"ป๋อ" ณัฐวุฒิ สกิดใจ โอนเงินช่วยเหลือ "เป้า" ปรปักษ์ ป่วยซูบผอม เปรียบตูนเขาช่วยคนในการวิ่ง ป๋อก็ช่วยคนในการไลฟ์
บันเทิง คมชัดลึก - ก่อนหน้านี้เคยไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ค SKIDJAI เพจ "คุยนิด…สะกิดใจ" กับ "ป๋อ" ณัฐวุฒิ ใน EP3 ได้พูดคุยและให้ความช่วยเหลือ “เป้า” ปรปักษ์ (วินัย ยืนยง) ผู้กำกับคิวบู๊ชื่อดัง ที่ตอนนี้มีโรคร้ายรุมเร้าหนักมาก ได้พูดคุยเรื่องนี้กับ "ป๋อ" ณัฐวุฒิ สกิดใจ ในกิจกรรม“ควงคู่…ดูด้ายแดง” ที่ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้ความว่า
“ก็อย่างที่คุยกันว่าจริงๆ แล้วเหมือนกับทำไลฟ์ขึ้นมา เหมือนเราอยากปลูกดอกไม้ในโซเชียล ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ที่เราคิดมานานแล้ว เป็นสิ่งที่เราอยากทำมา 20 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่ยังเรียนอยู่เมืองนอก ผมเคยทำธีสิสเรื่องนี้เกี่ยวกับการทำงานที่บ้าน ตอนนั้นระบบอินเตอร์เน็ตมันยังไม่เสถียรขนาดนี้ ตอนนี้เสถียรมาก ก็สังเกตทุกคนสามารถไลฟ์อยู่กับบ้านได้ นี่คือสิ่งที่เราอยากทำมานานแล้ว แล้วก็เป็นเรื่องที่ช่วยเหลือคนได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปออกพื้นที่หรอก ก็ในเพจป๋อ ณัฐวุฒิ กับยูทูปก็มีลิ้งค์ต่อกันไป แล้วก็ไปเจอเรื่องของพี่เป้าพอดี วันนั้นไปถ่าย เล่ห์บรรพกาล แล้วก็ไปเจอน้องทีมงานที่เคยทำงานกับพี่เป้าเลยถามว่าเห็นรูปพี่เป้าคือตกใจมาก เลยขอเลขบัญชีพี่เป้าแล้วก็โอนเงินไปให้ โดยที่ไม่ได้คิดอะไรมาก เสร็จปุ๊ปผมก็รู้สึกคาใจว่าจะทำยังไงถึงช่วยเขาได้ต่อ เราทำไลฟ์ขึ้นมาพอดี ก็เลยต่อเนื่องเรื่องพี่เป้าไป คุยกับพี่เป้า ตอนนั้นที่ผมโอนเงินไปวันแรก พี่เป้าบอกว่าพี่กำลังจะเดินทางไปโคราชรถเสียอยู่กลางทาง นอนปั๊มมาแล้ว 3 วัน นอนในรถ จะไปไหว้พระที่โคราชแต่ไปไม่ได้ แกบอกว่าได้เงินก้อนนี้มาก็เหมือนโชคดีอ่ะ เหมือนเทวดาช่วย พี่เป้าจะพูดแบบนี้ ก็เอาเงินไปซ่อมรถจนถึงโคราช หลังจากนั้นเราพยายามติดต่อพี่เป้าอีกทีนึงว่าเอายังไงดี ผมอยากช่วยพี่มากเลย พี่เป้าก็บอกว่าไม่เป็นไร คือก่อนที่จะทำรายการนี้พี่เป้าเหมือนคนปลงแล้ว ไม่เอาอะไร ตระเวณไว้พระอย่างเดียวไม่รักษาเลย จนร่างกายซูบผอมมาก แต่หลังจากที่เราทำรายการนี้ออกไปพี่เป้าดีขึ้นมากเลย วันนี้ก็เห็นบอกว่าจะไปรักษาแล้ว”
อาการป่วยของพี่เป้าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
