สมศักดิ์ สำรวจบ้านกรุณา - เรือนจำสมุทรปราการ

 

               เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 62  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา และเรือนจำกลาง สมุทรปราการ เพื่อรับฟังปัญหาและเก็บข้อมูล ก่อนทำเป็นข้อสรุปและแผนในการทำงาน

 

 

 

               นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา อยู่ในความดูแลของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ซึ่งวันนี้ตนได้มารับข้อมูลภาพรวมการดำเนินการและสถานที่ถือว่าดี มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาด ผู้คนอาจจะสงสัยว่าบ้านกรุณานั้นจะแออัดหรือไม่ ซึ่งตนได้รับข้อมูลรวมทั้งได้พูดคุยกับผู้ที่เข้ารับการฝึกในศูนย์และสำรวจสถานที่แล้วพบว่า สะอาด ปลอดเชื้อ และไม่แออัด นอกจากนี้ในศูนย์ฯ ยังมีการเรียนการสอนตามหลักสูตรปกติ และการฝึกอาชีพในด้านต่างๆ หากเยาวชนในศูนย์ฝึกสามารถปรับตัวปรับใจมุ่งเน้นหาวิชาความรู้ ตนเชื่อว่าพวกเขาเหล่านั้นจะกลับมาเป็นคนดีมีความพร้อมมีคุณภาพได้ในวันข้างหน้า

               นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากนั้นตนได้ไปรับข้อมูลที่เรือนจำกลางสมุทรปราการที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากนัก โดยได้ลองชิมอาหารและขนมเบเกอรี พบว่า รสชาติดี อร่อยทีเดียว รวมถึงได้ดูงานฝีมือหัตถกรรม เช่น กระเป๋าหนัง งานที่บรรดานักโทษทำนั้นฝีมือดี สวยงาม ได้คุณภาพ และนักโทษชายและหญิงยังได้รับค่าจ้างรายเดือนจากการจำหน่ายสินค้าที่พวกเขาทำด้วย นอกจากนี้ ยังมีงานด้านการก่อสร้างและโยธา ที่สามารถนำนักโทษออกไปทำงานนอกสถานที่ได้อีกด้วย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้นักโทษสามารถกลับตัวกลับใจเป็นคนดีและนำวิชาความรู้ไปประกอบอาชีพได้ในอนาคต

 

 

 

               “สิ่งที่ดูแล้วยังไม่ค่อยเป็นไปตามธรรมชาติของคนปกติ คือ การขึ้นเรือนนอนที่เร็ว เพราะจำนวนสัดส่วนผู้คุมต่อนักโทษนั้นอยู่ที่ผู้คุม 1 คนต่อนักโทษประมาณ 300 กว่าคน จึงต้องให้นักโทษเข้าเรือนนอนเร็ว เพราะหากช้าจะไม่เรียบร้อย นอกจากนี้ อัตราเฉลี่ยของพื้นที่ คือ นักโทษ 1 คนต่อพื้นที่ 1.4 ตารางเมตร อาจจะต้องนอนชิดกันมาก แต่บางที่อาจจะทำเป็นเตียงนอน 2 ชั้น สวนโครงสร้างของเรือนจำสมุทรปราการนั้นเป็นคอนกรีต แต่เรือนจำบางแห่งที่เก่าหน่อยก็จะเป็นไม้ ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยจากนี้ผมจะต้องทยอยลงพื้นที่สำรวจและเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ ให้ครบทุกกรมในสังกัด เพื่อนำไปเป็นข้อมูล เพราะหลังจากที่ ครม. เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนจะได้เริ่มทำงานได้ทันที”