
พันธมิตรฯ โวย !! อายัดบัญชี 13 แกนนำ
พธม. โวย กรมบังคับคดีอายัดบัญชี 13 แกนนำ ยันทุกคนเคารพกระบวนการยุติธรรม ไม่คิดหนี ยึดผลประโยขน์ชาติเป็นหลัก
27 มี.ค. 61 - เฟซบุ๊ก Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ) ได้มีการโพสต์ข้อความโดย "อดีตพันธมิตรร่วมสู้" กรณี กรมบังคับคดีได้ส่งเอกสารทุกธนาคาร เพื่ออายัดบัญชี 13 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ว่า
อายัดบัญชี 13 พันธมิตร ปฏิบัติการรุกฆาตจากการท่าฯ-อำนาจมืด
“....เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา กรมบังคับคดีส่งเอกสารถึงทุกธนาคาร อายัดทุกบัญชีของพวกเรา แต่เพิ่งทราบจริงวันนี้(23)หลังจากเพื่อนโอนเงินมาให้ ไปกดATMไม่ได้ จึงไปติดต่อธนาคารจึงทราบเรื่องทั้งหมด อายัดทุกบัญชี จะกี่บาทก็ช่าง และมันคงจะเป็นภาวะแบบนี้ไปจนกว่าเขาจะสามารถยึดทรัพย์เราได้ทั้งหมด..
มันเป็นเช่นนี้เอง ความรู้สึกเจ็บลึกในอก..
แม่เจ้าโว้ย!!! ทีคนโกงชาติบ้านเมืองมันทำอะไรกันอยู่ ทีกับคนที่ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ตนเอง เอ็งทำได้และรีบทำ..”
ตอนหนึ่งในเฟสบุ๊ค ของ “มาลีรัตน์ แก้วก่า” ที่โพสต์รัวๆ เมื่อเวลา 20.31 น. วันที่ 23 มี.ค.2561 และได้รับการแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งกลายเป็นข่าวร้อนทั้งในสื่อกระแสหลักและโลกออนไลน์..
มาลีรัตน์ แก้วก่า หรือ”พี่ติ๊ก”ของน้องๆ เป็นอดีตสว.สกลนคร และเป็นอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่น 2
เมื่อกล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรฯที่ประกาศยุติบทบาทไปแล้วเมื่อเดือนส.ค.2556 เป็นที่ทราบกันว่าพวกเขาได้ลุกขึ้นต่อสู้กับระบอบทักษิณถึงสองรอบใหญ่ๆ คือเมื่อปี 2549 และ 2551 ทำให้แกนนำและแนวร่วมถูกดำเนินคดีหลายคดี โดยคดีอาญาคดีหลักคือ คดีบุกทำเนียบรัฐบาล คดีชุมนุมล้อมรัฐสภา และคดีชุมนุมที่สนามบิน
สองรอบของการลุกขึ้นสู้ทำให้ระดับแกนนำโดนคดีอาญา-แพ่ง ไปคนละ 5-6 คดีเป็นอย่างน้อย
เฉพาะคดีชุมนุมที่สนามบินเมื่อปลายปี 2551 เป็นคดีที่ตลกร้ายที่สุด.. พนักงานสอบสวนฟ้องเหวี่ยงแหผู้ต้องหาจำนวนมากถึง 98 คน ทั้งแกนนำการชุมนุมและคนที่ไปยืนปรบมือร้องเพลงข้างเวที และในจำนวน 98 จำเลย มีผู้ที่ถูกข้อหาก่อการร้ายโทษประหารชีวิตถึง13 คน
จะว่าไปคดีสนามบินนี้คล้ายๆกับคดีที่ดีเอสไอ-อัยการกำลังถูกวิจารณ์อยู่ในขณะนี้ว่าฟ้องเหวี่ยงแห 58 กปปส.
