น้ำก่ำทะลักชาวบ้านหวั่นติดเกาะ

 

              ที่ บริเวณสะพานน้ำก่ำ บ.บึงศาลา อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรด้านฝั่งขวาของลำน้ำก่ำยังไม่วางใจ หลังคันดินกั้นลำน้ำก่ำฝั่งซ้ายถูกน้ำกัดเซาะจนขาด ต้องมาเฝ้าดูสถานการณ์ระดับน้ำที่ระบายออกจากหนองหารลงสู่ลำน้ำก่ำ

 

 

 

              หากระดับน้ำยังสูงต่อเนื่อง จะได้มีการวางแผนเตรียมพร้อมรับมืออพยพ เพราะยังมีการเร่งระบายน้ำออกจากหนองหาร ที่ระบายผ่านประตูสุรัสวดี พบว่า ยังมีปริมาณมาก เพิ่มเป็นวันละกว่า 20 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เพื่อระบายน้ำส่งต่อไปยังแม่น้ำโขงที่อำเภอธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งปัจจุบัน หนองหารมีระดับน้ำเก็บกักอยู่ที่ 315.828 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 118.32% ของความจุอ่าง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

              ขณะที่สถานการณ์น้ำกัดเซาะคันดินกั้นลำน้ำก่ำฝั่งซ้าย ที่ไหลผ่าน บ้านปู่พื้ม ต.บ้านโพน อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากยังไม่สามารถปิดกั้นช่องที่น้ำไหลผ่านได้ ความยาว 20 เมตร ลึก 2 เมตร ทำให้ไหลออกมาท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง และได้เอ่อท่วมถนนตัดขาดเส้นทาง บ้านปู่พื้ม ไปยัง ต.บ้านโพน มีระดับน้ำสูง 70 เซนติเมตร ไม่สามารถใช้รถสัญจรผ่านได้ ทำให้เหลือเส้นทางเข้า - ออก บ้านปู่พื้ม ไปบ้านป่าผาง เส้นทางเดียวที่ใช้เข้าออกหมู่บ้าน แต่ระดับน้ำก็สูงประมาณ 20 เซนติเมตร และมีแนวโน้มสูงขึ้น ถ้ายังมีน้ำหนุนต่อเนื่อง หมู่บ้านปู่พื้มจะถูกตัดขาดกลายเป็นเกาะกลางน้ำทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

              นายวิทยา ทิพย์สุวรรณ นายกเทศบาลตำบลบ้านโพน บอกว่า วันนี้จะวางแผนการเพิ่มกระสอบทราย และเรือท้องแบน พร้อมกับระดมกำลังคนเข้ามาบรรจุกระสอบทรายให้เพิ่มขึ้น เพื่อซ่อมแซมคันดินที่ขาดให้เหลือช่องว่างน้อยที่สุด เพื่อลดปริมาณการไหลของน้ำเข้ามาเติมในพื้นที่ แต่อุปสรรคคือการระบายน้ำในลำน้ำก่ำ ที่ต้องผ่านประตูระบายน้ำถึง 5 แห่ง ตลอดสายของลำน้ำก่ำ จึงจะสามารถไหลลงสู่น้ำโขง ที่ จ.นครพนม ได้ จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องวางแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกัน

 

 

 

              นายทนุพงศ์ ร่วมรักษ์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 กล่าวว่า การซ่อมแซมรอยรั่วมีอุปสรรค เพราะต้องกรอกกระสอบทรายบนฝั่ง แล้วใช้เรือท้องแบนบรรทุกไป และนำไปได้ครั้งละไม่มาก ขณะที่การเพิ่มของระดับน้ำ พบว่า ยังน่าพอใจเพราะมีการเพิ่มขึ้นชั่วโมงละไม่ถึง 1 เซนติเมตร และกำลังสำรวจเส้นทางที่จะให้สามารถนำเครื่องจักรและรถแบ็คโฮไปยังจุดที่คันดินเสียหายได้ หากทำได้จะใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน จะซ่อมแซมแล้วเสร็จ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

--------------------

ทวีป ศรีสุชาติ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สกลนคร

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- น้ำป่าไหลหลากชาวพิจิตรติดเกาะ

- นายกฯ ลั่น น้ำท่วมต้องคิดแก้ใหม่ทั้งหมด

- 3 จว.ยังอ่วม น้ำท่วม ดินสไลด์

- ประวิตร ลุยน้ำท่วม - แจกโฉนด ขอนแก่น 7 ก.ย.

- ยุทธศาสตร์สู้อุทกภัย