Lifestyle

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เที่ยวฝั่งทะเลตะวันออกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ 8 ชุมชน 3 จังหวัด

         ในปี 2561 ที่ผ่านมา สำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 (อพท.3) ร่วมกับสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) ดำเนินโครงการพัฒนากิจกรรมและเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมชนในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างรากฐานความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนโดยใช้เครื่องมือ ที่เรียกว่า “การท่องเที่ยวโดยชุมชน” ในพื้นที่เขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก หวังให้ชุมชนสามารถมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืน

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก

ธิติ จันทร์แต่งผล

         ธิติ จันทร์แต่งผล ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 (อพท.3) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการตลาดชุมชนในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก กล่าวว่า ชุมชนซึ่งให้ความร่วมมือและได้รับการสนับสนุนภายใต้โครงการส่งเสริมการตลาดชุมชนของ อพท. ในปีนี้ ประกอบด้วย 8 ชุมชน ในจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ได้แก่ ชุมชนบ้านกระแสบน, ชุมชนบ้านจำรุง, ชุมชนบางกะจะ, ชุมชนบ้านปัถวี, ชุมชนบ้านไม้รูด, ชุมชนบ้านท่าระแนะ, ชุมชนคลองใหญ่ และ ชุมชนเกาะหมาก

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก

ชุมชนไม้รูด จ.ตราด

         โดยชุมชนแต่ละแห่งมีอัตลักษณ์และความโดดเด่นหรือประเด็นในพื้นที่ที่น่าสนใจต่างกัน และมีเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน เช่น ชุมชนกระแสบน จ.ระยอง มีเป้าหมายเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและแม่น้ำประแสเพื่อความอยู่รอดของการดำรงชีพในท้องถิ่น, บ้านปัถวี จ.จันทบุรี มีเป้าหมายเพื่อสร้างสังคมสวนผลไม้ปลอดสารเคมีเพื่อก้าวเข้าสู่วิถีพอเพียง หรือ เกาะหมาก จ.ตราด มีเป้าหมายเพื่อการท่องเที่ยวที่มีผลกระทบต่ำต่อสิ่งแวดล้อม กิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่นำเสนอผ่านการท่องเที่ยวโดยชุมชนเหล่านี้ สร้างสรรค์บนพื้นฐานด้านธรรมชาติ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นการแสวงหาประสบการณ์จากการท่องเที่ยวในพื้นที่ชนบทไทยดั้งเดิมหรือพื้นที่ธรรมชาติที่สงบและห่างไกล โดยใช้กิจกรรมที่มีอยู่ในพื้นที่อย่างเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก

สัมผัสชนบทไทยบ้านกระแสบน

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก

 ศรีพิจิตต์ เติมชัยเจริญศักดิ์

         ศรีพิจิตต์ เติมชัยเจริญศักดิ์ อุปนายก สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) กล่าวว่า กิจกรรมในชุมชนหล่านี้มีความหลากหลายและแตกต่างกัน ทั้งกิจกรรมเชิงธรรมชาติ ผจญภัยและวิถีชีวิตวัฒนธรรม อาทิ การล่องเรือเพื่อชมวิวและดูตัวตะกองหรือลั้ง (กิ้งก่ายักษ์) ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ร่มของกอไผ่ตลอดลำน้ำ ตะกอง เป็นกิ้งก่ายักษ์ชนิดเดียวที่พบในประเทศไทยและพบได้เฉพาะในภาคตะวันออกของประเทศเท่านั้น (รวมถึงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) ถิ่นอาศัยตามธรรมชาติส่วนใหญ่อยู่ในประเทศแถบอินโดจีน (ลาว เขมร เวียดนาม)

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก

ท่องป่าชายเลนระหว่างล่องคลองไม้รูด

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก

ตะกองหรือมังกรน้ำแห่งอินโดจีน

        นอกจากนี้ยังมีเส้นทางให้เข้าไปสัมผัสป่าชายเลนดึกดำบรรพ์ที่ชายฝั่งทะเลของจังหวัดตราด ซึ่งยังคงมีความเป็นธรรมชาติดั้งเดิมให้ความรู้สึกแบบดิบๆ ที่ ชุมชนท่าระแนะ และชุมชนไม้รูด ชมวิวและได้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน และร่วมกิจกรรมปลูกป่า เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์แหล่งอาหารของชุมชนที่สำคัญนี้ให้ยั่งยืนตลอดไป ขากลับนั่งเรือชมหิ่งห้อยสองข้างทางสัมผัสความสวยงามของแสงธรรมชาติ

