ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ทายาทรุ่นที่ 4 ตระกูล "ลิงค์" และหัวเรือใหญ่ บี.กริม จัดนิทรรศการประวัติศาสตร์และศิลปะครั้งสำคัญ "ฝากไว้ในแผ่นดิน 140 ปี บี.กริม "
ร้าน “สยามดิสเป็นซารี่”
หากมีปรัศนีว่า...ใครกันหนอทำตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ...?? เชื่อว่าชื่อ “บี.กริม” เป็นคำตอบในใจของหลายๆ คน จากวันแรกจวบวันนี้ครบ 140 ปีที่ “ห้างฝรั่ง” ดำเนินธุรกิจบนแผ่นดินสยาม บี.กริม จึงเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ไทย ย้อนไปตั้งแต่ปี 2421 เมื่อ แบร์นฮาร์ด กริม เภสัชกรชาวเยอรมัน และ แอร์วิน มุลเลอร์ พ่อค้าชาวออสเตรียได้เดินทางมาและก่อตั้งร้าน “สยามดิสเป็นซารี่” ด้วยความรู้และความชำนาญในวิชาชีพ ทั้งสองจึงเป็นที่รู้จักทั่วไป จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นเภสัชกรหลวงแห่งราชสำนักไทยในที่สุด จากนั้นได้สยายปีกธุรกิจหลากหลาย และรับใช้มวลชนมาถึง 6 รัชสมัย
ห้างบี.กริม สาขาประตูสามยอด พ.ศ. 2455
ยาวนานเพียงนี้ย่อมมีเรื่องเล่าขานอันเกี่ยวเนื่องกับบริษัทและแผ่นดินที่ให้ปักหลัก ในโอกาสครบ 140 ปีที่ผ่านร้อนหนาว ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ในฐานะทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูล และหัวเรือใหญ่ขององค์กร จึงได้จัดนิทรรศการประวัติศาสตร์และศิลปะครั้งสำคัญ ภายใต้ชื่อ “ฝากไว้ในแผ่นดิน 140 ปี บี.กริม” ชูเนื้อหาเด่น “ประวัติศาสตร์การสื่อสารทางไปรษณีย์ (Postal History Collection) ระหว่างประเทศไทยและเยอรมัน” อันเป็นหลักฐานสำคัญในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ทางการทูตมานานกว่า 200 ปี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนสังคมไทย ตามเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษในฐานะที่ได้ร่วมทำกิจการรับใช้สังคมมาอย่างต่อเนื่องกว่าทศวรรษ โดยแถลงข่าวเล่ารายละเอียดที่ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันก่อน
กฤชทิพย์ ศิริรัตน์ธำรงค์-อัจฉรา เตชะไพบูลย์-ดร.ฮาราลด์ ลิงค์-โรล็อง มาแลสปีน
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า บี.กริม เติบโตมาด้วยการพยายามสร้างประประโยชน์ให้สังคม ไม่ว่าจะเป็นการขุดคลองรังสิต, สร้างวัดมูลจินดาราม เป็นต้น ตัวเองเองอยู่เมืองไทยมา 40 ปีแล้ว ตลอดเวลาทำธุรกิจในไทย ไม่เคยละเลยที่จะเป็น ‘หุ้นส่วนทางสังคม’ โดยดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมไทยในทุกๆ ด้าน ในนิทรรศการแสดงให้เห็นเจตจำนงอันแน่วแน่ของบี.กริม ในการสนับสนุนและส่งเสริมงานด้านศิลปวัฒนธรรม มุ่งเน้นให้บี.กริมเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานในการขับเคลื่อนศิลปะร่วมสมัยที่สามารถสานต่อการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ นำไปสู่วิสัยทัศน์เพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิต
กฤชทิพย์ ศิริรัตน์ธำรงค์
ไฮไลท์สำคัญของนิทรรศการครั้งนี้ อยู่ที่นิทรรศการหลักฐานประวัติศาสตร์การสื่อสารทางไปรษณีย์ที่สมบูรณ์ที่สุดที่ กฤชทิพย์ ศิริรัตน์ธำรงค์ นักสะสมตัวยงเสาะหาและรวบรวมมากว่าค่อนชีวิต นำออกมาจัดแสดงเป็นคอลเลกชั่น ทุกชิ้นบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของผู้ก่อตั้ง บี.กริม ทายาท และหลากหลายบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับส่วนตัว ระดับองค์กร ไปจนถึงระดับชาติ อีกทั้งบรรจุเรื่องเล่าไว้มากมาย ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนีและไทยในช่วงเวลากว่า 200 ปี และเรื่องราวของบริษัทบี.กริม จึงเป็นโอกาสดีที่เหล่าคนรักประวัติศาสตร์จะได้ชมหลักฐานประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่าเหล่านี้เป็นครั้งแรก
