เพราะเป็นคนไทย ถูกไล่ลงจากเครื่อง

 

          เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินสุวรรณภูมิและสายการบิน Emirates ทำลึกลับเชิญตัวออกจากเครื่องบิน 10 นาทีก่อนเครื่องออก ต่อหน้าผู้โดยสารนับร้อย ราวกับเป็นคนค้ายาเสพติดหรือนักโทษหนีคดีตำรวจสากลมา ถูกเชิญจากพนักงานภาคพื้นดินแบบไม่สุภาพ ไม่สุภาพจริงๆ ลงจากเครื่อง

 

 

          เริ่มที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ผ่านเข้า Gate ก็สแกน boarding pass ทุกอย่างปกติ

          ขณะรอที่ Gate จนได้เวลา เรียกให้ขึ้นเครื่อง โดย first class, Business class และบัตรทองทยอยขึ้นเครื่องแล้ว และได้ยินประกาศชื่อ-นามสกุลของเจนให้ไปแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ด่วน ขณะนั้น โซน C ซึ่งเป็นที่นั่งด้านหลังสุดของเครื่อง ได้ทยอยขึ้นเครื่อง ซึ่งเจนก็อยู่โซนนี้

          เมื่อเจนไปแสดงตัวต่อ จนท., จนท.ก็ขอดูหนังสือเดินทางอีกครั้ง และดูวีซ่าอีกครั้ง และเอาหนังสือเดินทางเจนไปและไปโทรศัพท์คุยกับ.....(ใครก็ไม่ทราบ) แล้วกลับมาที่เจน

          เจนเลยบอกว่า วีซ่าของเจน และใบอนุญาตทำงาน คือหน้าไหนและบอกว่า ทางแอฟริกาใต้ออกให้เมื่อปี 2018 และจะหมดอายุปี 2020 ตามวัน เดือน ปี ที่หนังสือเดินทางหมดอายุ แล้ว จนท. ก็ไปโทรศัพท์อีก แล้วจากนั้นก็กลับเอา หนังสือเดินทางมาคืนให้เจน

          เจนนั่งอยู่บนเครื่องบินแล้ว แถวที่ 2 จากท้ายสุดของเครื่องบิน ที่นั่งถัดจากเจนว่าง ทุกอย่างปกติ เจ้าหน้าที่บนเครื่องบินปิดที่เก็บสัมภาระบนศีรษะหมดแล้ว เจ้าหน้าที่บนเครื่องประกาศเตรียมตัว

          และแล้ว อีกประมาณ 10 นาทีก่อนเวลาเครื่องออก ได้มีพนักงานภาคพื้นดินคนเดิม และมีอีกคนเดินตามหลังเป็นผู้หญิงทั้งคู่ ในมือถือวิทยุสื่อสารบอกให้เอากระเป๋า 3 ใบหมายเลข ...... ลงจากเครื่อง

          จนท.ท่านนั้นมาหยุดที่เจน แล้วบอกว่าขอดู boarding pass ของเจน เจนใช้เวลาหา 1-2 นาที ขณะที่เจนหาอยู่นั้น ก็บอกกับเจนว่า

          จนท. : ผู้โดยสารไม่สามารถเดินทางได้นะคะ (แต่น้ำเสียงที่พูด แข็งกระด้าง และสีหน้า ไม่เป็นมิตร รู้สึกได้ถึงความไม่ให้เกียรติ)

          เจน : (ส่ง boarding pass ให้ พร้อมถามว่า) เกิดอะไรขึ้นคะ?
          จนท. : บอกไม่ได้ค่ะ
          เจน : มีปัญหาอะไรหรือคะ? (แต่ในใจคิดว่า มีใครเอายาเสพติดไปยัดใส่กระเป๋า ตู ป่ะวะ)
          จนท. : บอกไม่ได้ค่ะ
          จนท. : ผู้โดยสาร เดินทางไม่ได้นะคะ ต้องลงจากเครื่องตอนนี้ (เร่ง เจนมาก)
          เจน : เมื่อไม่ให้พี่ไปเที่ยวบิน แล้วใครจะรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายในเที่ยวบินถัดไป?
          จนท. : ผู้โดยสารรับผิดชอบเอง
          จนท. : ผู้โดยสารจะต้องลงจากเครื่องค่ะะ ผู้โดยสารผู้หญิงเดินทางไม่ได้นะคะ ต้องลงจากเครื่องเดียวนี้ ! (จนท.แสดงเหมือนว่า เจนมีหมายจับจากตำรวจสากล หรือเป็นผู้ร้ายหลบหนีจะออกนอกประเทศ อย่างไรอย่างนั้นเลยคะ)

