ข่าว

เรืองไกร ร่อนหนังสือถึง ป.ป.ช.สอบทรัพย์สิน 6 สว.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส่งหนังสือถึง ป.ป.ช. หลังพบความผิดปกติการยื่นบัญชีทรัพย์สิน 6 สว. ตรวจสอบพบเป็นกลุ่มที่ยกมือโหวตให้พิธา

ปมร้อนการเมืองมีประเด็นต่อเนื่อง อีกเรื่องที่ต้องจับตา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้แจ้งว่า ได้ทำการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกวุฒิสภาที่ยื่นไว้ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. 2562 และได้พบว่า มี 6 รายที่ควรขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบว่าบัญชีที่ยื่นไว้นั้นเข้าข่ายตามความใน พ.ร.ป. ป.ป.ช. 2561 มาตรา 114 วรรคหนึ่ง หรือไม่ 

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

และมีการนำรายได้ที่แจ้งหรือไม่ได้แจ้งต่อ ป.ป.ช. ไปชำระภาษีให้แก่กรมสรรพากรโดยถูกต้องหรือไม่ โดยทั้ง 6 รายมีข้อเท็จจริงที่ขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ดังนี้

1. ไกรสิทธิ์  ตันติศิรินทร์ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินกรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ซึ่งในส่วนของคู่สมรสแจ้งว่ามีรายได้ค่าเช่าอาคาร 300,000 บาทต่อปี โดยในบัญชีโรงเรือนมีรายการเดียวที่แจ้งเป็นของคู่สมรสคือคอนโดมิเนียม ขนาด 50 ตารางเมตร มูลค่า 3,000,000 บาท 
 

กรณีดังกล่าวจึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่ารายได้ค่าเช่าอาคาร 300,000 บาทต่อปี มาจากคอนโดมิเนียม ขนาด 50 ตารางเมตรหรือไม่ และรายได้ค่าเช่าอาคารดังกล่าวมีการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่

2. ซากีย์ พิทักษ์คุมพล ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินกรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ซึ่งในส่วนของตนเองมีรายได้ค่าเช่าช่วงต่อ 240,000 บาทต่อปี และส่วนของคู่สมรสแจ้งว่ามีรายได้จากการเปิดคลินิก 500,000 บาทต่อปี โดยไม่มีการแสดงรายจ่ายค่าเช่าไว้แต่อย่างใด และของคู่สมรสไม่พบการแจ้งรายการอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบคลินิกไว้ในรายการทรัพย์สินอื่น 

กรณีดังกล่าวจึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่าทรัพย์สินที่เช่าคืออะไร รายจ่ายค่าเช่าควรมีหรือไม่ และสถานที่และอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบคลินิกควรมีหรือไม่ และรายได้ค่าเช่าช่วงต่อกับรายได้จากการเปิดคลินิกดังกล่าวมีการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือไม่

3. พล.ต.ท. จิตติ หรือ พล.ต.ท. ณัฏฐวัฒก์ รอดบางยาง ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินกรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ซึ่งในส่วนของตนเองแจ้งว่ามีรายได้เงินประจำตำแหน่ง 854,760 บาทต่อปี เงินเพิ่ม 507,960 บาทต่อปี บวกแล้วได้ 1,362,720 บาท แต่แจ้งรายได้รวม 1,425,600 บาทต่อปี จึงมีผลต่างในส่วนรายได้ที่แตกต่างกัน 62,880 บาทต่อปี และในส่วนของคู่สมรสแจ้งว่ามีรายได้เงินประจำตำแหน่ง 450,000 บาทต่อปี แต่แจ้งรายได้รวม 2,250,000 บาทต่อปี จึงมีผลต่างในส่วนรายได้ 1,600,000 บาท 

กรณีดังกล่าวจึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่าผลต่างของรายได้ 62,880 บาท และ 1,600,000 บาทคืออะไร นอกจากนี้ ขอให้ตรวจสอบรายการหนี้สินอื่นของคู่สมรสที่แจ้งไว้ 2 รายการ รวม 35,000,000 บาท มีดอกเบี้ยจ่ายหรือไม่ และมีการแจ้งรายจ่ายค่าดอกเบี้ยหรือไม่

4. พิศาล มาณวพัฒน์ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินกรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ซึ่งแจ้งว่ามีรายได้ ส.ว. 1,362,720 บาทต่อปี และรายได้บำนาญ 612,867.60 บาทต่อปี โดยไม่ได้แจ้งรายจ่ายไว้แต่อย่างใด 

กรณีดังกล่าวจึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่ามีรายจ่ายใดที่ควรแจ้งให้ ป.ป.ช. ทราบหรือไม่ หากไม่มีรายจ่ายเลย มีใครออกค่าใช้จ่ายในแต่ละปีให้หรือไม่ จำนวนเท่าใด (ทั้งนี้ พิศาล มาณวพัฒน์ แจ้งว่าไม่มีคู่สมรส)

5. วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินกรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ซึ่งแจ้งว่ามีรายได้ ส.ว. 1,495,641.72 บาทต่อปี และรายได้บำนาญ 578,193.60 บาทต่อปี โดยแจ้งว่ามีคู่สมรส แต่กลับไม่แจ้งรายได้และรายจ่ายของคู่สมรสไว้เลย 

กรณีดังกล่าวจึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่าคู่สมรสมีรายได้และรายจ่ายใดที่ควรแจ้งให้ ป.ป.ช. ทราบหรือไม่ 

6. ประภาศรี สุฉันทบุตร ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินกรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ซึ่งแจ้งว่ามีรายได้ประจำเป็นเงินเดือนจาก บจก.โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล 3,600,000 บาทต่อปี รายได้ค่าเช่าที่ดิน ต.สำราญ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร 480,000 บาทต่อปี และรายได้จากเงินปันผลจากกิจการ 8,422,579 บาทต่อปี รวมรายได้ 12,502,579 บาทต่อปี แต่ทำไมกลับไม่มีการแจ้งรายได้จากตำแหน่ง ส.ว. ไว้ และในส่วนของรายจ่าย แจ้งค่าใช้จ่ายทางภาษี 678,500 บาท 

กรณีดังกล่าวจึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่าแจ้งค่าใช้จ่ายทางภาษี 678,500 บาท สอดคล้องกับรายได้หรือไม่ เพราะรายการเงินปันผลจากกิจการ ถ้าถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 10 ตามประมวลรัษฎากร น่าจะเท่ากับ 842,257.90 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายทางภาษีที่แจ้งไว้จะครบถ้วนหรือไม่ 

นอกจากนี้ ในรายการสิทธิและสัมปทานซึ่งมีแจ้งไว้ 2 รายการ คือ สิทธิการเช่าที่ดินราชพัสดุของตนเอง รวม 63,580,000 บาท และสิทธิการเช่าที่ดินราชพัสดุของคู่สมรส รวม 30,505,000 บาท ซึ่งสิทธิการเช่าที่ดินราชพัสดุของตนเอง ในหน้าบัญชีรวมกลับแจ้งไว้รวม 67,321,600 บาท เกิดผลต่าง 3,741,600 บาท 

กรณีดังกล่าวจึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่าการแจ้งรายการสิทธิการเช่าที่ดินราชพัสดุถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ หรือมีการปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบหรือไม่

ซึ่งนายเรื่องได้ทำการส่งหนังสือไปถึง ป.ป.ช. แล้ว ทางไปรษณีย์ EMS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า รายชื่อของ 6 วุฒิสภาที่นายเรืองไกร ตรวจสอบนั้น เป็น 6 ใน 13 รายชื่อ ที่ได้โหวตรองรับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้เป็ยนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