ข่าว

ลุ้น หน.เพื่อไทย คนใหม่ - ผู้นำฝ่ายค้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ประชุมใหญ่ พท. เลือก กก.บริหารชุดใหม่ พร้อมหน้า "หญิงหน่อย - ป๋าเหนาะ" แกนนำ - ส.ส. คับคั่ง

 

               12 ก.ค. 62 ที่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ห้องประชุมชั้น 7 เวลา 10.00 น.  พรรคได้จัดประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือก "กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่" โดยแกนนำพรรค อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรค นายโภคิน พลกุล คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค , ส.ส. พรรค ทยอยเดินทางมาร่วมประชุม ซึ่งพรรคให้ลงทะเบียนตั้งแต่ช่วงเช้าในเวลา 09.00 น. ซึ่งการเลือก หัวหน้าพรรค , เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะให้ ส.ส. พรรค หย่อนบัตรลงคะแนนในหีบกล่องพลาสติกสีขาวขุ่น และจะเริ่มนับคะแนนช่วงบ่าย พร้อมประกาศผล

 

 

 

               สำหรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านนั้นก่อนหน้านี้ปรากฏชื่อ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่จะถูกเสนอ ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค มีชื่อ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ที่จะได้รับการเสนอชื่อ อย่างไรก็ดี เมื่อถึงเวลา นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการหัวหน้าพรรค พท. กล่าวเปิดการประชุม พร้อม นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรค และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะงานฝ่ายกฎหมายของพรรค

               นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในนามคณะกรรมการบริหารพรรคชุดเดิม ต้องขอขอบคุณหัวหน้าพรรค พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ในการทำหน้าที่ที่ผ่านมา และอยากเรียนท่านทั้งหลายว่าเราได้ประคับประคองพรรคมาตลอดตั้งแต่การปฏิวัติ หลายคนในคณะนี้ต้องถูกกล่าวว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลบ้าง ขัดคำสั่ง คสช. บ้าง แต่วันนี้เรื่องราวทั้งหลายเหล่านี้จะมลายหายไปเลิกราไปในที่สุด ขณะที่เฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการยุทธศาสตร์เราก็ประคับประคองมาตลอด ได้คิดเรื่องนโยบายให้ท่าน ไม่ว่าจะระดับมหภาค - จุลภาค และช่วยหาเสียง ซึ่งในวันนี้เรากำลังจะมีหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน

               1. เราต้องเปลี่ยนตัวเป็นฝ่ายค้าน แม้ไม่ชอบเท่าไรแต่ต้องทำให้ได้ พรรคเราเป็นฝ่ายค้านต้องตรวจสอบรัฐบาล ความเด็ดขาดในเรื่องความเป็นฝ่ายค้านจึงต้องมีความจำเป็น และพึ่งพาการหาข้อมูล และใช้ข้อมูลให้ถูก 2. เรายังทำหน้าที่เป็นผู้นำในการรวมตัวของพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 ซึ่งมี 246 เสียง ถือว่ามากที่สุดเท่าที่ฝ่ายค้านเคยมีมาในประวัติศาสตร์ เรียกว่าเป็นอาวุธที่มีพลานุภาพอย่างยิ่ง ดังนั้น ต้องพยายามที่จะรักษาอาวุธทางยุทธศาสตร์นี้ืเป็นเรื่องสำคัญที่สุดต้องทำไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม 

 

 

 

               3. เรายังขาดความเข้มแข็งในเชิงปริมาณไป 100 เสียง โดยความเข้มข้นในเชิงประสบการณ์ คือ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ หายไป 50 เสียง เพราะครั้งนี้กลุ่ม ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ต้องอยู่ข้างนอกหมด (ไม่ได้เลือกเข้ามา) แต่เชื่อว่าเท่าที่มีอยู่เราก็ไม่แพ้ใคร แต่เราก็จะเสียไปมากกว่านี้ไม่ได้ เสียมากกว่านี้จะไม่มีที่ 4. เราต้องพยายามพึ่งตัวให้มากที่สุดในการบริหารจัดการ 5. เรายงถกมองโดยคนบางกลุ่มเรื่องเกี่ยวกับสถานะพรรคเพื่อไทยและองค์กรอิสระก็มุ่งห้ำหั่นแต่พรรคเพื่อไทย ส่วนรัฐบาลนี้ก็ชุบตัว แต่ถึงจะชุบตัวอย่างไรก็ยังสืบทอดอำนาจเผด็จการปฏิวัติ ภาพนี้ไม่ได้หลุดไป ซึ่งรัฐบาลนี้มีเสียงปริ่มน้ำมากก็ดีสำหรับเรา มีรอยปริแยกมาให้เห็นตั้งแต่เปิดม่าน ขณะที่ยุทธศาสตร์ก็มีลักษณะบั่นทอนความเข้มแข็ง เป็นมะเร็งร้าย

