เปิดตัว "เชฟโรเลต แคปติวา" บันไดสู่ความสำเร็จขั้นแรก!!

หลังจากเงียบหายไปนานสำหรับ เชฟโรเลต แคปติวา ก็กลับมาสร้างเสียงฮือฮาอีกครั้งในงาน  Motor Show 2019 ที่ผ่านมากับการเอารถมาโชว์ให้เห็นภายนอกอย่างเดียวโดยปิดภายในไม่ให้ใครได้เห็นเลยพร้อมประกาศราคาว่าจะเริ่มต้นไม่ถึง 1 ล้านบาท จนวันนี้ได้เปิดตัว รถอเนกประสงค์เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ The All-New Captiva อย่างเป็นทางการซะที....

แน่นอนครับตามที่ประกาศไว้จริง โดยราคารถคันนี้เริ่มต้นที่ 999,000 บาท ในรุ่น LS  หนึ่งล้านบาททอนกลับหนึ่งพัน พร้อมโปรลดอีก 40,000 บาท แต่มีระยะเวลาหมดนะ สุดท้ายจะฮือฮาไหม? เพราะทาง เชฟโรเลต ประกาศว่านี่คือ บันไดขั้นแรก และจะโตต่อเนื่อง แต่นี่คือภาระกิจที่ท้าทายมาก เนื่องจากคู่แข่งในตลาดเซกเมนต์นี้ แต่ละคันมีดีพร้อมจะน็อคคู่ต่อสู้อยู่แล้ว ยิ่งก่อนหน้าเปิดตัวแคปติวา คู่แข่งอีกค่ายก็เผยโฉมหมัดเด็ดมาให้บรรดาสื่อมวลชนไปลองขับ แถมว่าปลายเดือนนี้จะประกาศราคาอย่างเป็นทางการเช่นกัน  เชื่อว่าราคาพร้อมสเปกน่าจะใกล้กันชนิดรดต้นคอแน่นอน  แต่สุดท้ายผู้บริโภคจะเป็นคนตัดสินว่าจะจ่ายเงินให้กระเป๋าตังค์ของใคร....

งั้นวันนี้ขอโชว์ตัวรถกันอีกครั้งหลังเห็นกันไปแล้วในงาน Motor Show 2019 ช่วงต้นปีที่ผ่านมา  ด้านนอกทุกอย่างใกล้เคียงกัน เริ่มต้นต้องบอกเล่าก่อนว่ารถคันนี้ฐานผลิตมาจากอินโดนีเซีย แต่เป็นการร่วมมือหลายประเทศจริงๆ ข้อมูลที่มีอาจคลาดเคลื่อนไปต้องขออภัยก่อนนะครับ  แต่สุดท้ายรถคันนี้ก็เดินทางมาถึงบ้านเราให้หลายๆ คนที่ยังเหลือเป็นแฟนพันธ์ุแท้อยู่ แล้วสนใจ แต่จากหน้าตามีสองอารมณ์แว๊บขึ้นมาว่า ดูสวยเฉี่ยวและบึกบึนแต่อีกมุมสรุปมันสวยไหม?

โดยไฟเลี้ยวอยู่มุมบน ไฟหน้าลงไปอยู่ด้านล่าง อารมณ์นี้เคยเห็นรถอะไรน้าน!!! แต่ทั้งหมดจะต้องไปถูกตัดสินวันที่เราจะได้ไปลองขับจริง ว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอม หรือ นี่คือรถที่ตอบโจทย์ของทุกคนในครอบครัว งั้นมาดูว่ารถ All New Chevrolet Captiva 2019 ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 1 ล้านบาท มาด้วยกัน 3 รุ่นหลัก และรุ่น  LS เพิ่ม 30,000 บาทสำหรับเป็น 7 ที่นั่ง  ทั้งหมดนี้มีอะไรที่น่าสนใจ เริ่มต้นด้วยแนวคิด 3s 

Style ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวทั้งภายนอก และภายใน 

ขอไล่เรืยงขนาดมิติตัวถังภายนอก  All New Chevrolet Captiva 2019 มีความยาว 4,655 มม. ความกว้าง 1,835 มม.  ความสูง 1,760 มม.  ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มม. ล้ออัลลอย 17 นิ้วและยาง 215/60 R 17  น้ำหนักรถเปล่า 1,520 กก. (รุ่น LS), 1,600 กก. (รุ่น LT), 1,630 กก. (รุ่น Premier)

