'สาหร่ายพวงองุ่น' พืชเศรษฐกิจใต้น้ำแห่งอันดามัน
25 ก.ค. 2557
ทำมาหากิน : ส่งเสริมเพาะ 'สาหร่ายพวงองุ่น' พืชเศรษฐกิจใต้น้ำแห่งอันดามัน : โดย...ดลมนัส กาเจ
เดิมที "สาหร่ายพวงองุ่น" ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในน้ำทะเลตามแนวชายฝั่งทะเลอันดามัน ชาวบ้านจะนิยมนำมาบริโภคทำเป็นอาหารจำพวกยำ ผัด ต้มจิ้มน้ำพริก มานานแล้ว แต่ไม่แพร่หลาย ทางกรมประมงได้มีการวิจัยพบว่า มีคุณค่าด้านโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีน มีวิตามินหลายชนิด แร่ธาตุ และไอโอดีนสูง แต่ปัจจุบันสาหร่ายพวงองุ่นเริ่มมีปริมาณน้อยลง ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งพังงา ได้มีการส่งเสริมเกษตรกรชายฝั่งเพาะเลี้ยงเป็นอาชีพ เนื่องจากสามารถนำไปทำเป็นอาหารได้หลายอย่าง
สุภาพ ไพรพนาพงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งพังงา บอกว่า สาหร่ายพวงองุ่นเป็นสาหร่ายทะเลชนิดหนึ่ง เป็นพืชชั้นต่ำที่อาศัยอยู่ในทะเล ลักษณะโดยทั่วไป ขึ้นเป็นเดี่ยวๆ พบบริเวณชายฝั่งในเขตน้ำขึ้น-ลง หรือแอ่งน้ำขัง เกาะกับก้อนหิน ปะการัง ลำต้นคืบคลานไปตามพื้นและแตกแขนงได้ ซึ่งส่วนของแขนงตั้งตรงสูง 1-6 ซม. มีใบหรือรามูลัสเล็กๆ ทรงกลมคล้ายผลองุ่นสีเขียว มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 1.5-2 มม. มีก้านสั้นๆ เรียงกันคล้ายพวงองุ่น จะอยู่ในระดับน้ำลึกไม่เกิน 1.5 เมตร ชาวบ้านที่อยู่ตามชายฝั่งนิยมไปเก็บสาหร่ายพวงองุ่นนำมาบริโภคในพื้นที่ แต่ไม่แพร่หลายเท่าไรนัก
อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยพบว่า สาหร่ายพวงองุ่นมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีน ไอโอดีน ซึ่งช่วยป้องกันและรักษาโรคคอพอก แมกนีเซียมช่วยบำรุงกล้ามเนื้อและระบบประสาท โพแทสเซียมช่วยควบคุมการทำงานของเซลล์และสมดุลของน้ำในร่างกาย รวมทั้งพบวิตามินบี ซี อี และกรดอะมิโนจำเป็นหลากหลายชนิด ที่ไม่พบในพืชบก ถึงแม้จะมีรสเค็มแต่ปริมาณเกลือต่ำ ปราศจากไขมัน ว่ากันว่าเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง แต่ปัจจุบันสาหร่ายพวงองุ่นในธรรมชาติมีน้อย ทางกรมประมงมีนโยบายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งพังงา ส่งเสริมเกษตรกรให้เพาะเลี้ยงเป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อนำรายได้มาเลี้ยงครอบครัว เพราะปัจจุบันราคาตกกิโลกรัมละ 70 บาท ล่าสุดมีเกษตรกรสนใจเลี้ยงแล้วกว่า 50 รายแล้ว
"ที่จริงสาหร่ายชนิดนี้ ชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และฟิลิปปินส์ นิยมบริโภคเป็นอาหารมานานแล้ว และสามารถทำเป็นเมนูอาหารหลายอย่าง อย่างบ้านเรานิยมรับประทานกับน้ำพริก ทำส้มตำ ทำสลัด ยำสาหร่าย และอาหารรับประทานเล่น หรือกรีนคาเวียร์ ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะคุณค่าทางโภชนาการสูง" สุภาพ กล่าว
ส่วนวิธีการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นนั้น สุภาพ บอกว่า ต้องหาสาหร่ายมาจากธรรมชาติจำนวน 1 กก. ใส่ในตะกร้าขนาด 25x45 ซม. แช่ลงในน้ำทะเล ที่เป็นแอ่งน้ำขัง หรือบ่อปลากะพง ใช้เวลา 1 เดือนโดยไม่ต้องใช้ปุ๋ย สามารถเก็บขายได้แล้ว ปัจจุบันมีตลาดในพื้นที่รองรับ ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ หากมีปริมาณที่เพียงพออาจขยายตลาดสู่เมืองท่องเที่ยว และจังหวัดอื่นต่อไปในอนาคต
สำหรับสาหร่ายพวงองุ่นจัดเป็นอาหารสุขภาพที่มีราคาค่อนข้างสูง ตามข้อมูลจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งพังงา ระบุว่า คุณประโยชน์คือ เป็นอาหารสำหรับรับประทานแล้ว จะช่วยปรับสมดุลในร่างกาย และรักษาความชุ่มชื้นของเซลล์ผิว บำรุงสมอง บำรุงเส้นผม ทั้งยังมีงานวิจัยอีกหลายสถาบันที่เชื่อว่าสาหร่ายให้ผลเป็นยาในการต่อต้าน และยับยั้งเซลล์ผิดปกติ หรือมะเร็ง ซึ่งสาหร่ายพวงองุ่นมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อราด้วย
สาหร่ายพวงองุ่นนับเป็นพืชน้ำที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะสามารถปรุงเป็นเมนูอาหารที่หลากหลาย แล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ควรอย่างยิ่งที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรที่อาศัยตามแนวชายฝั่งทะเลอันดามันให้เพาะเลี้ยงเป็นอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ต่อไป
---------------------------
(ทำมาหากิน : ส่งเสริมเพาะ 'สาหร่ายพวงองุ่น' พืชเศรษฐกิจใต้น้ำแห่งอันดามัน : โดย...ดลมนัส กาเจ)