“พี่เป้ายังไม่ได้บอกแน่ชัดนะ เรายังไม่รู้จริงๆ ว่าพี่เป้าเป็นอะไร น้ำหนักลดลงมาก ลงมา 30 กว่าโลภายในเดือนสองเดือน แต่อาการที่เห็นแน่ๆ คือทานอะไรไม่ได้ อาเจียน ทานแล้วก็ท้องเสีย หลังๆเริ่มทานอะไรไม่ได้เลย ตัวพี่เป้าเหมือนกับไม่มีกำลังใจด้วย พอเห็นคนไทยมาช่วยกัน อาตู่มาช่วย พี่กอล์ฟ เบญจพลก็ช่วยแชร์เรื่องนี้ แชร์กันเยอะมาก ต้องขอบคุณพี่ๆนักข่าวทุกสำนักเลยที่ช่วยนำเสนอเรื่องพี่เป้า กลายเป็นว่าจะมีคอนเสิร์ต พี่หนุ่ม คงกระพันจะจัดขึ้นเพื่อช่วยพี่เป้ากับพี่เมฆ วินัย ผมว่าเรื่องนี้มันต้องทำอย่างต่อเนื่อง ใครช่วยก็ได้ ผมก็แค่ยกระดับการช่วยให้พัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง แต่พอพี่ๆสื่อมวลชนแชร์เรื่องพี่เป้าออกไปมันก็ช่วยได้มากขึ้น”
เพราะพี่เป้ามีปัญหาเรื่องการเงิน เลยไม่ได้เข้ารักษา?
“พี่เป้ามีปัญหาเรื่องการเงินมาระดับนึงแล้ว มานานมาก ทุกคนก็รู้ว่าพี่เป้านอนปั๊ม พี่เป้าไม่มีบ้าน นอนในรถน่าจะ 20 ปีแล้ว แต่ทุกคนก็ไม่กล้าไปก้าวล่วงเพราะมันเป็นสิทธิของพี่เป้าเองที่เลือกชีวิตแบบนี้ พี่เป้าเขามีความสุขนะครับไม่ได้หมายความว่าเขามีความทุกข์นะครับ เพียงแค่เขาอยู่กับมันให้ได้ เขามีเงินเท่านี้เขาก็อยู่กับมันแบบนี้ พี่เป้าอธิบายเรื่องนี้แบบเข้าใจชีวิตแต่ว่าตอนนี้แกป่วยไง พอป่วยรายได้ก็ไม่มี มีแต่ค่าใช้จ่าย แล้วคราวนี้มีเรื่องการรักษาเราก็เลยคิดว่าอนาคตมันบานปลายแน่ๆ รายได้ไม่มีแล้วจะทำยังไงก็พยายามหาเงินตรงนี้ช่วยไป”
ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราได้ติดต่อกับพี่เป้าตลอดก่อนที่จะมีข่าวแชร์ว่าเขาเดือดร้อน?
“ผมโอนเงินก้อนนั้นก่อนที่จะมีข่าวแชร์อีก เรื่องซ่อมรถ แล้วพอมีข่าวแชร์ผมก็ยังดีใจว่ามีข่าวแชร์เรื่องพี่เป้าแสดงว่ามีคนไปเจอแล้วมาแชร์เรื่องพี่เป้าไป ผมก็ดีใจ ถ้างั้นผมก็เลยมาช่วยทำตรงนี้ต่อไปดีกว่า พอมีพี่ๆนักข่าวแชร์กันไป มันก็เลยเป็นเรื่องต่อเนื่องกันไป มีนักข่าวไปตามเจอพี่เป้าด้วย”
ยอดเงินบริจาคเงินขนาดไหน?
“จริงๆนะ ด้วยความเคารพ ผมถามพี่เป้าแล้ว พี่เป้าไม่บอก เพราะเงินนี้เป็นเงินบุญ พี่เป้าพูดได้น่ารักมากว่าพี่เป้าไม่กล้าเช็ค เอาไว้ลำบากจริงๆ พี่เขาถึงจะไปอัปสมุด จริงๆมันควรไปอัปได้แล้วนะ โอนเช้า ตอนเย็นก็ควรไปอัปได้แล้ว แกก็ไม่ยอม เหมือนพี่เป้าเขามีวิธีคิดอีกแบบหนึ่ง ผมเป็นน้อง ไม่กล้าไปก้าวล่วงมาก ว่าพี่ต้องทำอย่างนี้ๆ แต่ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่โทรไปแนะนำพี่เป้าว่าให้ไปรักษาเถอะ แล้วเงินตรงนี้ช่วยกัน เดี๋ยวมีคอนเสิร์ตมาช่วยอีก คืออย่างน้อยก็ได้ต่อยอดกันไปเรื่อยๆ”
เพื่อนๆนักแสดงคุยกันไหม ว่าจะช่วย?
