ไวยาวัจกร 'วัดบางคลาน' แจ้ง ตร.เงินอดีตเจ้าอาวาสถูกโอนเข้าบัญชีสีกาคนสนิท

24 เม.ย. 2567  นายพร ปั้นเพ็ง รักษาการไวยาวัจกร วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน กล่าวว่า ภายหลัง พระครูวิสิฐลีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน มรณภาพ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2565  จึงได้ไปติดต่อธนาคาร เพื่อแจ้งอายัดบัญชีทรัพย์สินของอดีตเจ้าอาวาสไว้

ต่อมาคณะกรรมการวัดบางคลานชุดใหม่ และเจ้าอาวาสรูปใหม่ที่รักษาการในช่วงนั้นได้ดำเนินเรื่องขอให้วัดเป็นผู้จัดการมรดก เพราะตามกฎหมาย หากพระภิกษุรูปใด จำวัดที่ใด เมื่อมรณภาพ ทรัพย์สินต่างๆก็จะตกเป็นของวัดนั้น ตนในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าอาวาสก็ไปดำเนินการอายัดทรัพย์ไว้ 

ทั้งนี้ ระหว่างที่มีการยื่นเรื่องเพื่อขอให้วัดเป็นผู้จัดการมรดก ได้มีผู้ยื่นคัดค้าน กระทั่งศาลอุทธรณ์ ตัดสินให้วัดเป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมาย และทางวัดก็ได้มอบอำนาจให้ตน ซึ่งเดินทางไปธนาคารกับเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2567 ไปตรวจสอบและติดต่อกับธนาคาร เพื่อเปลี่ยนชื่อบัญชีจากเจ้าอาวาสมาเป็นชื่อวัด

ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าบัญชีมีการถอนเงินออกหลังจากอดีตเจ้าอาวาสมรณภาพไปแล้วหลายครั้ง หลายรายการ ซึ่งการถอนเงิน ถอนด้วยระบบโมบายแบงค์กิ้ง ผ่านโทรศัพท์มือถือ มีการเข้าสู่ข้อมูลของผู้ตาย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ตายจะถอนเงิน ต้องเป็นคนใกล้ชิด หรือได้รหัสของอดีตเจ้าอาวาสมา เราจึงรีบไปแจ้งความที่ สภ.บางมูลนาก ทันที เมื่อวันที่19 ม.ค.2567

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีหนังสือไปขอรายละเอียดการถอนเงินที่ธนาคาร พบว่าเป็นไปตามที่เราไปแจ้งความไว้จริง และเงินที่ถูกถอนออกมาก็ไปอยู่ที่บัญชีสีกาคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาส  และมีข้อมูลการถอนจำนวน 4 ครั้ง ครั้งละ 100,000 บาท 

นายพร กล่าวอีกว่า ตอนนี้ ตำรวจยังไม่รับเป็นคดี โดยขอให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาก่อน จึงจะออกเลขคดี เบื้องต้น ตนแจ้งความ เป็นการลักทรัพย์ผู้ตาย 

สำหรับข้อมูลการโอนเงิน พบว่ามีการโอนหลังจากอดีตเจ้าอาวาสมรณภาพไม่นาน ซึ่งพระครูวิสิฐลีลาภรณ์ มรณภาพ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2565 ช่วงประมาณ 05.00 น. ต่อมาเวลา 11.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. 2565 มีการโอนเงินเข้าไปยังบัญชีของบางคน เป็นเงิน 1 แสนบาท

จากนั้นในวันที่ 25-27 มิ.ย.2565 มีการโอนออกไปอีกวันละครั้ง ครั้งละ 1 แสนบาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 4 แสนบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าก่อนจะโอนออก มีเงินในบัญชีอยู่ 1,820,000 บาท หลังจากโอนออกในบัญชี ทำให้เหลือเงินเพียง 620,000 บาท 

สิทธิพจน์ เกบุ้ย  จ.พิจิตร