ข่าว

ชนสนั่น 'เรือประมง' พุ่งชน 'เรือโดยสาร' ดับทันที 1 ราย บาดเจ็บอีกหลายราย

ชนสนั่น 'เรือประมง' พุ่งชน 'เรือโดยสาร' ดับทันที 1 ราย บาดเจ็บอีกหลายราย

26 มี.ค. 2566

อุบัติเหตุ 'เรือโดยสาร' รับส่งนักท่องเที่ยวหมู่บ้านไร้แผ่นดินชนกับ 'เรือประมง' มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 3 ราย คาดระหว่างออกเรือไม่ได้มองโดยรอบทำให้เกิดเหตุเรือพุ่งชนกัน

เมื่อเวลา 11:50 น. ของวันนี้ (26 มีนาคม 2566) เกิดอุบัติเหตุ 'เรือโดยสาร' สองตอนวิ่งรับส่งผู้โดยสารจากท่าเรือขลุงมุ่งหน้าหมู่บ้านไร้แผ่นดินอำเภอขลุง ชนกับ 'เรือประมง' ท้องถิ่นทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 รายบาดเจ็บอีก 3 ราย

 

 

โดยเมื่อเวลาประมาณ 12:30 น. นายสุรศักดิ์ แจ้งจุล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าสาขาจังหวัดจันทบุรี ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรขลุงว่าเกิดอุบัติเหตุ เรือชนกัน สถานที่เกิดเหตุเลยสะพานท่าเทียบเรือขลุงไปประมาณ 200 เมตร ในพื้นที่หมู่ 10 ต.เกรียนหัก อ.ขลุง

 

หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุทันที พร้อมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอขลุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรขลุง เบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บและเรือถูกเคลื่อนย้ายออกจากที่เกิดเหตุทั้งหมดแล้ว
 

 

บริเวณท่าเทียบเรือพบเรือที่ประสบเหตุลำที่หนึ่งเป็นเรือสองตอนติดเครื่องยนต์หางยาวสำหรับรับส่งผู้โดยสารไปหมู่บ้านไร้แผ่นดิน พบบริเวณด้านข้างเรือฝั่งซ้ายมีรอยถูกเฉี่ยวชนหลังคาผ้าใบพับหักลงมามีคาบเลือดกระจายอยู่บนเรือจำนวนหนึ่ง ส่วนอีกหนึ่งลำเป็นเรือไม้ของชาวบ้านติดเครื่องยนต์หางยาว สภาพเครื่องยนต์ตกน้ำแต่ขณะนี้ถูกกู้นำขึ้นมาไว้บนเรือแล้ว ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นางนาริสา เจิมขุนทด อายุ 61 ปี

 

 

สำหรับผู้โดยสารที่นั่งเรือมาทั้งหมด 6 คน มาจากจังหวัดอุดรธานี 5 คน เป็นคนในพื้นที่อำเภอสอยดาว 1 คน ดังนี้
 

1. นางนาริสา เจิมขุนทด อายุ 61 ปี เสียชีวิต 

2. นางทองฤทธิ์ พงษ์เมธา ป้าตุ๊ อายุ 63 ปี (ข้อมือซ้ายหัก อยู่ห้องฉุกเฉินขลุง)

3. นางวิยงค์ พงษ์เมธา ป้าน้อย อายุ 73 ปี (ส่งพระปกเกล้า เช็คสมอง)

4. นางสมพิศ พงษ์เมธา ป้าหน่อย อายุ 68 ปี 

5. ร.อ.หญิง สมจิต จึงตระกูล อดีต ส.จ.จุ๋ม อายุ 62 ปี

6. นางสุจินดา พงษ์เมธา ป้าเตี้ย อายุ 64 ปี (ฟกช้ำตามร่างกายเล็กน้อย) 

 

คนที่นั่งฝั่งซ้ายของเรือได้รับบาดเจ็บทั้งหมด คนที่นั่งฝั่งซ้ายหัวเรือเป็นคนแรกเสียชีวิต 

 

 

เรือชนกัน

 

จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ร.อ.หญิง สมจิต จึงตระกูล (อดีต ส.จ.จุ๋ม) อายุ 62 ปี เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนหน้านี้ตนเองอยู่บ้านที่อำเภอสอยดาว เพื่อนและญาติที่อยู่จังหวัดอุดรธานีมาหาเพื่อจะเดินทางลงไปท่องเที่ยวที่หมู่บ้านไร้แผ่นดิน อ.ขลุง โดยก่อนหน้านี้ได้แวะเที่ยวตามสถานที่ต่างๆมาก่อนแล้ว เวลาประมาณ 12.00 น. ได้มารอลงเรืออยู่ที่ถ้าเทียบเรือ หมู่ 10 ต.เกวียนหัก อำเภอขลุง เมื่อเรือโดยสารเดินทางมารับตนพร้อมกับเพื่อนอีก 5 คน ได้ลงเรือ ขณะที่เรือกำลังออก ทั้งหมดในเรืองอยู่ระหว่างการสวมเสื้อชูชีพ เมื่อเงยหน้าขึ้นมา เรือก็ถูกชนยังไม่ทันตั้งหลัก 

 

 

นายสัมฤทธิ์ จิตนาวาอายุ 39 ปี คนขับเรือโดยสารเล่าเหตุการณ์ว่าตนเองรับผู้โดยสารกำลังออกจากท่าเรือได้ประมาณ 200 เมตร จากนั้นมีเรือของชาวบ้านวิ่งตรงมาใส่ตนเองคาดว่าเรื่องของชาวบ้านน่าจะหลบร่องน้ำตื้นจึงหักเรือเข้ามาใส่จนทำให้เกิดอุบัติเหตุชนกัน เรื่องของชาวบ้านวิ่งมาไม่เร็ว แต่เป็นเรือไม้ซึ่งมีน้ำหนักมาก ยังไม่ทันให้สัญญาณ เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก

 

 

เรือชนกัน

 

 

นายศิลป์ ปลาทอง อายุ 54 ปี คนขับเรือประมง เล่าเหตุการณ์ขัดแย้งกันว่า ขับเรือเลาะริมทุ่นมาในทางตรง แต่ เรือโดยสาร หักหัวเรือวิ่งพุ่งเข้ามาใส่ตนเองแล้วเร่งเครื่องใส่ทันที ในขณะที่เรือกำลังออกตัวและวิ่งช้าอยู่นั้นเหมือนคนขับกำลังมองอะไรอยู่ ตนเองพร้อมกับลูกชายจึงกระโดดลงน้ำ

 

 

ด้าน นายสุรศักดิ์ แจ้งจุล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าสาขาจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทางสำนักงานเจ้าท่าจะดำเนินการเรียกผู้ประกอบการโฮมสเตย์และรีสอร์ททั้งหมดรวมถึงผู้ประกอบการเดินเรือให้มาพูดคุย เรื่องการตระหนักรู้ก่อนออกจากท่าเรือควรมีการสอดส่องระวัง เรือที่วิ่งไปมา เพื่อไม่ให้เป็นการเสียสมาธิ

 

 

นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะผู้ขับเรือโดยสารที่อยู่ระหว่างการขับเรือออกจากท่ากำลังให้ผู้โดยสารสวมใส่เสื้อชูชีพโดยไม่ทันมองซ้ายมองขวาทำให้เรือประมงที่ขับมาพุ่งชน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ขับเรือทั้งสองคนและสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดเพื่อหาข้อสรุปและ ดำเนินคดีตั้งข้อหากับผู้กระทำความผิดทั้งสองฝ่าย

 

เรือชนกัน

 

 

โดย : สมเศียร โชติสนิท