จดหมายถึงออทโท ลิงค์ ด้านหลังมีตราประทับบริษัท ที่ได้รับพระบรมราชานุญาตจาก ร.5 ให้ใช้ตราส่วนพระองค์
ไปรษณียบัตรรูปภาพอาคารสโมสรชาวเยอรมันในบางกอก ค.ศ. 1899, 1901 จนถึงปี 1906
“ผมสะสมสิ่งเหล่านี้มา 62 ปีแล้ว จนตอนนี้อายุ 70 ปีก็ยังทำอยู่ ถือเป็นงานอดิเรกที่ผูกพันกับชีวิตมาก ช่วงที่ บี.กริม ครบ 120 ปี ก็มีส่วนนำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับบี.กริม ไปจัดแสดง ตอนนี้ได้เพิ่มเข้ามาอีก เอาแสตมป์แผ่นเล็กๆ มาเล่าเรื่องราวคนเยอรมันที่เข้ามาใช้ชีวิตในประเทศไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทูตระหว่างเยอรมนีกับสยาม แล้วก็มีเรื่องราวของ บี.กริม กับสยาม สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ผมถือว่าเป็นอาหารทางใจที่สำคัญพอๆ กับอาหารท้อง คนเราต้องการอาหารทางใจนั่นคือศิลปะและดนตรี สำคัญต้องมีการโปรโมทให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง” กฤชทิพย์ กล่าว
ซองจดหมายที่ส่งออกจาก บี.กริม ได้รับพระบรมราชานุญาตจาก ร.7 ให้ใช้ตราประจำพระองค์เป็นตราตั้งห้าง โดยด้านล่างของตราตั้งจะมีข้อความว่า “ได้รับพระบรมราชานุญาตเป็นพิเศษ” แสดงถึงความไว้วางใจของราชสำนักที่มีต่อบี.กริม
ในจำนวนที่คัดสรรมา 232 ชิ้นเพื่อจัดแสดง มีกว่า 50 ชิ้นที่หาดูได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะหลักฐานการสื่อสารทางไปรษณีย์ที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งยังส่งทางเรือ จนถึงสมัยรัชกาลที่ 9 โดยแบ่งเป็น 6 หมวดสำคัญ ได้แก่ หลักฐานการสื่อสารของผู้ก่อตั้งบี.กริม หลักฐานการสื่อสารระหว่างสมาชิกตระกูลลิงค์ หลักฐานการสื่อสารทางการทูตระหว่างกงสุลเยอรมนีและสยาม หลักฐานการสื่อสารทางธุรกิจของบี.กริม หลักฐานการสื่อสารของบริษัทเยอรมันที่เข้ามาทำธุรกิจในสยาม และชุดไปรษณียบัตรที่ส่งโดยสมาคมชาวเยอรมันในบางกอก
ที่น่าสนใจ อาทิ ซองจดหมาย ตราประทับ ตราไปรษณียากร การ์ดไปรษณียบัตร และไปรษณียบัตรรูปภาพ เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์แห่งการมีตัวตนอยู่จริงของบุคคลสำคัญ ทั้งยังสะท้อนภาพอดีตและความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง การคมนาคม และสภาพสังคมของทั้งสองประเทศอย่างชัดเจน นับเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นเล็ก ๆ ที่ช่วยเติมเรื่องราวให้หน้าประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา 5 รัชสมัยของ บี.กริม เกิดเป็นภาพที่สมบูรณ์ได้ในที่สุด
บรรยากาศการแถลงข่าว
นอกจากเกร็ดประวัติศาสตร์ที่มาทางไปรษณีย์แล้ว ภายในนิทรรศการยังมีสารคดีประวัติศาสตร์ “140 ปี บี.กริม” ที่ผลิตโดยโรล็อง มาแลสปีน, นิทรรศการการสนับสนุนการอนุรักษ์เสือโคร่งในประเทศไทยของ บี.กริม, การแสดงดนตรีจากมูลนิธิวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ รวมถึงการรวมตัวกันครั้งแรกของศิลปินไทยร่วมสมัยถึง15 คน อาทิ พินรี สัณฑ์พิทักษ์,ธวัชชัย พันธุสวัสดิ์,ดร.คธา แสงแข,กฤช งามสม,อิ่มหทัย สุวัฒนศิลป์,ปานพรรณ ยอดมณี,ดุษฎี ฮันตระกูล เป็นต้น แสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารีของบี.กริม
ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในพิธีเปิด นิทรรศการ “ฝากไว้ในแผ่นดิน 140 ปี บี.กริม” ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน โดยนิทรรศการจะเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่วันที่ 11- 20 มิถุนายนนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง