ข่าว

รู้จัก 'สมศักดิ์ เทพสุทิน' 'โคล้านตัว' รีเทิร์นพรรคเพื่อไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'สมศักดิ์ เทพสุทิน' นำกลุ่มวังน้ำยม รีเทิร์นพรรรคเพื่อไทย จากนโยบาย 'โคล้านตัว' ถึงวันที่สภาพดินฟ้าอากาศเปลี่ยน

 

หากหลายคนจะมองพรรคเพื่อไทยในปี2566 ว่ามีองคาภยพ พรรคไทยรักไทยในอดีตเป็นโครงสร้างหลักก็ไม่ใช่ เรื่องแปลก หากจะมีสมศักดิ์ เทพสุทิน รวมอยู่ด้วย เพราะเขาเป็นสส. ระบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคไทยรักไทย ในการเลือกตั้งปี 2544 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในปี 2545 แล้วจึงปรับมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี พ.ศ. 2546 และเป็นรองนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา  รับตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้งในรัฐบาลทักษิณ 2ในปี 2548 จึงได้รับ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และปรับเปลี่ยนมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

 

ในการหาเสียงการเลือกตั้งในปี 2548 สมศักดิ์ มีนโยบายที่รู้จักกันเป็นอย่างดี คือ โคล้านตัว เป็นนโยบายที่จะทำการแจกโคให้แก่เกษตรกรฟรีทั่วประเทศ และเป็นที่มาของการจัดตั้งบริษัท ส่งเสริมธุรกิจเกษตรกรไทย จำกัด  แต่โครงการดังกล่าวก็ไม่ประสบความสำเร็จ แต่เป็นหัวหน้ากลุ่มการเมืองในพรรคไทยรักไทยที่ชื่อ กลุ่มวังน้ำยม อันเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในพรรค

 

 

สมศักดิ์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย ตั้งแต่ปี 2526 ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งแรกในรัฐบาลของพลเอก สุจินดา คราประยูร ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลชุดต่อมาของชวน หลีกภัย จึงได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้ง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมต่อเนื่องมาจนกระทั่งรัฐบาลของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ และยังได้รับการปรับใปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้งในรัฐบาลชุดนี้

สมศักดิ์ เทพสุทิน ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาลชวน 2 ต่อมาจึงได้ย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย และลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทน โดยให้ภรรยาลงสมัครในระบบเขตแทน และสมศักดิ์ ยังได้รับตำแหน่ง

 

หลังการรัฐประหารในปี 2549 เขาพกลุ่มวังน้ำยมลาออกจากพรรคไทยรักไทย ไปจัดตั้งกลุ่มของตัวเองขึ้นมาใหม่ ใช้ชื่อว่า กลุ่มมัชฌิมา แต่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่2550 เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 แต่ก็ยังดำเนินการทางการเมือง สมาชิกที่เหลือไปสังกัดกับทางพรรคประชาราช โดยนางอนงค์วรรณได้เป็นเลขาธิการพรรคในเวลาต่อมา แต่ก็อยู่กับทางพรรคประชาราชได้ไม่นาน เมื่อประชัย เลี่ยวไพรัตน์ มีความเห็นไม่ลงตัวกับเสนาะ เทียนทอง กลุ่มของประชัยและสมศักดิ์จึงได้ไปรวมตัวกันใหม่ ในชื่อ พรรคมัชฌิมาธิปไตย โดยนางอนงค์วรรณ เป็นเลขาธิการพรรค

 

 

ต่อมาในปี 2551 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำพิพากษายุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี ทำให้ สส. ในกลุ่มของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน จึงได้ย้ายมาร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่มเพื่อนเนวิน ในนามพรรคภูมิใจไทย และนายสมศักดิ์ ก็ยังนับได้ว่าเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในฐานะแกนนำกลุ่ม สส. ซึ่งสื่อมวลชนให้ชื่อกลุ่มแกนนำนี้ว่า 8ส.+ส.พิเศษ อันประกอบด้วย สมศักดิ์ เทพสุทิน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล สุวิทย์ คุณกิตติ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ สนธยา คุณปลื้ม และสรอรรถ กลิ่นประทุมส่วน ส.พิเศษ คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

 

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่16  ในปี 2561 สมศักดิ์ไม่ยืนยันสมาชิกกับพรรคเพื่อไทย ประกาศเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อกลุ่มการเมืองของตนจากกลุ่มวังน้ำยม หรือ มัชฌิมา เป็น กลุ่มสามมิตร โดยจับมือกับสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มสามมิตรทำการทาบทามบรรดาอดีต สส. ส.ว. และนักการเมืองท้องถิ่นให้เข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ก่อนปิดฉากพรรคพลังประชารัฐ เพราะสภาพดินฟ้าอากาศเปลี่ยน

 

ข้อมูล สมศักดิ์ เทพสุทิน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