ข่าว

ภาคเหนือ“ขยายเวลา” ลงทะเบียน “บัตรคนจน”  ถึง 31 ต.ค. 65

ภาคเหนือ“ขยายเวลา” ลงทะเบียน “บัตรคนจน” ถึง 31 ต.ค. 65

18 ต.ค. 2565

ประธานคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดเชียงใหม่เผย แนะแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ลงทะเบียน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ พร้อม “ขยายเวลา” ลงทะเบียนโครงการ ถึง 31 ตุลาคม 2565

วันที่ 18 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปลื้มจิต สิงห์สุทธิจันทร์ คลังจังหวัดเชียงใหม่ ประธานคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าข้อมูล ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2565 พบว่า 

 

จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนผู้ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 จำนวน 342,350 คน  คิดเป็นร้อยละ 22.51 ของภาคเหนือ ที่มีผู้ลงทะเบียนสะสมอยู่ที่ 1,520,564 คน 

 

ซึ่งถือว่าจังหวัดเชียงใหม่มีผู้ลงทะเบียนเป็นอันดับหนึ่งของภาคเหนือและเป็นอันดับ 8 ของประเทศ  และจังหวัดเชียงใหม่พบว่ามีจำนวนผู้ลงทะเบียนที่สถานะครอบครัวไม่ตรงตามข้อมูลของสำนักทะเบียนกรมการปกครอง(ผู้ที่ลงทะเบียนไม่สมบูรณ์) อยู่ 15,583 คน

 

ภาคเหนือ“ขยายเวลา” ลงทะเบียน “บัตรคนจน”  ถึง 31 ต.ค. 65 ภาคเหนือ“ขยายเวลา” ลงทะเบียน “บัตรคนจน”  ถึง 31 ต.ค. 65

ซึ่งสถานการณ์การรับลงทะเบียนผู้ประสงค์รับสวัสดิการ มีการบูรณาการหน่วยรับลงทะเบียนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ที่ทำการปกครองอำเภอ สำนักงานคลังจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งหมด 145 จุด 

 

สามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างเรียบร้อย มีการให้จัดหน่วยบริการเชิงรุกของนายอำเภอทุกอำเภอร่วมกับทุกหน่วยงานในพื้นที่ แต่หลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (คณะกรรมการฯ) กำหนดให้มีการระบุตัวตนผู้มีรายได้น้อยอย่างถูกต้องกับเจตนารมณ์ของรัฐบาลมากที่สุด 

 

โดยมีการตรวจสอบสถานะครอบครัวของผู้ลงทะเบียนกับฐานข้อมูลทะเบียนครอบครัวของกรมการปกครอง ซึ่ง ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2565 จังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวน ผู้ลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ จำนวน 15,583 คน คิดเป็นร้อยละ4.6 ของผู้ลงทะเบียนทั้งหมดในจังหวัดเชียงใหม่

 

ภาคเหนือ“ขยายเวลา” ลงทะเบียน “บัตรคนจน”  ถึง 31 ต.ค. 65

โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 เห็นชอบในแนวทางการดำเนินการเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินการสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนโครงการฯ ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ คณะกรรมการฯ จึงเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนจากเดิมคือ วันที่ 5 กันยายน - 19 ตุลาคม 2565 เป็น วันที่ 5 กันยายน - 31 ตุลาคม 2565 

 

โดยมีรายละเอียดดังนี้

 1. กลุ่มของผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรส แบ่งออกเป็น 

2.กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบางได้แก่ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป นับถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565) ผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสมาเพื่อดำเนินการหย่าตามกฎหมายได้  และกลุ่มผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ผู้ลงทะเบียนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้

 

สำหรับแนวปฏิบัติสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ หากเป็นกลุ่มผู้ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง จะต้องดำเนินการโดยยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนพร้อมหนังสือประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ โดยต้องลายมือชื่อของผู้ลงทะเบียน ลายมือชื่อของพยานรับรอง จำนวน 2 คน 

 

รวมถึงต้องมีการลงนามรับรองจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่เป็นผู้รับรองว่า ผู้ลงทะเบียนเป็นบุคคลที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสมาเพื่อดำเนินการหย่า ตามกฎหมายได้และเอกสารประกอบการลงทะเบียนอื่น ๆ (กรณีมีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี) และผู้ลงทะเบียนจะต้องนำเอกสารทั้งหมดไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนโดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอหรือผู้ที่มอบหมาย

 

 รวมถึงพนักงานเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองและเทศบาลนครในพื้นที่ เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตที่ผู้อำนวยการเขตมอบหมาย เจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นเมืองพัทยา 

 

ทั้งนี้ หากผู้ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบางผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ซึ่งกระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบต่อไปโดยผู้ลงทะเบียนจะสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯได้ ต้องไปยืนยันตัวตน ณธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสินได้ตั้งแต่วันที่ที่ประกาศผลผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ (ภายในระยะเวลา 180 วัน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด(ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด)

 

สำหรับแนวปฏิบัติสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ ในกลุ่มผู้ลงทะเบียนทั่วไป จะต้องดำเนินการโดยยื่นแบบฟอร์มการลงทะเบียน พร้อมหนังสือประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ โดยต้องลายมือชื่อของผู้ลงทะเบียน ลายมือชื่อของพยานรับรองจำนวน2 คน และเอกสารประกอบการลงทะเบียนอื่น ๆ (กรณีที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี) และผู้ลงทะเบียนจะต้องนำเอกสารทั้งหมดไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ทั้งนี้ หากผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไปผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนจะต้องนำใบสำคัญการหย่าหรือเอกสารอื่นใดที่คณะกรรมการฯ กำหนดมาแสดงและยืนยันตัวตน ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน ได้ตั้งแต่วันที่ประกาศผลผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ (ภายในระยะเวลา 180 วัน) และธนาคารกรุงไทยฯ (ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด)จะสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯ ได้โดยผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไปจะต้องนำใบสำคัญการหย่าหรือเอกสารอื่นใดที่คณะกรรมการฯ กำหนดมาแสดงให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติจึงจะสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯ ได้ 

 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถดาวน์โหลดหนังสือประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ ได้จากเว็บไซต์ของ โครงการฯ ได้ที่http://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th/ หรือติดต่อขอรับจากหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วยทั่วประเทศ และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินการสำหรับผู้ลงทะเบียนโครงการฯ ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้และเป็นประโยชน์แก่ผู้ลงเบียนที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ คณะกรรมการฯ จึงเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนจาก"วันที่ 5 กันยายน - 19 ตุลาคม2565" เป็น "วันที่ 5 กันยายน - 31 ตุลาคม 2565"

 

ภาคเหนือ“ขยายเวลา” ลงทะเบียน “บัตรคนจน”  ถึง 31 ต.ค. 65 ภาคเหนือ“ขยายเวลา” ลงทะเบียน “บัตรคนจน”  ถึง 31 ต.ค. 65

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่

 

เพิ่มเพื่อน Line https://lin.ee/qw9UHd2

 

Facebook https://www.facebook.com/komchadluek/