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก

ชายหาดที่ขาวละเอียดและเงียบสงบของชุมชนประมงชายฝั่งที่บ้านไม้รูด

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก

ทรายสองสี หาดทรายบ้านไม้รูด

         ทำความรู้จักกับประวัติศาสตร์ของตราดผ่านอนุสรณ์ที่สำคัญ “ศาลาราชการุณย์” บอกเล่าเรื่องราวของสงครามกลางเมืองในเขมรและมนุษยธรรมที่ไร้พรมแดนระหว่างสองประเทศได้อย่างน่าประทับใจ สถานที่ตั้งซึ่งสวยงามบนชายฝั่งทะเลของบ้านไม้รูดนี้เคยเป็นค่ายอพยพและมีเรื่องราวมากมายให้เราได้เรียนรู้และซาบซึ้งใจ

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก

ศาลเจ้าแม่ทับทิมคลองใหญ่

          สักการะ “ศาลเจ้าแม่ทับทิม” ซึ่งจัดสร้างขึ้นมาเมื่อปีใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่พอประมาณได้จากการบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 70 ปีกว่ามาแล้ว โดยองค์เจ้าแม่ลอยน้ำมาบริเวณทะเลอำเภอคลองใหญ่ ชาวบ้านร่วมกันอัญเชิญองค์เจ้าแม่ซึ่งเป็นไม้แก่นจันทร์แกะสลักเป็นรูปผู้หญิงขึ้นจากทะเลและได้ร่วมกันสร้างศาลให้เจ้าแม่ เจ้าแม่ทับทิมเป็นที่นับถือและศรัทธามาแต่ช้านาน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวอำเภอคลองใหญ่ ทั้งยังเป็นที่สักการบูชากราบไหว้ขอพรตามความเชื่อของพี่น้องชาวประมงอีกด้วย

          สัมผัสความงามสามวัฒนธรรม ความงามข้ามพรมแดนของชุมชนชาวคลองใหญ่ เรียนรู้การอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนและผสมผสานกันอย่างลงตัวจากคนสามวัฒนธรรมไทย จีน และญวน สนุกสนานกับการเรียนรู้ของวิถีชีวิต อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นบ้าน สนุกต่อกับการเดินหรือปั่นจักรยานเที่ยวเวิ้งประวัติศาสตร์ชุมชนเก่าแก่ของจันทบุรี อย่าง ชุมชนบางกะจะ หรือการเดินทอดน่องเที่ยวชมชุมชนตลาดคลองใหญ่สงบและสะอาดอย่างน่าประทับใจในจังหวัดชายแดนอย่างตราด

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก

จิบชาร้อยรู เพลินกับวิวระเบียงป่า ดงตะบูน

           ชมความงามอันน่าอัศจรรย์ของระบบนิเวศป่าชายเลนเก่าแก่ที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่หมู่บ้านท่าระแนะ ป่าชายเลน 1 ใน สถานที่ท่องเที่ยวอันซินแห่งจังหวัดตราด ความมหัศจรรย์อยู่ตรงที่การนั่งเรือไปลานตะบูน 10 นาที เราจะผ่านช่วงป่าในคลองถึง 3 ป่า คือ ป่าโกงกาง ป่าจากและป่าตะบูน สิ่งที่ทำให้ป่าตะบูนแห่งนี้มีความอัศจรรย์คือ รากของต้นตะบูนที่ขึ้นอยู่ตามพื้นจำนวนมากที่ทำให้ลานตะบูนแห่งนี้มีความสวยงามและให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในป่าดึกดำบรรพ์

อดีตในปัจจุบัน อัศจรรย์แห่งตะวันออก

นั่งรถรางเที่ยวสวนผลไม้ ผ่านอุโมงค์สวนยางที่บ้านจำรุง

          ต่อด้วย เที่ยวชุมชนบ้านปัถวีฟังบรรยายธนาคารผึ้งชันโรง ชมสวนผลไม้ด้วยสามล้อเครื่อง เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของผึ้งในการทำสวนเกษตรอินทรีย์ ชมและชิมผลไม้สดๆจากเกษตรอินทรีย์ปัถวีโมเดล ไปเที่ยวต่อที่ชุมชนบ้านจำรุง นั่งรถรางเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวสวนผลไม้ และเที่ยวชมป่าชายเลน “สะพานรักษ์แสม” ซึ่งเป็นสะพานที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างไม้ข้ามไปอีกฝั่ง เพื่อเดินทางไปดูแลคอกปูแสม พันธุ์สัตว์น้ำและป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ และมีการเปลี่ยนมาสร้างเป็นสะพานแขวนที่สวยงามมีความยาว 80 เมตรเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติไม่ขวางทางเรือที่สัญจรไปมา พร้อมทั้งยังสร้างสะพานเดินชมป่าชายเลนยาว 90 เมตร เพื่อชมความงามตามธรรมชาติของริมคลองสองฝั่ง ต้นโกงกางและต้นแสมอายุกว่า 100 ปี

          กิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศไทย จะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลือกเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว เพื่อร่วมเรียนรู้และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปกับชุมชนท้องถิ่น “เพราะการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวเพื่อความสนุก แต่เป็นการค้นหาความสุขอย่างแท้จริง”

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