จอแก้ว เรื่องย่อ มือเหนือเมฆ (The last legend)
"ชนะพล-รพีภัทร-ธันน์" บู๊กันสนั่น
บทประพันธ์ อรชร
บทโทรทัศน์โดย : พิง ลำพระเพลิง
กำกับการแสดงโดย : โอริเวอร์ บีเวอร์
กำกับคิวบู๊โดย : สมใจ จันทร์มูลตรี
ผลิตโดย : Nine Bever FilmsCo., Ltd.
ทุกคืนวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
เริ่มตอนแรกพุธที่ 7 มิถุนายน 2560
รายชื่อนักแสดง
จอม รับบทโดย ชนะพล สัตยา
เฉียด รับบทโดย รพีภัทร เอกพันธ์กุล
บวร รับบทโดย ธันน์ ธนากร
บุญตา รับบทโดย กวิตา รอดเกิด
พรพรรณ รับบทโดย ณัฐชา นวลแจ่ม
จำปา รับบทโดย ป่านทอทอง บุญทอง
เจ้าสัว รับบทโดย ศตวรรษ ดุลวิจิตร
เถ้าแก่บ้วน รับบทโดย สุรวุท ไหมกัน
เสี่ยเฮง รับบทโดย เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์
ลุงแบน รับบทโดย สามารถ พยัคฆ์อรุณ
จ้อย รับบทโดย รัฐวิชญ์สหยา
ใหญ่ รับบทโดย ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ
สิชล รับบทโดย กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ
เต้ย รับบทโดย ชาลี เลิศโภคานนท์
เตี้ย รับบทโดย ภุชงค์ สาดนอก
เเจ่ม รับบทโดย สุธิตา เกตานนท์
เจิม รับบทโดย พิเชษฐ์ ศรีราชา
สารวัตรอัศวิน รับบทโดย โอริเวอร์ บีเวอร์
จ่าฉ่ำ รับบทโดย หลุยส์ เชิญยิ้ม
เวิ้งนาครเกษม รับบทโดย กษาปณ์ จำปาดิบ
หลวงพี่ รับบทโดย น้าพวง เชิญยิ้ม
สุธรรม รับบทโดย รัฐศิลป์ นลินธนาพัฒน์
ปอม รับบทโดย ธนวิทย์วงค์สุวรรณ
ตอง รับบทโดย นพฤทธิ์ ศรีบุตร
นัท รับบทโดย วินัย เวียงย่างกุ้ง
นักแสดงรับเชิญ
ผู้การคำรณ รับบทโดย พัสสน ศรินถุ
จ่าประทีป รับบทโดย วีรชัย หัตถโกวิท
เรื่องย่อ
จอม เชื่อว่าถ้าเขาสามารถกลบเสียงปืนได้ด้วยเสียงปืนในมือที่ดังกว่า ความสงบจะเกิดขึ้นทันทีแต่ปัญหาอยู่ที่ปืนกระบอกอื่นๆอีกมาก ก็พร้อมจะกลบเสียงปืนของเขาเช่นกัน สุดท้ายก็อยู่ที่ว่า......
มือใครจะเหนือกว่ากัน.....
ปีพุทธศักราช 2499จอม (ออฟ ชนะพล) เฉียด (น้ำ รพีภัทร) บวร (ธันน์ธนากร)กำลังใกล้จะจบจากเทคนิคช่างกล แต่บังเอิญว่าทั้งสามดันไปแอบดูการทำข้อตกลงของสามก๊กใหญ่ในพระนครยุคนั้น อันมีแก๊งค์ของสัว (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) บ้วน (สุรวุฑ ไหมกัน) เฮง (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์)การตกลงในครั้งนั้นไม่เป็นผล ขณะที่สามแก๊งค์เข้าต่อยตีถล่มกันอย่างเอาเป็นเอาตาย บวรหนีรอดไปกับบ้วนผู้เป็นพ่อ ส่วนจอม กับเฉียดถูกจับสอบสวนโดยสัว เหตุการณ์ในครั้งนั้น สัวประทับใจกับการมีใจเป็นนักเลงของจอม ทำให้สัวยอมปล่อยจอมกับเฉียดไป บอกว่าถ้าจอมออกจากโรงเรียนให้มาทำงานกับตน
