กรุงเทพฯ ร่วมกับ'สปสช.' หาสถานพยาบาลให้ 'บัตรทอง' ตกค้าง 1.9 แสนรายแล้ว
'สปสช.' ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร หาสถานพยาบาลใกล้บ้านให้ผู้ถือ 'บัตรทอง' เกือบสองแสนราย ที่ยังไม่มีสถานพยาบาลประจำได้แล้ว
จำนวนสถานพยาบาลในกรุงเทพฯ ที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. มีจำนวนมากขึ้น สามารถรองรับประชาชนสิทธิบัตรทองที่ยังไม่มีสถานพยาบาลประจำได้แล้ว โดยกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ สปสช.ได้ดำเนินการในรูปแบบหรือโมเดล 5 ที่มีศูนย์บริการสาธารณสุข 56 แห่ง เป็น Efficient Area Manager หรือผู้จัดการระบบบริการสาธารณสุขในพื้นที่อย่างมีศักยภาพ
ทำหน้าที่ให้เหมือนโรงพยาบาลประจำเขต ในการดูแลประชาชนในพื้นที่ของตน ร่วมกับคลินิกชุมชนอบอุ่น 113 แห่ง และเครือข่ายโรงพยาบาลรับส่งต่อทั่วทั้ง กทม.
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าว การลงทะเบียนประชาชนสิทธิบัตรทองที่ยังไม่มีสถานพยาบาลประจำแบบอัตโนมัติ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล กับ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ประธานอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติระดับเขตพื้นที่ เขต 13 กรุงเทพมหานคร ร่วมด้วย
เพื่อให้ประชาชนสิทธิบัตรทองที่ยังไม่มีสถานพยาบาลประจำที่เหลืออยู่จำนวน 195,158 ราย ได้มีสถานพยาบาลประจำตัว
สปสช.ได้ดำเนินการลงทะเบียนและจัดสรรหน่วยบริการแบบอัตโนมัติโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โดยระบบจะพิจารณาจากข้อมูลที่อยู่ตามทะเบียนบ้านหรือที่พักอาศัย ในกรณีที่พื้นที่นั้นมีหน่วยบริการหลายแห่ง ระบบจะจัดสรรให้หน่วยบริการที่อยู่ในเครือข่ายหน่วยบริการที่ใกล้ที่สุด จำนวน 8,000 - 10,000 คน/หน่วยบริการ ซึ่งผู้มีสิทธิบัตรทองที่พักอาศัยในบ้านหรือครัวเรือนเดียวกันก็จะให้ลงทะเบียนไปที่หน่วยบริการเดียวกัน โดยประชาชนสามารถตรวจสอบสิทธิและหน่วยบริการได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1330
การจัดสรรหน่วยบริการประจำแก่ผู้มีสถานะสิทธิว่าง ไม่ใช่แค่การใส่ชื่อผู้มีสิทธิเข้าไปอยู่กับหน่วยบริการปฐมภูมิเท่านั้น แต่ระบบจะพิจารณาจากปัจจัยรอบด้านเพื่อให้หน่วยบริการที่เลือกให้นั้นเหมาะกับผู้มีสิทธิมากที่สุด และให้สอดคล้องกับระบบบริการแบบใหม่ที่ในแต่ละพื้นที่จะมีหน่วยบริการปฐมภูมิหลายแห่งทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายโดยมีศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. เป็นแม่ข่าย (โมเดล 5)
ทำหน้าที่ให้เหมือนโรงพยาบาลประจำเขตในการดูแลประชาชนในพื้นที่ของตน เช่นการเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง และการดูแลผู้ป่วยระยะกลาง รวมทั้งการลงทะเบียนประชาชนต่างจังหวัดที่อาศัยใน กทม. ให้มีสถานพยาบาลประจำอยู่ใน กทม. เพื่อให้ได้รับบริการสาธารณสุขที่สถานพยาบาลใกล้ที่พักอาศัยในปัจจุบัน