“คุยอยู่แล้ว โอนกันไปเยอะแยะ ไม่ใช่หลักพันนะ เป็นหลักหมื่น หลายหมื่นก็มีครับ วันนั้นคนที่ได้ยินเรื่องราว อย่างทีมงานไม่มีตังค์ ยังโอนไปพันนึง คือเรารู้สึกเข้าใจ คือคนรุ่น 30 ขึ้นไป น่าจะรู้จักพี่เป้าเป็นอย่างดีอยู่แล้ว”
เคยร่วมงานกันใช่ไหม?
“ร่วมงานกับพี่เป้าครั้งแรก คือเรื่องคู่เดือด ก็ได้ร่วมงานกันมาตลอด จะได้คำแนะนำจากพี่เป้าเสมอ ว่าต้องเทคแคร์ ต้องดูแลตัวเอง เพราะฉะนั้นผมจะผูกพันกับพี่เป้ามากพอสมควร เพราะว่าหนึ่ง ผมเคยเป็นแฟนละครพี่เป้าด้วย สมัยตอนผมเด็กๆ ดูหนังพี่เป้ามาตลอด แล้วโตขึ้นมาเล่นละคร มาเล่นบู๊ อาจารย์บู๊ที่เราเคยดูมา ก็มาสอนเรา ตอนนี้เขาลำบาก เราก็ช่วย เราก็มองว่าตรงนี้เป็นสิ่งดีในโลกโซเชียล เราคงไม่ปล่อยให้ตูนวิ่งอยู่คนเดียวนะ ในโลกนี้มีดาราอีกตั้งเยอะแยะ ที่ช่วยเหลือสัตว์ ช่วยเหลืออะไรต่างๆ คือทุกคนก็ทำหน้าที่ในพื้นที่ของตัวเอง ตูนเขาช่วยคนในการวิ่ง ป๋อก็ช่วยคนในการไลฟ์เนี่ยแหละ นี่เราก็เพิ่งทำโครงการช่วยน้องที่อยู่ที่สุราษฎร์ธานีไป”
พอเรามาไลฟ์หาทุนช่วยพี่เป้า มีหน่วยงานอะไรเข้ามาซัพพอร์ตไหม?
“ตอนนี้ยังไม่มีนะ แต่ว่าก็เริ่มมีคุยกันบ้างแล้ว ตัวผมเองเริ่มไปหาหน่วยงานเองด้วยซ้ำ เริ่มมีคลื่นวิทยุ เริ่มมีอะไรที่เขามาซัพพอร์ตบ้าง ถ้าอยากได้อุปกรณ์เตียง ถังอ๊อกซิเจน หรือแพมเพิร์ธบอกมาได้เลย คือตอนนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเพจมันก็ยังไม่ได้ดังมาก ยังไม่เป็นที่รู้จักมาก เป็นเพจส่วนตัว เพิ่งมาเริ่มทำได้ 3-4 อาทิตย์เท่านั้นเอง แต่ว่าอย่างที่บอกว่าถ้าเพจมันเป็นที่รู้จัก หน่วยงานก็อาจจะยังเข้ามาช่วยเหลือมากขึ้น คือจริงๆแล้วในโลกเรามันก็ไม่ใช่แค่เงินนะ มันมีของบริจาคเยอะแยะเลย เตียงนอน ถังอ๊อกซิเจน รถเข็น สำหรับผู้ป่วย หรือแม้กระทั่งบริการรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ก็ช่วยเหลือได้ทันทีไม่ต้องเสียเงินเลย สิ่งเหล่านี้เราก็เพิ่งรู้ว่ามันมีเยอะแยะไปหมดเลย กับน้ำใจในโลกของเรา”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง