"สหรัฐประเมินเราต่ำเกินไป"ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยออกโรงอีกครั้ง | คมชัดลึก

กรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งสกัดการใช้เทคโนโลยี 5จี ของหัวเว่ยในสหรัฐ ภายใต้คำสั่งฉุกเฉินแบล็คลิสต์บริษัทที่อ้างว่ามีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ต่อมา กูเกิลปฏิบัติตามคำสั่งรัฐบาล จำกัดการเข้าถึงระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของอุปกรณ์สื่อสารยี่ห้อนี้ 

 

นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งอาณาจักรหัวเว่ย ยักษ์ใหญ่สื่อสารโทรคมนาคมจีน ให้สัมภาษณ์สื่อทางการจีนเผยแพร่ในวันนี้( 21 พ.ค.)  ว่า เรารู้สึกขอบคุณบริษัทสหรัฐอย่างมาก พวกเขามีส่วนสนับสนุนหัวเว่ยอย่างดี และที่ปรึกษาหลายคนของเรามาจากบริษัทอมริกัน อย่าง ไอบีเอ็ม หากจะโทษก็เป็นนักการเมืองสหรัฐ การกระทำของพวกเขา ประเมินความแข็งแกร่งของเราต่ำเกินไป   

 

 

 

สงครามชีวิตของ"เหริน เจิ้งเฟย"ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย

 

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ยอมผ่อนผันด้วยการให้เวลาหัวเหว่ย 90 วัน ในการซื้อสินค้าจากบริษัทในสหรัฐฯ เพื่อใช้ในการดูแลระบบเครือข่าย  ซึ่งจะทำให้หัวเว่ยยังสามารถทำธุรกิจกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง กูเกิล อินเทล , ควอลคอม และอื่นๆ ได้ชั่วคราว แต่นายเหริน กล่าวว่า เวลา 90 วันไม่ได้มีความหมายมากนัก และเราเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เวลานี้หัวเว่ยกับกูเกิลกำลังหารือกันว่าจะตอบสนองการสั่งแบนจากรัฐบาลวอชิงตันอย่างไร และกล่าวถึงกูเกิลว่าเป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบสูงมาก

 
สำหรับการเข้าถึงส่วนประกอบสำคัญอย่างชิพนั้น ผู้ก่อตั้งยักษ์สื่อสารแดนมังกรรายนี้  กล่าวว่า ชิปครึ่งหนึ่งที่หัวเว่ยใช้ในการผลิตอุปกรณ์ มาจากสหรัฐ แต่อีกครึ่ง หัวเว่ยผลิตเอง “เราผลิตชิพเหมือนกับชิพที่สหรัฐผลิต  แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ซื้อจากสหรัฐ เราไม่อาจแยกตัวโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก”  ทั้งกล่าวด้วยว่า  ในแง่ของ 5จี หัวเว่ยอยู่แถวหน้า และมั่นใจว่ายังไม่มีรายใดสามารถตามทันหัวเว่ยในระยะ 2-3 ปีนี้  แต่เรายังต้องศึกษาเทคโนโลยีจากสหรัฐในแง่ความกว้างและความลึก สหรัฐยังเหนือกว่าจีนมากในภาพรวม 

 ต่อข้อถามว่า หัวเว่ยอาจเผชิญกับสถานการณ์ลำบากไปอีกนานแค่ไหน ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย กล่าวว่า คุณคงต้องไปถามคำถามนี้จากทรัมป์ ไม่ใช่ผม” ขณะยืนยันหัวเว่ยจะไม่ขาดแคลนวัตถุดิบ เพราะได้เตรียมการเป็นอย่างดี พนักงานของบริษัททำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อรับสถานการณ์เช่นนี้