หอภาพยนตร์ฯเตรียมฉายหนังอมตะ

    หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เตรียมฉายหนัง “มนต์รักแม่น้ำมูล” ที่มีอายุเกือบ 40 ปี มีเพลงไพเราะที่ยังคงเป็นอมตะหลายเพลง อาทิ “มนต์รักแม่น้ำมูล” “ลูกทุ่งคนยาก” “ฝากใจไว้ที่เดือน” “ลำกล่อมทุ่ง” ฯลฯ ชมฟรี ณ โรงภาพยนตร์ศรีศาลายา นครปฐม วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายนนี้
    มนัส กิ่งจันทร์ เจ้าของเฟซบุ๊ก “ชุมทางหนังไทยในอดีต (ศูนย์ดิจิทัล ไทยมูฟวี่)” กล่าวถึงการฉายหนังย้อนยุคครั้งนี้ว่า
    “เนื่องมาจากชมรมผู้สูงอายุเทศบาลนครอ้อมน้อย สมุทรสาคร แจ้งความประสงค์มาว่า จะขอดูหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นหนังที่โด่งดังเรื่องหนึ่งของคนอีสาน กิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่ 8 โมงเป็นต้นไป ซึ่งผู้สูงอายุจะมาขับร้องเพลงกัน หลังจากนั้น 9 โมงจะฉายหนังจนถึงเที่ยง รับประทานอาหารร่วมกัน สำหรับ เรื่อง “มนต์รักแม่น้ำมูล” ถ้านับถึงวันนี้ก็เกือบจะครบ 40 ปีแล้วที่ผู้อำนวยการสร้างคือ กมล กุลตังวัฒนา ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง “มนต์รักลูกทุ่ง” รุ่นมิตร-เพชรา ของครูรังสี ทัศนพยัคฆ์ ที่โด่งดังในปี 2513 จึงคิดว่าวันหนึ่งเขาจะต้องสร้างมนต์รักลูกทุ่งของคนอีสานให้ได้ 6 ปี ต่อมา กมล จึงเริ่มเดินเครื่อง วางพล็อตเรื่อง ให้นักพากย์เขียนบทภาพยนตร์ สร้างเพลงประกอบ หาตัวผู้ทีมงาน วางตัวนักแสดงหลักๆ วางตัวนักร้องเพลงภาคอีสานจนได้ลงมือสร้างในนาม “ดวงกมลมหรสพ” ครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา เป็นผู้กำกับการแสดง โดยมี สุรสีห์ ผาธรรม เป็นผู้ช่วยกำกับ ฉายครั้งแรกวันที่ 12 สิงหาคม 2520 ที่โรงหนังเพชรรามา เพชรเอ็มไพร์ ประสบความสำเร็จเกินคาด”
    นักสะสมข้อมูลและกากฟิล์ม กล่าวถึงฉากที่ประทับใจ ในเรื่องนี้ว่า
    “ฉากที่ผมชอบก็คือ ฉากที่สุริยาเดินทางเข้ามาสมัครเป็นนักร้องที่ซอยบุปผาสวรรค์ หนังจะถ่ายให้เห็นปากซอยบุบผาสวรรค์ แหล่งชุมนุมวงดนตรีลูกทุ่งซึ่งผมกำลังอยากจะเห็นอยู่พอดี ก็เลยได้เห็นซอยบุปผาสวรรค์จริงๆ จากหนังเรื่องนี้ แถมยังให้สุริยาแสดงเป็นคนบ้านนอกที่ดีใจจนข้ามถนนไม่ระวังรถ เกือบจะถูกชนตาย เมื่อสุริยาเป็นนักร้องดังแล้ว ฝ่ายหญิงก็ได้แต่รอคอยการกลับมา”

    สุริยา ชินพันธุ์ ในวัย 65 ปี เล่าย้อนอดีตถึงร่วมแสดงหนังเรื่องนี้ว่า
    “ตอนที่ผมเล่นเรื่องนั้น ผมเป็นดาราที่มีชื่อเสียงแล้วทั้งจอแก้ว จอเงิน เรื่องนี้โด่งดังมาก นำไปฉายที่ประเทศลาวด้วย รายได้ดีมากทั้งประเทศไทยและลาว หลังจากประสบความสำเร็จแล้ว ทำให้เกิดวงดนตรี "ลูกทุ่งดารา สุริยา ชินพันธุ์” ขึ้นมาในวงการเป็นวงแรกของประเทศไทยในช่วงที่ภาพยนตร์ยังฉายอยู่ มีแฟนคลับมากมาย ตอบจดหมายแฟนเพลง แฟนหนังเยอะแยะ ฉากที่ซอยบุปผาสวรรค์ผมประทับใจมาก ในเรื่อง สมัครแล้วไม่มีคนรับเข้าวงเลย เป็นคนเชยๆ แบบเด็กบ้านนอก ตอนแรกคนนึกว่า ผมร้องเพลงนี้ แต่จริงๆ สนธิ สมมาส เขาขับร้อง ตอนเดินสายก็ต้องร้องเพลงนี้ด้วย เดินสาย 5 ปี สามปีแรกอยู่ได้ มาขาดทุนสองปีหลัง เจออุปสรรคมากมาย และมีเรื่องเคอร์ฟิวด้วย จนวงแตกที่ปักษ์ใต้ เป็นหนี้เป็นสินมากมายเพราะลงทุนซื้ออุปกรณ์ รถและอย่างอื่นทั้งหมด ช่วงนั้นทำให้ป่วยเส้นเลือดตีบในสมอง ตอนนี้ไปตรวจร่างกายมาก็ถือว่าได้ข่าวดีเกี่ยวกับตับกับม้ามไวรัสซีก็หายแล้ว แต่ก็ยังต้องควบคุมอาหารอยู่”
    สำหรับเพลงเอกในเรื่องมีดังนี้ มนต์รักแม่น้ำมูล (ไพรวัลย์ ลูกเพชร) ลูกทุ่งคนยาก คืนอาลัย แต่งงานกันเด้อ (สนธิ สมมาส) ฝากใจไว้ที่เดือน (สายัณห์ สัญญา) น้ำตาปริ่มที่ริมมูล ฟ้าไม่ปราณี (ผ่องศรี วรนุช) แห่พระเวส (ดาว บ้านดอน) ลำกล่อมทุ่ง (ไพรินทร์ พรพิบูลย์) กินข้าวป่า (มนต์ เสียงพิณ) และเพลงสตริงอีก 2 เพลง
    “มนต์รักแม่น้ำมูล” นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี นัยนา ชีวานันท์ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ สุริยา ชินพันธุ์ วิชชุตา เธียรโสภณ ปิยะ ตระกูลราษฎร์ เศรษฐา ศิระฉายา เปียทิพย์ คุ้มวงศ์ และมีคนลูกทุ่งร่วมแสดง อาทิ ศรีไพร ใจพระ ดาว บ้านดอน เทพพร เพชรอุบล นพดล ดวงพร