ชูธงเดินหน้าส่งเสริมการสร้างโอกาสทางการศึกษาและความเสมอภาคในสังคม มุ่งพัฒนาการจัดการศึกษาผู้ต้องขังในเรือนจำ
กระทรวงศึกษาธิการจับมือกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ยืนยัน! เดินหน้าจัดการศึกษาทุกรูปแบบให้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำ พร้อมส่งเสริมและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายตามนโยบายการศึกษาของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษา ให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกวัยได้เข้าถึงการศึกษาเพื่อให้สามารถนำไปประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษได้ ตลอดจนลดการกระทำผิดซ้ำและกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุขอย่างยั่งยืน”
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมการดำเนินงานการจัดการศึกษาในเรือนจำกลางบางขวางของ โดยสำนักงาน กศน. จังหวัดนนทบุรี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า “ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการสร้างโอกาสความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางการศึกษา ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการมีงานทำตามนโยบาย และตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการได้ให้ความสำคัญกับการจัดศึกษาทุกระดับและการฝึกวิชาชีพของผู้ต้องขัง ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา สำหรับเรือนจำกลางบางขวาง นับว่าเป็นเรือนจำต้นแบบในการในการจัดการศึกษา โดยจะคัดกรองผู้ต้องขังที่สมัครใจเข้ามาเรียน ช่วยให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มีวุฒิทางการศึกษา เพื่อให้สามารถนำไปประกอบสัมมาชีพภายหลังพ้นโทษได้ เพื่อลดการกระทำผิดซ้ำและกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข เพราะเป็นการสร้างโอกาสทางการศึกษาและความเสมอภาคในสังคม และคืนคนดีคุณภาพ กลับสู่สังคม
“ จากการติดตามและรับฟังข้อมูลความร่วมมือการดำเนินงาน จากกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ที่ร่วมกับสำนักงาน กศน.ในการจัดการศึกษาสำหรับผู้ต้องขัง ทั้งการศึกษาพื้นฐานและการศึกษาอาชีพมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2549 นั้น ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาดูแลและให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษา ขอบคุณ “ครูหลังกำแพง” ทุกท่านที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ในการถ่ายทอดความรู้ ส่งเสริมการศึกษาและวิชาชีพในด้านต่างๆ ให้กับผู้ต้องขังเหล่านี้ อาทิ วิชาช่างตัดผม วิชาซ่อมคอมพิวเตอร์ และวิชาจิตรกรรม ทำให้ผู้ต้องขังสามารถนำผลงานของตนเองมาขาย มีรายได้ในขณะที่อยู่ในเรือนจำ โดยสำนักงาน กศน. จะมีการสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายผลงานของผู้ต้องขังทาง Online ให้สามารถนำไปต่อยอดเมื่อภายหลังพ้นโทษแล้ว จะได้นำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ รวมทั้งการสนับสนุนอุปกรณ์ฝึกอาชีพ เพราะหากสามารถจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ที่จำเป็นมาให้ผู้เรียนได้ฝึก รวมถึงการได้เรียนรู้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้ฝึกกับอุปกรณ์จริง จะยิ่งทำให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ มั่นใจว่าจบไปแล้วมีงานทำแน่นอน ดิฉันขอให้กำลังใจผู้เรียนทุกท่าน และขอให้สังคมยอมรับและให้โอกาสกับคนเหล่านี้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดคนดี เป็นกำลังในการสร้างสรรค์สังคมต่อไป” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง