ไลฟ์สไตล์

ฟันผุเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ

ฟันผุเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ

18 ส.ค. 2554

ฟันผุเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ

          บางคนคิดว่า "ฟันผุ" เป็นเรื่องเล็กน้อย แล้วปล่อยทิ้งไว้จนเป็นรูลึกไปถึงโพรงประสาท เมื่อรู้สึกเสียวฟันจนทนไม่ไหวจึงค่อยไปพบทันตแพทย์ โดยหารู้ไม่ว่าการทำเช่นนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่งยวด

          น.พ.อิทธิชัย  วัชรีคุปต์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท (แผนกผู้สูงอายุ ) กล่าวว่า เมื่อฟันผุจนถึงขั้นเหงือกอักเสบ เชื้อพี จินจิวาลิส ที่อาศัยอยู่บริเวณเหงือกที่อักเสบอาจสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ ซึ่งจะทำให้ผนังหลอดเลือดแดงหนาตัว เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจไม่สะดวก หรืออาจทำให้เกิดการอักเสบที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ  และอาจส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจวายได้ ทั้งยังเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดสมองตีบหรือตันด้วย เนื่องจากลิ่มเลือดอาจลอยไปตามกระแสเลือดไปอุดบริเวณใดก็ได้ ถ้าไปอุดตันที่เส้นเลือดหลักที่ไปเลี้ยงสมองก็อาจก่อให้เกิดเป็นอัมพาต

          อัมพฤกษ์ได้ และภาวะเสี่ยงอีกประการคือโรคลิ้นหัวใจรั่ว หากมีเชื้อสเตร็บโตคอคไคสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะเชื้อดังกล่าวอาจเข้าสู่กระแสเลือดแล้วไปกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักขึ้นจนลิ้นหัวใจอักเสบ เมื่อลิ้นหัวใจอักเสบแล้วจะทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้น้อยลง

          พร้อมกันนี้คุณหมอยังแนะนำในเรื่องการแปรงฟันว่า ควรแปรงฟันให้ถูกวิธี และแปรงครั้งละ 2 นาทีขึ้นไป จะช่วยป้องกันฟันผุและเหงือกอักเสบได้ ทีสำคัญควรตรวจสุขภาพฟันปีละ 2 ครั้ง และควรรีบไปพบทันตแพทย์ทุกครั้งเมื่อพบว่าฟันผุ เพื่อป้องกันภาวะเสี่ยง

          "นอกจากการแปรงฟันเป็นประจำหลังมื้ออาหารแล้ว ควรเลือกแปรงที่หัวกลมมน และนิ่ม เปลี่ยนแปรงสีฟัน 3 เดือน ต่อ 1 ครั้ง เนื่องจากเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรีย ต่อมาควรเลือกยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์เพื่อช่วยป้องกันผิวเคลือบฟัน และใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้ง  เนื่องจากไหมขัดฟันช่วยขจัดทั้งคราบอาหาร และคราบแบคทีเรียที่อยู่ระหว่างซอกฟันออกไปด้วย

          จากนั้นควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขนมขบเคี้ยว ขนมเหนียวๆ และเครื่องดื่มโดยเฉพาะที่มีน้ำตาล หรือหากจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มหวานๆ หรือเบียร์ ควรบ้วนปากหลายๆ ครั้งทันที และรับประทานอาหารที่มีแคลเซี่ยมสูง เช่น บร็อกโคลี ปลาซาร์ดีน นม งาดำ กะปิ ฯลฯ พร้อมกับดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอจะช่วยลดความเป็นกรดในช่องปาก และที่สำคัญคือไม่ควรแปรงฟันภายใน 1 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร นม หรือเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยว หรือเป็นกรด เช่น น้ำอัดลม ของดอง อาหารรสเปรี้ยว ฯลฯ  เนื่องจากกรดทำให้สารเคลือบฟันอ่อนตัว การแปรงฟันจะทำให้สารเคลือบฟันบางลง" คุณหมอแนะ