พูเรม บาย เอเบอร์สเปเชอร์ ผนึกกำลังร่วมทุน อาปิโก ไฮเทค เปิดโรงงานผลิต 'ระบบไอเสีย' แห่งที่ 2 ที่จ.ระยอง รองรับการผลิตระบบไอเสียให้กับรถกระบะค่ายยักษ์ใหญ่ กำลังการผลิต 3 แสนชิ้นต่อปี
นายมาร์ติน ปีเตอร์ส ประธานกรรมการบริษัทและหุ้นส่วนผู้จัดการ กลุ่มบริษัทเอเบอร์สเปเชอร์ กล่าวว่า ประทับใจที่ได้เห็นความสำเร็จของความร่วมมือในครั้งนี้ ด้วยการผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของ พูเรม บาย เอเบอร์สเปเชอร์ กับองค์คว่มรู้ด้านชิ้นส่วนยานยนต์ของอาปิโก ไฮเทค
พูเรม บาย เอเบอร์สเปเชอร์ เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยพนักงานมากกว่า 7,100 คน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี ยานยนต์ที่สะอาด และขยายธุรกิจไปทั่วโลก เราเปิดโรงงานใหม่ถึง 2 แห่ง ในมาเลเซีย และในไทย ทำให้เรามีฐานการผลิตสินค้าอยู่ใน 19 ประเทศทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเติบโตทางธุรกิจด้านยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของเราในตลาดโลก
ด้านนายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการหลังการขาย และธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ และ IoT (Internet of Things) เปิดเผยว่า อาปิโก มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรร่วมกับพูเรม บาย เอเบอร์สเปเชอร์ ผู้ผลิตระบบไอเสียที่มีคุณภาพและได้รับมาตรฐานรายใหญ่ที่สุดในโลก โรงงานแห่งนี้สามารถรองรับการผลิตสินค้าให้กับผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำต่าง ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยในฐานะดีทรอยต์แห่งเอเชีย
ล่าสุดบริษัท พูเรม อาปิโก จำกัด (Purem AAPICO) ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนระหว่าง บมจ.อาปิโก ไฮเทค และบริษัท พูเรม อินเตอร์เนชั่นแนล จีเอ็มบีเอช จำกัด ในสัดส่วน 49 : 51 ได้เดินเครื่องกำลังการผลิตเต็มรูปแบบ 2 โรงงานผลิตระบบไอเสียแห่งใหม่ ในเมืองราวัง ประเทศมาเลเซีย และจังหวัดระยอง ประเทศไทย รวมกำลังการผลิต 2 แห่งกว่า 700,000 ชิ้นต่อปี
โดยโรงงานPurem AAPICO ใช้ระยะเวลาก่อสร้างเพียง 5 เดือน ก่อนจะเริ่มการผลิตเต็มรูปแบบ โดยโรงงานในประเทศไทยตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ จังหวัดระยอง บนพื้นที่รวม 3,000 ตารางเมตร รายล้อมไปด้วยโรงงานผู้ผลิตชั้นนำ ทั้งค่ายญี่ปุ่น อเมริกัน และเยอรมนี โดยมีกำลังผลิต 300,000 ชิ้นต่อปี พนักงานรวม 150 คน โดยโรงงานแห่งนี้ผลิต 'ระบบไอเสีย' บนมาตรฐาน clean mobility ระดับโลก ได้แก่ Euro6, CARB - LEV III และ EPA - TIER 3 ส่งผลให้รถยนต์ที่ผลิตจากประเทศไทย สามารถส่งออกได้กว่า 100 ประเทศทั่วโลก ภายใต้การเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์รายใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง