทรวงสาธารณสุข และเส้นทางนี้ไม่ได้เป็นเส้นทางประจำในการขับรถ" นพ.ยอร์น กล่าว

          ผู้สื่อข่าวถามว่าประตูมีน้ำหนักพอสมควร เมื่อชนแล้วทำไมจึงไม่จอดรถ นพ.ยอร์น คิดอยู่ระยะหนึ่งและทวนคำถามว่า ทำไมถึงไม่จอดรถ ก่อนตอบว่า ตนไม่ได้เร่งเครื่องอะไร ยืนยันว่าไม่ใช่จะหลบหนี
            พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า สธ.ไม่ได้นิ่งนอนใจได้รับแจ้งเหตุตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุยังต้องรอผลการดำเนินคดีตามกฎหมายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนเนื่องจากต้องเอาผลทางคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประกอบการพิจารณาด้วย

       นพ.สกล สุขพรหม รองผอ.รพ.พระนั่งเกล้าในฐานะศัลยแพทย์ระบบประสาทเจ้าของไข้รปภ.ถูกรถชน กล่าวว่า ผู้ป่วยถูกนำส่งรพ.เวลา2ทุ่มเศษของวันที่10 พ.ย.จากการประเมินอาการ พบเลือดออกบางๆมีภาวะสมองบวมเล็กน้อยจึงได้ใส่ท่อช่วยหายใจและรักษาตามอาการ  ต่อมาจากการติดตามอาการเป็นระยะ ผู้ป่วยอาการทรุดลงในเวลา21.00น.ของวันที่11พ.ย.จึงทำการเอ๊กซเรย์พบว่ามีภาวะสมองบวมและเลือดออกมากขึ้น จึงได้ผ่าตัดเปิดกระโหลกเพื่อเอาเลือดที่คลั่งออกขณะนี้ผู้ป่วยยังไม่พ้นวิกฤติต้องใส่ท่อช่วยหายใจและติดตามอาการเป็นระยะ ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะสามารถย้ายออกจากห้องไอซียูได้ ส่วนบาดแผลอื่นๆพบว่ามีปัญหากระดูกบริเวณใบหน้าต้องรอดูการตอบสนองอื่นๆก่อนจึงจะทำการรักษาได้ ส่วนบริเวณอื่นของร่างกายไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมีเพียงบาดแผลถลอกตามร่างกาย