บันเทิง

การกลับมาของ ลิโด้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  ข้าวโพดคั่วกับตั๋วหนัง  โดย... คอนแทค เลนส์

 

 


         เมื่อราวกลางปีที่แล้ว ผมเคยเขียนถึงโรงหนัง “ลิโด” ไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นคือช่วงที่โรงหนัง “ลิโด” อำลาจากยุทธจักร วันที่ 31 พฤษภาคม 2561


         ในยุคทศวรรษที่ 2520-2530 ถ้าจะดูหนังไทย คอหนังรู้กันว่า ต้องไปดูที่โรงหนัง “สยาม” แต่ถ้าอยากเว่อร์วังอลังการก็ต้องโฉบไปที่โรงหนัง “สกาลา” แต่ถ้าอยากดูหนัง “อินดี้” ก็ต้องไปที่โรงหนัง “ลิโด”

 

 

         ทั้งสามโรงภาพยนตร์ที่กล่าวมา คือโรงหนังของกลุ่มธุรกิจตระกูล “ตันสัจจา” เจ้าของ “สวนนงนุช”


         ในอดีต “ลิโด” ก่อสร้างขึ้นด้วยความจุ 1,000 ที่นั่ง เปิดฉายเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2511 ด้วยภาพยนตร์เรื่อง ศึกเซบาเตียน (GAMES FOR SAN SEBASTIAN) ของ บริษัท เมโทร โควิลด์ จำกัด นำแสดงโดย แอนโธนี่ ควินส์ ฯลฯ


         “ลิโด” ผ่านยุครุ่งเรืองและเฟื่องฟูของวงการหนัง ทั้งหนังไทยและหนังเทศมาแล้วอย่างโชกโชน เผชิญวิกฤติการณ์ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมาแล้วก็ไม่น้อย


         จาก “ลิโด” โรงเดียว ขยายออกเป็นสามโรงคือ ลิโด 1 ลิโด 2 และ ลิโด 3 เพื่อสู้กับโรงหนังมัลติเพล็กซ์ในห้างสรรพสินค้า จากนั้นมาเผชิญกับฟองสบู่แตก 2540 และเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง จนถึงวันที่ต้องอำลาวงการหนังบ้านเราไปเมื่อปีที่แล้ว


         มาในวันนี้ “ลิโด” ได้กลับมาใหม่ พร้อมชื่อใหม่และกลุ่มทุนใหม่ ภายใต้ชื่อโรงหนัง Lido Connect


         เติมสีสันให้สดใส ด้วยการเติม “ไม้โท” เข้าไปในชื่อ “ลิโด” เดิม กลายเป็น “ลิโด้”


         ตำนานกว่า 50 ปี ของ “ลิโด” ในบทบาทของโรงภาพยนตร์ชั้นนำ และแหล่งรวมแฟชั่นบนพื้นที่ของสยามสแควร์ ซึ่งบริหารโดย PMCU


         ปัจจุบันกำลังก้าวสู่ความเปลี่ยนผ่าน แต่ยังคงเอกลักษณ์และความเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมและพัฒนาศิลปะ วัฒนธรรม และนวัตกรรมสาขาต่างๆ เพื่อเป็นพื้นที่ในการแสดงออกที่สามารถต่อยอดในอาชีพด้านความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไม่จำกัด ในชื่อโครงการ “ลิโด้ คอนเนค” หรือ LIDO Connect จากการร่วมมือกันระหว่าง LOVEiS Entertainment และสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ หรือ PMCU




         ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้สยามสแควร์ ยังคงเป็นแหล่งรวบรวมศิลปะ วัฒนธรรม นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์และไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ต่อไป


         “ลิโด้” ไม่ใช่ สถานที่ แต่คือเรื่องราว เรื่องราวของใครหลายคนในหลายยุคสมัยที่ร่วมกันใช้ชีวิตที่นี่ ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ในการกลับมาครั้งนี้ เพื่อนของคุณที่ชื่อ “ลิโด้” ยังคงรอคอยให้พวกคุณทุกคนกลับมาฝากเรื่องราวบทใหม่ และพบกับประสบการณ์ที่หลากหลายมากขึ้น จะไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ แต่ดนตรี งานศิลปะ และงานแสดงอื่นๆ พร้อมให้คุณมาเก็บเกี่ยวความหมาย และยินดีกลายเป็นเรื่องเล่าในแบบของคุณ เพราะ LIDO Connect ไม่ใช่แค่สถานที่ที่หนึ่ง แต่คือเพื่อนคนหนึ่งของพวกคุณ


         โดยมีกลุ่ม Documentary Club ได้นำภาพยนตร์คุณภาพ ถือฤกษ์มาเบิกโรง “ลิโด้” โฉมใหม่ หรือ Lido Connect

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