จอม เฉียด บวร ใช้ชีวิตนักเรียนหัวไม้ จอมสนิทกับลุงแบน (สามารถ พยัคฆ์อรุณ)คนขายยาปาหี่ข้างถนน กับบุญตา (เพลง กวิตา รอดเกิด) หลานสาว บุญตาแอบชอบจอม แต่จอมไม่สนใจเพราะชอบอยู่กับพรพรรณ (ณัฐชา นวลแจ่ม)นักเรียนพานิชย์ปีสุดท้าย ผู้หลงใหลอยู่กับแสงสีและชื่อเสียงเงินทอง พรพรรณไม่สนใจจอมนักเพราะจอมมีฐานะไม่ค่อยดี เธอกลับไปสนใจบวรซึ่งเป็นลูกเถ้าแก่บ้วน
วันหนึ่งขณะที่ ลุงแบนกับบุญตากำลังเล่นปาหี่ขายยาอยู่ข้างถนน รถของสัวก็มายางแตกอยู่ไม่ไกลนัก ระหว่างรอเปลี่ยนยางสัวก็มายืนดูปาหี่ลุงแบน สัวจำได้ว่าลุงแบนคือเปี๊ยก ซัมมิทนักเลงรุ่นเก่าที่เคยมีคดีปล้นทองคำแท่งแล้วก็คดีก็เงียบหายไป พร้อมกับทองแท่งจำนวนหนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่าทองเหล่านั้นจมหายไปกับสายน้ำพร้อมกับเวิ้ง นาครเกษม (กษาปณ์ จำปาดิบ)สหายร่วมปล้นของลุงแบนรึไม่
ปาหี่ถึงช่วงปล่อยงู เกิดอุบัติเหตุงูหลุดงูพิษพุ่งเข้าหาสัว แต่ว่าจอมช่วยจับงูเอาไว้ได้ เป็นอีกครั้งที่สัวชวนจอมไปทำงานด้วย ไม่มีใครรู้ว่างูที่หลุดเป็นเพราะความตั้งใจของลุงแบนเพราะมีเรื่องราวแต่หนหลังกันมากับสัวสัวมองลุงแบนอย่างดูถูก แล้วก็นั่งรถหรูของตนเองจากไป
เมื่อวัดอินทรวิหารมีงานประจำปี จอมเกณฑ์เพื่อนๆรับงานจาก หลวงพี่พักตร์ (น้าพวง เชิญยิ้ม) ดูแลความปลอดภัยร่วมกับจ่าจ้อย(รัฐวิชญ์สหยา) และทำซุ้มร้านค้า ในวันสุกดิบ พวก สุธรรม (รัฐศิลป์ นลินธนาพัฒน์)วัดใหม่อมตรสลูกชายป่าไม้อำเภอตัวแสบพาพวกมาไถเงินแม่ค้าหาบเร่ จอมไม่พอใจ จึงมีการเดิมพันเป็นบุญตาโดยการต่อยกับสุธรรมที่มวยงานวัดแต่สุธรรมคิดวิธีโกงโดยการป้ายยาไว้ที่หมัด แต่ยังไม่ทันจะหมดยกชกก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นในงานวัด แต่สุดสุธรรมกับพวกสู้จอมไม่ได้ จึงต้องคืนเงินทั้งหมด จอมนำเงินที่ได้คืนมาส่วนหนึ่งไปบริจาควัด
จอม เฉียด บวร ยังคงคบหาเป็นเพื่อนนักเรียนกันอยู่ แล้วอยู่ๆวันหนึ่งก็มีการยกพวกตีกันของสองโรงเรียนช่าง ซึ่งจอมไม่อยากมีเรื่องด้วยเลย จอม เฉียด บวรอยู่ในวงล้อม แล้วก็พยายามช่วยเหลือกัน บวรขโมยปืนพ่อมาในการเอาตัวรอด แต่จ่าจ้อยก็มาระงับเหตุได้ในที่สุด เหตุการณ์ในครั้งนั้น เกิดการตีกันอย่างหนักแต่สุดท้ายปืนที่บวรเอามา ก็ไม่รู้ว่ามาอยู่กับจอมได้อย่างไร
จอมถูกให้ออกจากโรงเรียนทั้งแจ่ม(สุธิตา เกตานนท์)และเจิม(พิเชษฐ ศรีราชา)ยังไม่มีใครรู้ว่าจอมโดนไล่ออกจากโรงเรียน เพราะจอมยังคงแต่งชุดนักเรียนช่างกลออกจากบ้านที่เป็นร้านตัดผมไปด้วยอยู่ทุกวัน มีเพียงลุงแบนเท่านั้น ที่รู้ว่าจอมไม่ได้เป็นนักเรียนแล้ว
