ข่าว

‘ศิริกัญญา‘ เสนอตัดงบ 3 หมื่นล้านผ่านไป 6 เดือน งบลงทุนเบิกแค่ 55%

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘ศิริกัญญา‘ เสนอตัดงบ 3 หมื่นล้านผ่านไป 6 เดือน งบลงทุนเบิกแค่ 55% ประมาณการรายได้พลาด แนะควรจัดลำดับความสำคัญจัดงบใหม่ ไม่ใช่ใครขอก่อนได้ก่อน

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 วาระที่ 2 และ 3  นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการที่สงวนความเห็นมาตรา 4 ขออภิปรายปรับลดงบประมาณ 3 หมื่นล้านบาท จาก 3.48 ล้านล้านบาท ให้เหลือ 3.45 ล้านล้านบาท

 

นางสาวศิริกัญญา อภิปรายว่า งบ 67 มีการอนุมัติไปพลางก่อนแล้วโดย โดยผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ จำนวน 1.8 ล้านล้านบาท ส่วนที่เหลือที่สภาฯ สามารถพิจารณาได้จริงมีเพียง 1.68 ล้านล้านบาท ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของงบประมาณทั้งหมด หากล่าช้าก็ไม่ใช่เป็นเพราะสภาฯ แต่เป็นเพราะรัฐบาลขาดประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะงบลงทุนที่ผ่านไป 6 เดือนแล้ว แต่เบิกจ่ายเพียง 55% นอกจากนี้งบรายจ่ายประจำยังเบิกไปแค่ 79% ทั้งที่อยู่ในส่วนอนุมัติไปแล้ว

 

“ถ้ารัฐบาลจะขาดประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายงบประมาณขนาดนี้ เกือบ 6 เดือนเบิกรายจ่ายลงทุนไปได้แค่ 55% ก็ไม่สมควรที่จะนำงบไปใช้ทั้ง 3.48 ล้านล้านบาทค่ะ” นางสาวศิริกัญญา กล่าว

 

นางสาวศิริกัญญา อภิปรายต่อว่า รัฐบาลประมาณการรายได้ผิดพลาด ออกนโยบายที่กระทบกับรายได้ของรัฐบาลหลายส่วน เช่น จะไม่มีการเก็บภาษีการขายหุ้น งดการนำส่งรายได้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟฝ.) ลดภาษีสรรพสามิต จำนวน 6 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการจัดเก็บรายได้ที่ลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจโตช้ากว่าตอนทำงบประมาณ 

 

“ตอนทำงบประมาณ ปี 67 คาดการณ์ว่าจะโต 5% ต่อปี แต่ล่าสุดของสภาพัฒน์ที่ได้มีการประมาณการ GDP ของปี 67 น่าจะตกแค่ 4% ไม่รวมเงินเฟ้อ เท่ากับหายไปแล้ว 1% ดิฉันไปคำนวณมาแล้วรายได้ที่หายไปประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ดังนั้น มันมีความเสี่ยงที่ประมาณการรายได้น่าจะสูงเกินความเป็นจริง” นางสาวศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา ระบุว่า เราสามารถที่จะกู้เต็มเพดานได้ 790,656 ล้านบาทเท่านั้น ปัญหาในวันนี้ มีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 693,000 ล้านบาท หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถจัดเก็บรายได้ตามเป้าหมาย เท่ากับเราสามารถกู้เพิ่มได้อีกแค่ 97,656 ล้านบาท ไม่ถึงแสนล้านบาท

 

“ใครของบก่อนได้ก่อน มันไม่ควรจะต้องเกิดเหตุการณ์ที่ให้หน่วยงานไหนที่ทำ โครงการก่อนได้งบประมาณก่อน หน่วยงานไหนทำงบประมาณทีหลัง ได้งบประมาณทีหลังแบบนี้เกิดขึ้น ดิฉันคิดว่าเราต้องมาจัดลำดับความสำคัญใหม่ ช่วยทำให้สถานะทางการคลังของประเทศไม่สะดุดลงและมีปัญหา” นางสาวศิริกัญญา กล่าว

 

นางสาวศิริกัญญา กล่าวทิ้งท้ายว่า ในชั้นกรรมาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอตัดงบไม่จำเป็น เช่น งบประชาสัมพันธ์ ฝึกอบรมดูงาน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในการเช่ายานพาหนะ และลดการบรรจุอัตรากำลังใหม่ แต่ตนงงอยู่ เนื่องจากหน่วยรับงบประมาณส่งคำขอเสร็จตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. 2567 แต่นายกรัฐมนตรีเพิ่งทราบว่าจะต้องตัดงบในส่วนนี้ แล้วมาสั่งการไว้วันที่ 3 มี.ค. 2567

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