เดือด!! คลิปทหารจับแกร็บแท็กซี่ ขู่ปรับ5พัน (ชมคลิป)
โลกออนไลน์แห่แชร์คลิปทหารจับโชเฟอร์ Grab Taxi ขู่ปรับ 5 พันบาท โชเฟอร์แท็กซี่โวยไม่ผิดกฎหมาย
วันที่ 18 มิ.ย.60 เฟซบุ๊ก May Natsupa โพสต์คลิปเหตุการณ์ชายแต่งกายคล้ายทหารจับคนขับรถ Grab Taxi ขณะกำลังรับผู้โดยสาร โดยระบุว่า “เมื่อกี้เรียก grab taxi มารับที่หน้า zpell ขึ้นรถได้ไม่ถึงนาทีทหารมาเคาะกระจกแท็กซี่ แล้วได้คุยกับแท็กซี่ทหาร เค้าบอกว่าใช้แอพพลิเคชันผิดกฎหมาย ทั้งๆ ที่กฎหมายรองรับแล้ว จะปรับ 5,000 บาท ทั้งคนขับ ผู้โดยสาร แล้วทหารได้บอกอีกว่าจะให้แท็กซี่ไปคุยกับนายก ให้ไปหาขนส่ง ไม่ยอมคุยเอง พอแท็กซี่โทรไปร้องเรียนกับทางบริษัท grab ทหารเลยบอกว่าไม่จับแล้วไปเลย แต่จะขอถ่ายรูปไปฟ้องนาย แท็กซี่ก็ขอถ่ายรูปทหารบ้าง ทหารง้างหมัดจะต่อยแท็กซี่ พอแท็กซี่โวยวายก็เอามือลง แล้วยังพูดอีกเหมือนตัวเองไม่ผิด ไม่ได้ทำร้ายทั้งๆ ที่ง้างหมัด พยานมีเป็นสิบ ยอมเลยจริงๆ”
โดยคลิปแรกเป็นคลิปเหตุการณ์ภายในรถแท็กซี่ มีชายแต่งกายคล้ายทหารคนหนึ่งนั่งข้างคนขับ โต้เถียงกับคนขับรถแท็กซี่ในขณะที่รถเคลื่อนตัวไปด้วย คลิปที่สองและคลิปที่สามเป็นเหตุการณ์ขณะที่ทหารและคนขับรถแท็กซี่เดินไปที่รถทหาร ขณะนั้นมีการโต้เถียงกันเป็นระยะ และมีช่วงจังหวะหนึ่งคนขับรถแท็กซี่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์ ทำให้ชายแต่งกายคล้ายทหารแสดงความไม่พอใจใช้มือปัดโทรศัพท์ของคนขับรถแท็กซี่ ส่วนคลิปสุดท้ายเป็นคลิปที่คนขับแท็กซี่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า Grab Taxi ไม่ผิดกฎหมาย
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า Uber และ Grab car เป็นบริการที่เพิ่มความสะดวกในการเดินทางมากกว่าการให้บริการรถโดยสารที่มีอยู่ในปัจจุบัน กรมการขนส่งทางบกได้มีการชี้แจงไปยังผู้ประกอบการโดยตรงและผ่านทางสื่อสาธารณะอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดว่า แอพพลิเคชั่นในการเรียกใช้บริการแท็กซี่นั้น สามารถกระทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ประเด็นที่ผิดกฎหมายคือ การนำแอพพลิเคชั่นไปใช้เรียกรถยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายดำ) เพื่อใช้รับจ้างขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ฐานใช้รถยนต์ผิดประเภทจากที่จดทะเบียนไว้ ไม่ใช้มาตรค่าโดยสารตามที่ทางราชการกำหนด ผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ไม่เคยผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และไม่เข้าสู่ระบบทะเบียนของศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ประชาชนจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย และกรณีเกิดเหตุไม่พึงประสงค์เป็นอันตรายต่อความปลอดภัย ภาครัฐจะไม่สามารถติดตามรถหรือคนขับรถมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้
ในส่วนของผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นที่ยังไม่ถูกกฎหมาย กรมการขนส่งทางบกพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการให้บริการที่ทันสมัยภายใต้กรอบของกฎหมายที่สามารถดำเนินการได้เพื่อเพิ่มทางเลือกและประโยชน์สูงสุดของประชาชน ซึ่งในปัจจุบันมีรถแท็กซี่ในระบบเริ่มใช้แอพพลิเคชั่นเป็นสื่อกลางในการบริการ เช่น Grab Taxi, All Thai Taxi ซึ่งกรมการขนส่งทางบกพร้อมให้การสนับสนุนในทุกมิติ
ที่มา : เฟซบุ๊ก May Natsupa