การขับเคี่ยวของแก๊งค์เถ้าแก่บ้วน เสี่ยเฮง และสัว รุนแรงขึ้น จนถึงขั้นยิงกันกลางเมืองจนเป็นข่าวใหญ่โต ทำให้ทางกรมตำรวจต้องเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ลุงแบนมีเรื่องให้ไปรู้มาว่า เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น จนทำให้สามก๊กกระเพื่อม เป็นเพราะสัว เขี่ยเรื่องทั้งหมด เนื่องจากโรงฝิ่นกำลังจะกลายเป็นของผิดกฎหมายในอีกปีสองปีข้างหน้า โรงฝิ่นอันเป็นภาษีบาปต่อเนื่องมาจากสนธิสัญญาเบาริ่งกำลังจะถูกยกเลิกทั้งหมด สัวจึงต้องดิ้นรนทุกอย่างเพื่อจะฮุบทั้งน้ำมัน และข้าว อันเป็นอู่เงินอู่ทองในพระนครนอกจากค้าฝิ่นมาเป็นของตน ก่อนที่จะหมดอำนาจลง
เกิดเรื่องขึ้นกับร้านตัดผม แม่จอมถูกทำร้าย ทำให้จอมต้องตัดสินใจมาทำงานกับสัวกิม เพราะต้องการสืบให้ได้ว่าใครเป็นคนที่ฆ่าแม่ สัวรับปากว่าจะช่วยจอม แต่เขาต้องให้จอมทำงานให้สักชิ้นหนึ่งก่อน เพื่อดูฝีไม้ลายมือในโลกของอาชญากร สัวลองให้จอมไปทวงหนี้ชิ้นหนึ่ง โดยให้สิชลตามไปดูด้วยแต่ไม่ให้ช่วย จอมใช้ทักษะการขู่ และรู้ทันลูกหนี้ การทวงครั้งนั้น จึงไม่ต้องมีใครเจ็บตัว แถมได้เงินกลับมาด้วยเสี่ยเฮง สั่งให้เต้ยจัดการส่งคนไปตบสั่งสอนจอมสักหน่อย เต้ยสั่งให้เฉียดไปจัดการเฉียดไม่รู้จะทำยังไงระหว่างเพื่อนกับงาน จอมมีงานคุ้มครองเพิ่มขึ้น คนของเขาถูกส่งไปทำงานที่ต่างๆได้ทั้งเงินและข้อมูล แต่จอมไม่เคยทิ้งงานดูแลวัด และแบ่งเงินให้ลูกน้องอย่างยุติธรรม จอมดูแลครอบครัวอย่างดี พรพรรณเห็นจอมสนใจงานมากกว่าเธอ เธอจึงไปเป็นนักร้องที่ห้องอาหาร
หลังถูกรุกรานจากเต้ย (ชาลี เลิศโภคานนท์)กับเตี้ย (ภุชงค์ สาดนอก) จอมยอมตกลงเพราะเห็นแก่เฉียดกับบวร และยังไม่อยากเปิดศึกทีเดียวสองด้านพร้อมกัน จอมกำลังคิดว่า ถ้าอยากชนะก๊กทั้งสอง ควรจะต้อง ดึงก๊กใดก๊กหนึ่งมาเป็นพวก เขานำแผนนี้มาปรึกษากับสัวสัวเริ่มรู้สึกว่า จอมนี่ ไม่ธรรมดา เพียงแต่ว่าตอนนี้จอมยังมีประโยชน์ต่อตนอยู่เท่านั้น ทางด้าน เฉียด ห้าวขึ้นเรื่อยๆจากการเดินตามเต้ยทำให้เฉียด บุกเดี่ยวเข้าไปยิงคู่แข่งทางการค้าของเสี่ยเฮงดับกลางสี่แยกตอนนี้เฉียดกับจอม ต่างรู้แล้วว่า ตนถือเจ้านายคนละฝั่ง
จอมมีเหตุให้ต้องไปเก็บค่าคุ้มครองบนโรงน้ำชาด้วยตัวเอง แล้วเขาก็ได้เจอกับจำปาที่ขายตัวอยู่ จอมสัญญาว่าจะไม่บอกเฉียดว่าจำปาทำงานอะไร แต่อยากขอร้องให้จำปาเลิกจากงานที่ทำอยู่ จอมออกจากโรงน้ำชามา คลาดกับบวรที่ข้ามเขตมาเที่ยวโรงน้ำชา จำปาจำเป็นต้องขึ้นงานกับบวรเป็นครั้งสุดท้าย โดยที่เธอรู้ว่า บวรกับเฉียดเป็นเพื่อนกัน
