ข่าว

สุดาวรรณ สั่งเร่งโปรโมตอัตลักษณ์ 'เกาะสมุย' หวังดันขึ้น TOP 10 โลก 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สุดาวรรณ หารือผู้ประกอบการท่องเที่ยว 'เกาะสมุย' เร่งโปรโมตอัตลักษณ์ต่าง ๆ ที่มีมากกว่าทะเลให้มากขึ้น  เพื่อผลักดัขึ้น TOP 10 ของโลก พร้อมหนุนสร้างท่าเรือรับเรือสำราญขนาดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 7 เม.ย. 67 เรือสำราญขนาดใหญ่เข้าไทย 100 เที่ยว นักท่องเที่ยว 214,097 คน

นางสาวสุดาวรรณ  หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

เปิดเผยว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงพื้นที่ 'เกาะสมุย' ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยต้องการยกระดับเกาะสมุยให้เป็น TOP 10 เกาะที่น่าท่องเที่ยวที่สุดของโลก ตนเองจึงได้หารือกับนายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว 'เกาะสมุย' เพื่อที่จะร่วมมือไปสู่เป้าหมายดังกล่าวให้ได้ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะทำการโปรโมตการท่องเที่ยวเกาะสมุยในแง่มุมต่างๆ เพิ่มขึ้น ทั้งทะเลที่มีความสวยอยู่แล้ว และมีอัตลักษณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร วิถีการใช้ชีวิตของชาวบ้านที่มีความน่าสนใจ เพื่อไปสู่เป้าหมายให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น พำนักในเกาะสมุยนานขึ้นและเกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

นางสาวสุดาวรรณ  หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวของ 'เกาะสมุย' ตอนนี้ได้มีนักท่องเที่ยวกลับมาปกติเหมือนก่อนช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 แล้ว แต่ยังมีปัญหาของผู้ประกอบการที่เคยให้บริการด้านต่าง ๆ ไม่กลับมาเหมือนเดิมตัวอย่างเช่น พนักงานนวดหรือเทอราปิส เมื่อก่อนเคยมีถึง 120,000 คน แต่ตอนนี้มีไม่ถึง 50,000 คน ทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะสมุยจึงเสนอให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา หารือกับกระทรวงแรงงาน หรือสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อทำการฝึอบรมบุุคลากรในสาขาที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องการ โดยในส่วนนี้ตรงกับนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ต้องการพัฒนาบุคลากรท่องเที่ยวอยู่แล้ว

สุดาวรรณ สั่งเร่งโปรโมตอัตลักษณ์ เกาะสมุย หวังดันขึ้น TOP 10 โลก 

ส่วนโครงการพัฒนา ท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) ที่พี่น้องชาวสมุยอยากได้ และนายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนเพื่อสร้างทางเลือกใหม่ของการท่องเที่ยว โดยจะนำโครงการ Cruise Terminal เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีให้ได้ภายในปี 2567 นั้น เมื่อโครงการนี้เกิดขึ้นจะเป็นการเพิ่มจำนวนเรือสำราญขนาดใหญ่เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวทางเรือซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพอีกจำนวนมาก โดยเส้นทางเดินเรือจะรองรับการเดินเรือฝั่งอ่าวไทยในเส้นทางจากท่าเรือต้นทางที่สิงคโปร์และท่าเรือปลายทางที่ฮ่องกง โดยจอดที่ 'เกาะสมุย' จังหวัดสุราษฎร์ธานี และท่าเรือแหลมฉบังจังหวัดชลบุรี สำหรับฝั่งอันดามัน ทางกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม มีแผนที่จะรองรับการเดินเรือในเส้นทางจากท่าเรือต้นทางที่สิงคโปร์ แวะเข้าจอดที่เกาะภูเก็ต และจังหวัดกระบี่

นายก ฯ ติดตามโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเรือสำราญขนาดใหญ่และนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศไทยผ่านด่านทางน้ำ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 - 7 เมษายน 2567 ทั้งสิ้น 100 เที่ยว มีจำนวนนักท่องเที่ยว 214,097 คน จำนวนลูกเรือ 92,745 คน ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยมากที่สุด 5 ประเทศแรกคือ 1. สหราชอาณาจักร  2. สหรัฐอเมริกา  3. มาเลเซีย 4. เยอรมนี  5. สิงคโปร์  โดยเทียบท่าใน 5 ท่าเรือ คือ 1. ท่าเรือป่าตอง จังหวัดภูเก็ต 2.ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี  3. ท่าเรือ 'เกาะสมุย' จังหวัดสุราษฏร์ธานี  4. ท่าเรือศรีราชาฮาร์เบอร์ จังหวัดชลบุรี และ 5. ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ขณะที่จังหวัดที่ผู้โดยสารเข้าสูงสุดคือ ภูเก็ต รองลงมาคือ ชลบุรีและสุราษฎร์ธานี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