รูปลักษณ์และอุปกรณ์มาตรฐานภายนอก มีดีไซน์ภายนอกใหม่หมด มีไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อม LED Daytime running light (DRL) ที่ย้ายต่ำลงมา พร้อมไฟเลี้ยวในชุดโคมเดียวกัน เพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ (สำหรับรุ่น LT และ Premier) โคมไฟหน้า LED ที่ส่องสว่างได้ไกลขึ้น (สำหรับรุ่น LT และ Premier) กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ และระบายความร้อนได้ดี มีตราสัญลักษณ์เชฟโรเลต เสาอากาศครีบฉลามที่ช่วยในการรับสัญญาณดีขึ้น

สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรคหลังที่ 3 แบบ LED หลังคาพาโนรามิก (Panoramic Sunroof) กว้างขวางถึง 0.82 ตร.ม. มาพร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติ One-touch (สำหรับรุ่น Premier เท่านั้น) กันชนหน้าหลังพร้อมแผงกันกระแทกรอบคัน กระจกมองข้างปรับระดับไฟฟ้าพร้อมสัญญาณไฟเลี้ยวแบบ LED กระจกมองข้างพับระบบไฟฟ้า (สำหรับรุ่น LT และ Premier) ล้ออัลลอย 17 นิ้ว สำหรับรุ่น LS และ LT และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต แบบทูโทนและยาง ขนาด 17 นิ้ว สำหรับรุ่น Premier 

Space พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางและอเนกประสงค์ยิ่งขึ้น 

การออกแบบและอุปกรณ์มาตรฐานภายใน มีพวงมาลัยหุ้มหนัง (เฉพาะรุ่น Premier) ฟังชั้นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) สั่งการทำงานได้จากสวิตช์บนพวงมาลัย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับวางสายโทรศัพท์ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ Push start (สำหรับรุ่น LT และ Premier) หน้าจอคอนโซลสีแบบดิจิตอล TFT ขนาด 7 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Premier) มองเห็นได้ง่ายและอ่านข้อมูลได้ชัดเจน กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ (สำหรับรุ่น Premier เท่านั้น) ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนที่ 2 สำหรับทุกรุ่น ข้อนี้ถือว่าได้ใจครับ และระบบปรับอากาศแยกส่วนสำหรับผู้โดยสารตอนที่ 3 เย็นทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร (สำหรับรุ่น LT และ Premier)  การออกแบบและจัดวางห้องโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

เบาะที่นั่งคนขับปรับไฟฟ้าแบบ 6 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น Premier) และผู้โดยสารตอนหน้าปรับมือ อีกจุดเด่นสามารรองรับผู้โดยสารสูงสุดถึง 7 ที่นั่ง (สำหรับรุ่น LT และ Premier)

พื้นที่นั่งแถวที่ 2 เพิ่มพื้นที่ช่วงขาให้กว้างขึ้นและพื้นที่นั่งแถวที่ 3 พัฒนาให้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้อย่างอเนกประสงค์ สามารถพับเบาะได้หลากหลาย ในอัตราส่วน 60:40  เบาะแถวที่ 3 พับได้ ในอัตราส่วน 50:50 (สำหรับรุ่น LT และ Premier) วัสดุหุ้มเบาะนั่งด้วยหนังสังเคราะห์สีชาโคลให้ความรู้สึกหรูหรา (สำหรับรุ่น LT และ Premier) และผ้ายีนส์ขอบดำให้ความรู้สึกสปอร์ตโฉบเฉี่ยว (สำหรับรุ่น LS) มีที่วางแก้วและช่องเก็บของทุกแถว

Smart Technology หลากหลายฟังก์ชันเทคโนโลยีสุดล้ำ  All New Chevrolet Captiva 2019  มากับ หน้าจออินโฟเทนเมนท์แสดงผลบริเวณคอนโซลกลางแบบระบบสัมผัส ขนาดใหญ่ 10.4 นิ้ว ที่บวก Chevrolet Link ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิง แสดงหน้าจอมือถือบนจอ   อินโฟเทนเมนท์ รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ด้วยสัญญาณบลูทูธ ระบบเครื่องเสียง Infinity by Harman คุณภาพเยี่ยม แบบพรีเมียมรอบทิศทาง พร้อมลำโพง    9 ตัวรวมซับวูปเฟอร์ (เฉพาะรุ่น Premier) กุญแจอัจฉริยะ (PEPs) ระบบ keyless entry พร้อมระบบป้องกันการโจรกรรม (Immobilizer)   (สำหรับรุ่น LT และ Premier) ช่องเชื่อมต่อ USB พอร์ท 4 ตำแหน่ง (สำหรับรุ่น LT และ Premier) ช่องจ่ายกระแสไฟ  12 โวลต์ บริเวณคอนโซลกลาง  ระบบไฟนำทางเข้าบ้าน Walk Me Home ช่วยส่องไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์

