ข่าว

ล่าชื่อถอดถอนกกต.แค่ยุทธวิธี ไม่หวังผลจริง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เครือข่ายนักวิชาการ ยื่น 3 ข้อเรียกร้อง กกต.เปิดผลคะแนนรายหน่วยทั่วประเทศ-เผยสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ยุติข้อกังขาเอื้อประโยชน์บางฝ่าย

 

เครือข่ายนักวิชาการ ยื่น 3 ข้อเรียกร้องถึง ให้เปิดผลคะแนนรายหน่วยทั่วประเทศ – เผยสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ยุติข้อกังขาเอื้อประโยชน์บางฝ่าย -ให้ถอนฟ้องหมิ่นประมาท 7 ผู้ต้องหาทันที หรือให้ฟ้อง 121 นักวิชาการร่วมแชร์ข้อมูลเพื่อความเท่าเทียม. ระบุลงชื่อถอดถอนกกต.ไม่หวังผลจริง แค่ยุทธวิธีดึงกระแสสังคมกดดัน

 

          สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) -10 เม.ย.62 เวลา 11.30 น. นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองถึง กกต. โดยระบุว่า การเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. นอกจากไม่ช่วยให้ประเทศไทยพ้นสภาวะวิกฤติตามที่ควรจะเป็น กลับยิ่งซ้ำเติมให้วิกฤติรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งที่มีข้อพิรุธและก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้มาใช้สิทธิที่ไม่ตรงกับบัตรลงคะแนน จำนวนคะแนนร้อยละ 5 สุดท้าย ที่ไม่ได้สัดส่วนกับจำนวนหน่วยเลือกตั้ง หรือว่าวิธีการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อที่ผิดหลักการรวมทั้งอาจขัดรัฐธรรมนูญ ขณะที่ประชาชนที่เข้าชื่อถอดถอน กกต. เพราะเห็นว่าปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมกลับถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท ยิ่งสร้างความไม่พอใจในสังคมเพิ่มขึ้น ซึ่งสภาพการณ์ดังกล่าว กำลังพาสังคมไทยไปสู่จุดตีบตันหรือว่าวิกฤติระลอกใหม่ 

 

ล่าชื่อถอดถอนกกต.แค่ยุทธวิธี ไม่หวังผลจริง


          คนส.จึงมีข้อเรียกร้องต่อ กกต. ดังนี้ 1. กกต.ต้องเปิดเผยผลการนับคะแนนรายหน่วยเลือกตั้ง รวมถึงวิธีการรวบรวมผลการนับคะแนน เนื่องจากผลคะแนนรวมที่ กกต. รายงานไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิ หากผลคะแนนไม่ตรงกัน กกต. ก็ต้องนับใหม่ให้สิ้นข้อสงสัย ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับผลคะแนนรวมในที่สุด

 

          2. กกต.ต้องเปิดเผยวิธีการและขั้นตอนการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อโดยละเอียดอย่างเป็นทางการ เนื่องจากการแถลงข่าวของ กกต. ที่ผ่านมาที่ไม่ได้ระบุวิธีการลงคะแนนที่ชัดเจนยิ่งก่อให้เกิดข้อกังขาว่าอาจมีการนำวิธีการคำนวณที่ไม่ถูกต้องมาใช้ในทางที่เอื้อประโยชน์บางฝ่าย หาก กกต. ไม่เร่งสร้างความกระจ่าง รวมทั้งไม่นำวิธีการคำนวณที่ถูกต้องที่ฝ่ายต่างๆ เสนอมาประกอบการพิจารณา การประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของ กกต. ก็จะไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน         
          

 

          และ 3. กกต.ต้องถอนฟ้องประชาชนที่แชร์การลงชื่อถอดถอน กกต. รวมถึงประชาชนที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงาน กกต. ในลักษณะอื่น เพราะการลงชื่อและการวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการติดตามตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานรัฐและเป็นการใช้สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองตามกติกา ไม่ได้มีเจตนาจะหมิ่นประมาท กกต. ไม่ควรใช้กฎหมายมาปิดปาก หรือสุ่มเลือกดำเนินคดีกับบางคนภายใต้เป้าหมายบางประการ หากกกต.ไม่ถอนฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ก็ขอให้ดำเนินคดีกับนักวิชาการที่ลงชื่อและแชร์การถอดถอน กกต. ใน Change.org จำนวน 121 คนเพื่อความเท่าเทียมกัน

 

          นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า อยากให้กกต.ทำงานด้วยความกล้าหาญมากกว่านี้ อย่าเห็นแก่ตนเองที่ได้รับการปลุกปั้นมา หรือหวาดกลัวสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อทำให้กกต.เป็นองค์กรอิสระที่เที่ยงธรรม อย่างไรก็ตามจากการติดตามการทำงานของกกต.ในช่วงแรกๆ เครือข่ายเราได้เดินทางมาให้กำลังใจกกต.ถึง 2 ครั้ง แต่หลังจัดการเลือกตั้งแล้วเสร็จพบว่ากกต.ชุดนี้มีความไม่เป็นกลางมากที่สุด ส่วนตัวประเมินว่าสอบตก เพราะจนถึงขณะนี้ตอบไม่ได้ว่าเหตุใดจำนวนผู้ใช้สิทธิ์กับจำนวนบัตรลงคะแนนจึงไม่ตรงกัน นอกจากนี้ยังทราบมาว่าหน่วยงานของรัฐละหน่วยงานความมั่นคงจำนวนมาก็นับคะแนนการเลือกตั้งเป็นรายหน่วยเช่นกัน แต่ภาพรวมตัวเลขไม่ตรงกัน จึงเป็นข้อสงสัยว่านับกันแบบไหนถึงไม่ตรงกัน ดังนั้นกกต.ควรจะรีบเปิดเผยผลคะแนนโดยเร็วที่สุด

              
          "สิ่งที่เครือข่ายนักวิชาการต้องการคือเรียกร้องให้ กกต.เปิดเผยผลคะแนนรายหน่วยถ้าพบว่ามีความผิดพลาดในหน่วยใดก็ให้นับคะแนนใหม่ และถอนฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 คนไม่ได้มองไปไกลถึงทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ การลงชื่อถอดถอนเป็นเพียงยุทธวิธีเพราะเอาจริงการลงชื่อถอดถอนนั้น ไม่ได้มีผลทางกฎหมาย แต่ทำไปเพื่อให้เกิดแรงกดดันทางสังคม" นายอนุสรณ์ กล่าว.

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