ข้าวจำนวนมากโดนขนไปจากท่าข้าวทรงวาดมีหลักฐานชี้ว่ากลุ่มที่ดำเนินงานเป็นพวกเสี่ยเฮง เช่นเดียวกันกับที่น้ำมันเถื่อนจำนวนมากของเสี่ยเฮงหายไปจากเรือประมงระหว่างการขนถ่ายนอกน่านน้ำทะเลไทย มีหลักฐานว่าก๊กที่เอาน้ำมันไปคือพวกสัว ขณะเดียวกันฝิ่นล็อตใหญ่ก็โดนซิกแซกหายไปโดยมีหลักฐานว่าพวกที่เอาไปคือเถ้าแก่บ้วน สงครามกรุ่นขึ้นอีกครั้งจนทางการต้องส่งผู้กำกับการตำรวจมือดีลงมาดูแลไม่ให้มีการรบกันกลางเมืองเกิดขึ้น ข่าวทั้งหมดทางหน้าหนังสือพิมพ์อยู่ในสายตาของลุงแบน คนเร่ขายยาโดยตลอด เขาสืบจนรับรู้มาจากพี่ใหญ่พวกจับกังที่จอมได้ใจไปเต็มๆเพราะการเป็นนักเลงติดดินของจอม ว่าเบื้องลึกจริงๆแล้วครั้งแรกสุดที่ข้าวหายไป เกิดจากจอมต้องการเขี่ยให้มังกรสามตัวฟาดฟันกัน ลุงแบนพยายามตักเตือนจอมอยู่กลายๆแต่จอมมีเป้าหมายใหญ่มากกว่านั้น เขากำลังคิดว่า ถ้าเขาสามารถคอนโทรลทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง เสียงปืนจากทุกๆก๊กน่าจะสงบลงได้ ลุงแบนบอกว่า แกเคยลองมาแล้ว เสียงปืนไม่อาจถูกกลบได้ด้วยเสียงปืน
เรื่องราวความรักระหว่างจอมกับพรพรรณยังคงพัฒนาไปท่ามกลางความขัดแย้งอย่างไรพรพรรณก็ไม่ยอมรับความรู้สึกดีๆจากจอม แม้ว่าเธอจะเห็นใจเขาก็ตามเช่นเดียวกับบุญตาที่ยังคงแอบชอบจอมอยู่ คือรักเขาอยู่ข้างเดียว ส่วนบวร สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยบอกกับจำปาก็คือ ว่า เขาหลงรักจำปาเป็นความสัมพันธ์แบบแปลกๆ บวรรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเลว จึงอยากดึงให้จำปาตกต่ำเป็นคนเลวเพื่อจำปาจะไปไหนไม่ได้ และจะได้เหมาะกับคนอย่างเขา แต่ในหัวใจของจำปาตอนนี้ก็มีเพียงเฉียดคนเดียวเท่านั้นเอง
พระนครยามนี้เดือดเป็นไฟ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทำตัวราวกับเป็นอัศวินดำ ตั้งตัวเป็นศาลเตี้ย ตัดสินปัญหาด้วยอาวุธปืน ไม่ต่างอะไรจากก๊กที่สี่ที่ได้รับไฟเขียวมาจากทางการ จอมกับ เฉียด รู้ตัวดีว่า ถ้าเขาอยากจะขึ้นมาใหญ่ ก็ต้องเร่งทำซะตอนนี้ เพราะสัวกิมโดนจับ และเสี่ยเฮงก็หนีออกประเทศเพื่อนบ้านไป เฉียดโดนวางแผนให้เข้าใจผิดกับเต้ยที่เป็นมือขวาของเสี่ยเฮง เฉียดได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาข้างกายของเสี่ยเฮงตามลำพังและเป็นไปตามแผน ตอนนี้เฉียดจึงกลายเป็นรองหัวหน้าเพียงคนเดียว รับอำนาจต่างๆมาจากเสี่ยเฮง กลายเป็นคู่มือที่เสี่ยเฮงไว้ใจ