แต่ที่น่าเศร้า..คดีสนามบินนั้น นอกจากพันธมิตรฯจะถูกฟ้องอาญาข้อหาหนักแล้ว ยังถูกฟ้องแพ่งจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) , บริษัทการบินไทย และวิทยุการบิน อีกด้วย
คดีแพ่งของการบินไทยและวิทยุการบินนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี แต่ในส่วนของทอท.คดีถึงที่สุดเมื่อเดือนก.ย.2560 โดย 13 จำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหาย 522 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ปี นับแต่ 5 ธ.ค.2551 และ ณ วันนี้เริ่มปฏิบัติการอายัดบัญชีกันแล้ว ทั้งๆที่คดีอาญาเพิ่งจะสืบพยานโจกท์ในศาลชั้นต้นเท่านั้น..
คำถามจึงมีอยู่ว่าหากคดีอาญาศาลตัดสินยกฟ้องจำเลยหรือรอลงอาญา รอการกำหนดโทษ จะเป็นธรรมกับจำเลยที่ถูกบังคับคดีหรือที่สุดอาจถูกฟ้องล้มละลายหรือไม่อย่างไร..
จริงอยู่เม็ดเงิน 800 กว่าล้านบาท ที่จำเลย 13 คนต้องชดใช้ หากคิดเป็นรายหัวตกคนละ 60 กว่าล้านบาท คงยากที่บุคคลเหล่านี้จะหามาชดใช้ได้ แต่คำถามชวนคิดก็คือทำไมปฏิบัติการรุกฆาตอายัดบัญชีมาแรงและมาเร็ว..ทั้งๆที่การบังคับคดี การสืบทรัพย์มีระยะเวลาดำเนินการนาน 10 ปี…และที่ผ่านมาสังคมก็รับรู้ว่าจำเลยทั้ง 13 คนและทุกคนไม่เคยมีใครหนีคดี มีแต่เคารพกระบวนการยุติธรรม และไม่ได้ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแม้แต่น้อย..
ก็พอจะเข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไม อดีตสว.มาลีรัตน์ถึงได้ตบท้ายในเฟสบุ๊คของเธอแบบประชดประชันปนน้อยเนื้อต่ำใจว่า “จุกในอกจริงๆ..แต่ไม่อาจสยบข้าได้หรอก ต่อให้ไม่มีเงินกินข้าว เพื่อนมิตรยังมีข้าว ให้กิน...เอาเถอะ..รีบมายึดไปให้หมด..เร็วนะ..”
สำหรับ 13 แกนนำ/แนวร่วมพันธมิตรฯ ที่ถูกทอท.ฟ้องแพ่ง ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ,นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายพิภพ ธงไชย , นายสุริยะใส กตะศิลา , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข , นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ , นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายอมร อมรรัตนานนท์ , นายนรัญยู หรือศรัณยู วงษ์กระจ่าง , นายสำราญ รอดเพช ร, นายศิริชัย ไม้งาม ,นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และนายเทิดภูมิ ใจดี
จาก 13 รายชื่อ จะพบว่ามีอย่างน้อย 6 คน คือ พิภพ ,สมศักดิ์ ,สุริยะใส ,สมเกียรติ ,สำราญ และอมร เป็นผู้ต้องหาคดีกบฏร่วมกับ”ลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ”ในรอบของกปปส.ปี 2557 ด้วย...
การตกเป็นจำเลยคดีก่อการร้าย-กบฏ-อังยี่-ซ่องโจร...ไม่ได้เป็นเรื่องสนุกอย่างแน่นอน แต่ใช่หรือไม่ว่าเหตุปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนพันธมิตรฯ-กปปส.ลุกขึ้นมาต่อสู้ก็เพราะต้องการหยุดอำนาจฉ้อฉลประเทศชาติ หยุดปฏิบัติที่ทำร้ายศาสนา จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์..เป็นหลัก
คงไม่มีใครว่าถ้าการดำเนินคดีในส่วนของต้นทาง กลางทางของกระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างโปร่งใส สะอาด ยุติธรรม..แต่ที่ผ่านๆมาพิสูจน์แล้วพิสูจน์อีกหลายต่อหลายกรณีว่า..ไม่ใช่
นี่เป็นโจทย์ใหญ่ที่พี่น้องมวลมหาประชาชนจะต้องช่วยกันตอบให้กับบ้านนี้เมืองนี้อีกครั้ง...!!