          จนท. ภาคพื้นดิน 2 คน เดินนำหน้า พร้อมกับสายตาทุกคู่ มองมาที่เจนและคุณวูฟ จากท้ายเครื่อง จนถึงทางออก น่าจะเกือบหมดชั้น Economy ขณะเดียวกัน จนท.ท่านที่เดินหน้าก็พูดวิทยุสื่อสาร กับ จนท. โหลดกระเป๋าให้เอากระเป๋าของเจนลงจากเครื่อง
          เจนเดินตาม จนท.ภาคพื้นดิน ออกจากเครื่องจนถึงทางเดินเชื่อมต่อระหว่าง gate และเครื่องบิน เจนเลยถาม จนท.ไปอีกว่า
          เจน : เกิดอะไรขึ้น มีปัญหาอะไร ?
          จนท. : บอกไม่ได้ค่ะ

          เมื่อมาถึง gate ชึ่งเป็นที่เดียวที่รอขึ้นเครื่อง และยังมี จนท.ภาคพื้นดินอยู่หลายคน เจนจึงถาม จนท.อีกครั้งว่า
          เจน : มีปัญหาอะไรคะ?
          จนท. : วีซ่า ผู้โดยสารมีปัญหา !!!!!
          เจน : อะไรนะ
          จนท. วางโทรศัพท์และหันมาบอกเจนว่า วีซ่าคุณมันออก ปี 22 ได้ยังไง ปีนี้ปี 19 !!!!!!
          เจนได้ยินแค่นั้นเลยหันมาพูดกับ จนท. คนนั้นว่า

          “ให้กลับไปอ่านวีซ่าใหม่ อ่านให้ช้าๆ อ่านให้ชัดๆ ไม่เข้าใจแล้วถาม จะอธิบายให้ฟัง เดียวจะโชว์โง่ !!!!!

          จนท.ยังทำหน้าเหมือนว่า ได้โชว์ผลงานชิ้นโบแดง น่าจะได้เลื่อนขั้นหรือขึ้นเงินเดือนแน่ เพราะคัดกรองเอาผู้โดยสาร ตลาดล่าง ที่น่าจะโดดและลักลอบทำงาน ลงจากเครื่องได้

          ในที่สุด เจนเดินกลับเข้ามาในเครื่อง แบบทุลักทุเล จนท.บนเครื่องถามเจนว่า เจน ok มั้ย? เจนบอกกับ จนท.บริการบนเครื่องบินว่า I’m not ok !!! I’m not happy!!! และบอกว่าพนักงานภาคพื้นเขาหาว่าฉันไม่มีวีซ่า !!!!

          พนง. บนเครื่องบินบอกเจนว่า : เขาก็บอกพวกฉันเช่นนั้นเหมือนกัน !!!! OMG

          พอกลับมาถึงที่นั่ง ผู้โดยสารรอบข้างต่างถามว่าเกิดอะไรขึ้น

          เลยบอกไปว่า เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่สนามบินสุวรรณภูมิ
     

          “อ่านภาษาอังกฤษไม่แตก ดูวันที่ออกวีซ่าไม่เป็น วันหมดอายุ 2020 อ่านเข้าใจว่าเป็นวันออกวีซ่า และเข้าใจว่า เป็นวีซ่าปลอม เพราะปีนี้ 2019 จะออกวีซ่า 2020 ได้อย่างไร” แต่นั่นคือวันหมดอายุหรือ expiry

          ตอนนี้ เจนจะทำจดหมาย ส่ง mail ไปที่สายการบิน emirates Dubai รู้สึกเสียใจมาก เจ้าหน้าที่มีท่าทีคุกคามมาก ไม่พูดน้ำเสียงดีๆ เพราะคนไทยเหมือนกัน แสดงออกกับเจนเหมือนเจนเป็นคนชั้นสอง หรือคนละคลาสกับพวกเขา
เจน

ตอบ
          ทางทีมงานลุงแจ่มได้ติดต่อไปยังสายการบินนี้แล้ว โดยทางสายการบินเเนะนำให้ผู้ร้องเรียนมาร้องเรียนด้วยตนเอง เพื่อที่จะได้ชี้เเจงในกรณีนี้ หากผู้ร้องเรียนมาร้องเรียนด้วยตนเองทางเราจะได้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเเละเเก้ไขได้ถูกต้อง เป็นรายกรณี ทางสายการบินต้องขอขอบคุณผู้ที่ร้องเรียนเพื่อให้เราทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น