สิชล(กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ) เองก็คอยจับตาดูจอม เพราะไม่ไว้ใจจอมเลย แต่สัวกิมคอยให้ตองเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของจอมและไปไหนมาไหนกับจอมตลอดนาทีนี้ เป็นยุคทองของ เฉียด บวร และจอม ที่เกือบขึ้นมาใหญ่แล้วถืออำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มีเพียงลูกพี่ ทั้งสามก๊ก ที่กำลังเริ่มอ่อนแอเพราะโดนตำรวจจับ และไม่ค่อยกล้าที่จะออกมาสู้แสงสว่างภายนอก ปล่อยให้ทั้งเฉียด บวร จอมที่กำลังห้าวไม่กลัวลูกปืนจากทางตำรวจออกมาดำเนินกิจการแทนซะเป็นส่วนใหญ่ โดยส่งตัวเลขมาให้ดูเป็นระยะๆ
การแต่งเนื้อแต่งตัวของจอมดูหรูหราขึ้น เขายังคงมาดูกิจการค้าขายยาข้างถนนเล่นกลปล่อยงูปาหี่อยู่ สภาพที่จอมมาดูลุงแบน ไม่ต่างจากวันที่สัวมาดูลุงแบนจอมพยายามชวนลุงแบนไปอยู่ด้วยเพราะอยากดูแล แต่ลุงแบนไม่พูดด้วย ลุงแบนบอกว่า สำหรับเขา จอมคนที่เคยเป็นเด็กที่มีความคิดดีนั้น ได้ตายจากเขาไปแล้ว จอมยังคงยืนยันว่าเขายังเหมือนเดิม แต่เมื่อจอมเห็นภาพสะท้อนตัวเองในกระจกที่นั่งให้เด็กขัดรองเท้าให้ เขาก็รู้แล้วว่าเขาเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
จอมอยู่เบื้องหลังการขนยาล็อตใหญ่ โดยที่เฉียดซุ่มดูอยู่ ทั้งสามต่างเผชิญหน้ากัน ไม่ต่างอะไรกับเมื่อ ครั้งเป็นเด็กที่มาแอบดู ก๊กใหญ่สามก๊กที่ผิดใจกันเมื่อครั้งโน้น แต่ก่อนที่จะขนยาสำเร็จ ตำรวจก็ยกพวกมาทลายซะก่อน ทำให้ทั้งสามเพื่อน กระจัดกระจายกลับไปเขตของตน คนที่บอบช้ำทางกายมากที่สุดคือสัวกิม ที่โดนหักหลัง และโดนตำรวจจับตัวไปในที่สุด
เวิ้ง นาครเกษม(กษาปณ์ จำปาดิบ)ออกมาจากคุกหลังจากเขาติดมาเท่าอายุของบุญตา ตลอดเวลาที่ผ่านมา เวิ้งอาฆาตมาตลอด เวิ้ง เข้าใจว่าเปี๊ยกซัมมิทหักหลังเขา เมื่อเวิ้งออกมาได้โดยที่มีแผนที่อีกครึ่งติดตัวมาด้วย เวิ้งยังไม่ได้เบาะเเสของ ลุงแบน หรือเปี๊ยก ซัมมิทเลยพรพรรณขณะนี้เริ่มมีใจโอนเอียงมาทางจอม เพราะจอมราศีดีขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับบุญตา เพราะจอมให้การช่วยเหลือให้บุญตากับลุงแบนอยู่ในที่ปลอดภัย บุญตาพยายามถามถึง แม่กับพ่อ ตนว่าเป็นใคร แต่ลุงแบนก็บ่ายเบี่ยงที่จะพูดถึงมาโดยตลอด
ลุงแบนอ่านตามสถานการณ์หลายๆอย่างที่เกิดขึ้น ที่ผลักให้ทุกคนไปอยู่จุดนั้น เฉียด นาทีนี้ที่หลงใหลในอำนาจ เขารู้แล้วว่า ลุงแบนคือ เปี๊ยก ซัมมิท เฉียดเลยบอกเวิ้ง เรื่องแผนที่อีกครึ่งและลุงแบน โดนจับตัวเพื่อให้นำทางไปหาสมบัติเพราะลุงแบนมีแผนที่อีกครึ่งหนึ่งอยู่ เช่นกัน บวรด้วยความแค้นจึงจับตัวพรพรรณเข้าป่าไปด้วย จอมด้วยความเป็นห่วงลุงแบนจึงวางแผนตามไปโดยที่ไม่รู้ว่าบุญตาได้แอบตามไปด้วย
แล้วก็ถึงวันที่สามเพื่อน ขึ้นมาใหญ่ โดยที่ไม่ต้องอยู่ใต้เงาของใครอีกแล้ว ที่เคยบอกว่าจะกลบเสียงปืนด้วยเสียงปืนทำไมไม่เห็นเป็นจริง ต้องรอให้เหลือปืนกระบอกสุดท้าย พระนครจึงจะสงบเงียบไร้เสียงปืนได้!!!