โกงไพรมารี่โหวตไม่ถึงยุบพรรค
กมธ.3 ฝ่าย แก้ 2 ปมพ.ร.บ.พรรคการเมือง ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหากทุจริตไพรมารี่โหวตโทษไม่ถึงกับยุบพรรค
1 ส.ค.60- เมื่อเวลา 14.30 น. ที่รัฐสภา นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ...แถลงผลการประชุมกมธ.ร่วม 3 ฝ่าย ถึงการพิจารณาข้อโต้แย้งเนื้อหาร่างพ.ร.บ.พรรคการเมืองว่า ตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ส่งข้อโต้แย้งร่างพ.ร.บ.พรรคการเมืองไม่ตรงเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ 4 ประเด็นนั้น กมธ.ร่วมพิจารณาแล้วมีมติว่า เห็นตรงมี 2 ประเด็นที่ไม่ตรงเจตนารมณ์ได้แก่ 1. มาตรา 51(4)กรณีร่างพ.ร.บ.พรรคการเมืองที่สนช.ให้ความเห็นชอบระบุให้หัวหน้าพรรคลงสมัครเฉพาะส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่1 เท่านั้น กมธ.ร่วมพิจารณาแล้ว มีมติให้แก้ไขเป็น ให้หัวหน้าพรรคการเมืองสามารถลงสมัครได้ทั้งส.ส.เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 เพื่อให้สิทธิแก่หัวหน้าพรรคในการลงสมัครส.ส.ระบบใดก็ได้ 2.ให้เพิ่มเติมมาตรา 51/1-51/4 เรื่องบทลงโทษในระบบไพรมารีโหวต จากเดิมร่างที่สนช.ให้ความเห็นชอบไม่ได้ระบุบทลงโทษกรณีกระทำผิดในระบบไพรมารีโหวต เป็นให้มีบทลงโทษหากมีการกระทำผิดในระบบไพรมารีโหวต
นายวัลลภกล่าวว่า ในส่วนบทลงโทษนั้น จะมีเฉพาะโทษจำคุก และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 5 ปีถือเป็นโทษสูงสุด แต่ไม่มีโทษเรื่องการยุบพรรค โดยแบ่งฐานความผิดในระบบไพรมารีโหวตอาทิ .กรณีการเสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมให้ทรัพย์สิน ผลประโยชน์อื่นอันใดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมแก่ผู้ใด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท กรณีหลอกลวง บังคับขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้ใด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5ปี กรณีกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้สมาชิกลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น หรืองดเว้นการลงคะแนนแก่ผู้ใด มีระวางโทษจำคุก 1-10ปีหรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นด้วย บทลงโทษเหล่านี้เน้นลงโทษหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคที่ปล่อยปะละเลยให้มีการกระทำผิดในขั้นตอนไพรมารีโหวต รวมถึงผู้สมัครที่กระทำผิดในไพรมารีโหวต
นายวัลลภกล่าวว่า ส่วนข้อโต้แย้งอีก2ประเด็นที่เกี่ยวกับขั้นตอนในระบบไพรมารีโหวตอาทิ เรื่องกระบวนการจัดตั้งสาขาพรรค หรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัดในระบบไพรมารีโหวตที่กรธ.มองว่า พรรคเล็กจะเสียเปรียบพรรคใหญ่นั้น กมธ.ร่วมมองว่า ไม่ขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ให้ยืนยันตามเนื้อหาเดิมที่สนช.ให้ความเห็นชอบไป รวมทั้งการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองตามที่สาขาพรรคการเมืองส่งรายชื่อมาให้นั้น กมธ.ร่วมเห็นว่ามีความถูกต้องตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ไม่จำเป็นต้องทบทวนแก้ไข