               นายปลอดประสพ ได้กล่าวฝากกับ ส.ส. ของพรรคในการที่จะช่วยกันรักษาสถานะของพรรคเพื่อไทยในการทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง ขณะที่ นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า การเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.วิโรจน์ อดีตหัวหน้าพรรคได้ยื่นลาออกเพื่อเปิดโอกาสให้พรรคได้พิจารณาคัดเลือก กรรมการบริหารใหม่ให้เหมาะสมกับหน้าที่ และเลือกหัวหน้าพรรค ที่เป็น ส.ส. เข้าไปทำหน้าที่ที่สมบูรณ์ ซึ่งการประชุมวันนี้ องค์ประชุม คือ คณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันต้องมาเกินกึ่งหนึ่ง พร้อมด้วยตัวแทนพรรคจาก 4 ภาค และ 76 จังหวัด รวมกับ ส.ส. 136 คน , สมาชิกพรรค ทั้งสิ้นต้องเกิน 250 คน

 

 

 

               เมื่อถามถึงกรณีรัฐบาลจะนำเอานโยบายของฝ่ายค้าน ไปทำเป็นนโยบาย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนว่าเป็นเรื่องดี ในฐานะพรรคการเมืองที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลไม่ควรรังเกียจว่าเป็นนโยบายของใคร นโยบายใดที่สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้หรือถูกใจประชาชนหากนำไปทำถือว่าเป็นเรื่องดี ไม่ต้องอายไม่ต้องรู้สึกว่าเป็นของฝ่ายค้านถ้ารู้สึกว่าอยากทำงานให้ประชาชน แต่ก็ยังหวังว่าจะนำไปทำอย่างเข้าใจแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ และต้องทำให้ตรงตามเจตนารมณ์ของผู้คิด ไม่ใช่ทำเพราะเพื่อให้เป็นรูปแบบว่าได้ร่วมมือกับฝ่ายค้าน เมื่อถามว่า หากรัฐบาลมาขอคำปรึกษาพร้อมที่จะให้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ฝ่ายค้านก็มีหน้าที่แนะนำรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งฝ่ายค้านในยุคของเราตั้งใจว่าจะไม่เป็นฝ่ายค้านที่ใช้แต่วาทกรรมมาทำลายกัน อะไรที่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่อยู่ในหลักการ และแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ เราจะทำหน้าที่เสนอแนะชี้แจง แต่รัฐบาลก็จะต้องปรับตัว เพราะที่ผ่านมาเคยชินกับการทำงานที่ไม่มีฝ่ายค้าน และจัดตั้งสภาที่มาสนับสนุนรัฐบาลฝ่ายเดียว ก็ไม่ดีตรงที่ไม่มีระบบตรวจสอบถ่วงดุลจะทำให้เกิดปัญหา ส่วนการที่นายกฯ พูดว่าจะมีการมาล้มล้างรัฐบาลในสภา เราจะมาล้มล้างอะไร ทำดีเราก็สนับสนุน ทำไม่ดีเราก็ต้องท้วงติงเป็นธรรมดา ซึ่งการปฏิเสธหรือการคัดค้านรัฐบาล และการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นวิถีทางประชาธิปไตย ก็ต้องเข้าใจในสิ่งนี้ด้วยอย่าใช้การตรวจสอบหรือการอภิปรายมาพูดให้เหมือนว่าแต่ละฝ่ายในสภาทำหน้าที่เพียงแค่ต้องการมาล้มล้างรัฐบาล เพราะเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในสายตาของประชาชน

 

 

 

ลุ้น หน.เพื่อไทย คนใหม่ - ผู้นำฝ่ายค้าน

 

 

 

ลุ้น หน.เพื่อไทย คนใหม่ - ผู้นำฝ่ายค้าน

 

 

 

ลุ้น หน.เพื่อไทย คนใหม่ - ผู้นำฝ่ายค้าน

 

 

 

ลุ้น หน.เพื่อไทย คนใหม่ - ผู้นำฝ่ายค้าน

 

 

 

ลุ้น หน.เพื่อไทย คนใหม่ - ผู้นำฝ่ายค้าน

 

 

 

ลุ้น หน.เพื่อไทย คนใหม่ - ผู้นำฝ่ายค้าน

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