มาดูถึงระบบความปลอดภัยและระบบช่วยในการขับขี่ โครงสร้าง All New Chevrolet Captiva 2019 มาพร้อมตัวถังนิรภัยและคานเหล็กนิรภัยกันแรงกระแทกจากด้านข้าง ถุงลมนิรภัย SRS สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า และถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้ขับขี่   และผู้โดยสารด้านหน้า ถึง 4 จุด (สำหรับรุ่น LT และ Premier) เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ระบบแจ้งเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยฝั่งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า ตำแหน่งยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กได้มาตรฐานสากล ISOFIX สำหรับผู้โดยสารตอนที่ 2 กล้องมองภาพหลังพร้อมเส้นกะระยะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการขับขี่ในที่แคบ

 กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 degree Camera 4 ตำแหน่งรอบคัน (เฉพาะ รุ่น Premier เท่านั้น) เซ็นเซอร์หน้า (เฉพาะ รุ่น Premier) และเซ็นเซอร์หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด (Front & Rear Park Assist)

ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (TPMS) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ระบบป้องกันการลื่นไถลและล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ระบบช่วยการออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HSA) ระบบไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกระทันหัน (ESS) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB) ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Vehicle Hold) ระบบไล่ฝ้าที่กระจกหลัง

All New Chevrolet Captiva 2019 ยังมาพร้อมเครื่องยนต์ เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร รหัส LL5 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ มีระบบวาล์วแปรผันคู่ (DVVT)พ่วงระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์อัดอากาศ ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ให้กำลัง 143 แรงม้า  ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 2,400 รอบต่อนาที และจากแกะฝาครอบก็จะมองออกว่านี่น่าจะเป็นเครื่องยนต์จาก GM แน่นอนแต่เทคโนโลยี DAEWOO นะครับ แต่พอมองลึกเข้าไปหลายๆ อย่างก็ตีตราคำว่า  MADE IN CHINA กำกับ...

มาต่อด้วยขับเคลื่อนมาด้วยเกียร์อัตโนมัติแปรผันแบบต่อเนื่อง CVT พร้อมโหมด Shift Control + - 8 สปีด รอยต่อช่วงเปลี่ยนเกียร์ไว้ได้ขับจริงจะกลับมาเล่าอีกครั้งว่าลื่นและนุ่มนวลจริงไหม?  ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการขับขี่ในเมืองและขณะจอดรถ (EPS) มีเบรกมือไฟฟ้า (EPB) ความจุถังน้ำมัน 52 ลิตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E10  น่าเสียดายที่ใช้ E20 หรือ E85 ไม่ได้ ซึ่งคู่แข่งสามารถเลือกใช้ได้แล้ว!

ช่วงล่างคู่หน้าเป็น อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง  อิสระ มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ดิสก์เบรก ทั้งสี่ล้อ มีทั้งสามรุ่น ยางหน้าหลังขนาด 215 / 60 R17 อีกจุดที่ถือว่าโดดเด่นคือการให้ยางอะไหล่ 215 / 60 R17 มาด้วยจริงๆ 

มาดูราคาจำหน่ายรถอเนกประสงค์เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ 

• LS – ราคา 999,000 บาท

• LT – ราคา 1,099,000 บาท

• Premier – ราคา 1,199,000 บาท

มีสีตัวถังให้เลือก เป็นสีมาตรฐาน 5 สี (สีเงิน ออโรร่า ซิลเวอร์, สีเงิน แดซลิ่ง ซิลเวอร์, สีดำ  สตาร์รี่ แบล็ก,   สีขาว แคนดี้ ไวท์ และสีแดง คาร์เนเลียน เรด

เรื่อง: ธวัชชัย พิชิตรณชัย                                                                                                                                         

E-mail : [email protected] 

Facebook https://www.facebook.com/AeyTawatKomchadluek/