ข่าว

การทำ SEO ให้บริษัทต่างๆ ที่ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การทำ SEO สำคัญอย่างไร และการทำให้บริษัทต่างๆ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันแค่ไหน เพื่อที่จะได้เข้าใจว่าการลงทุนด้านการตลาดออนไลน์นั้น สำคัญอย่างแท้จริงในยุคนี้

ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนหันมาใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น การทำการตลาดบนโลกออนไลน์จึงมีความสำคัญยิ่ง หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือการทำ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งเป็นกระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์ให้สามารถปรากฏในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา (Search Engine) อันดับต้นๆ 

 


โดยปัจจุบันผู้ประกอบการหลายๆ คนก็เลือกที่จะใช้บริการเอเจนซี่การตลาด ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO ให้บริษัทต่างๆ ลองมาเจาะลึกกันไปกับบทความนี้กันดีกว่า ว่าสรุปแล้วการทำ SEO สำคัญอย่างไร และการทำให้บริษัทต่างๆ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันแค่ไหน เพื่อที่จะได้เข้าใจว่าการลงทุนด้านการตลาดออนไลน์นั้น สำคัญอย่างแท้จริงในยุคนี้!
 

เข้าใจพื้นฐาน "SEO" คืออะไร?
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization เป็นกระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์ให้สามารถปรากฏในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา (Search Engine) อันดับต้น ๆ โดยอาศัยปัจจัยหลายประการ เช่น คุณภาพของเนื้อหา โครงสร้างของเว็บไซต์ เทคนิคการเขียนคำค้นหา (Keyword) และประสิทธิภาพของเว็บไซต์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่


ความสำคัญของการทำ SEO ในตลาดยุคดิจิทัล

  • เพิ่มการมองเห็น (Visibility) ของเว็บไซต์ เมื่อเว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหาอันดับต้น ๆ จะทำให้คนเห็นเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มยอดเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) และยอดขาย (Conversion)
  • สร้างความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness) ให้กับธุรกิจ การที่เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหาอันดับต้น ๆ แสดงว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของคุณ ซึ่งอาจสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ
  • ลดต้นทุนการทำการตลาด การทำ SEO เป็นกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในระยะยาว โดยคุณสามารถทำ SEO ด้วยตัวเองหรือจ้างบริษัทรับทำ SEO ก็ได้

ความแตกต่างในการทำ SEO ให้บริษัทต่างๆ

การทำ SEO ให้บริษัทต่างๆ นั้นมีความแตกต่างกันไปตามประเภทของธุรกิจ และ Material ในการทำการตลาด ณ ช่วงเวลานั้น เพื่อให้เกิดผลลัพธืที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ยกตัวอย่างเช่น

  • ธุรกิจ B2B ธุรกิจ B2B มักมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทางธุรกิจ (Business-to-Business) ดังนั้น การทำ SEO ให้ธุรกิจ B2B จึงเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายทางธุรกิจ เช่น บทความเกี่ยวกับอุตสาหกรรม ข้อมูลสินค้าและบริการ เป็นต้น 

 

  • ธุรกิจ B2C ธุรกิจ B2C มักมุ่งเน้นไปที่การขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าทั่วไป (Business-to-Consumer) ดังนั้น การทำ SEO ให้ธุรกิจ B2C จึงเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของผู้บริโภค เช่น รีวิวสินค้า โปรโมชั่น เป็นต้น 

 

  • ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ มักมุ่งเน้นไปที่การขายสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ดังนั้น การทำ SEO ให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่กระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้า เช่น รูปภาพสินค้า คำอธิบายสินค้า รีวิวสินค้า เป็นต้น 

 

  • ธุรกิจท้องถิ่น ธุรกิจท้องถิ่น มักมุ่งเน้นไปที่การขายสินค้าหรือบริการในพื้นที่เฉพาะ ดังนั้น การทำ SEO ให้ธุรกิจท้องถิ่น จึงเน้นไปที่การเพิ่มการมองเห็นของเว็บไซต์ในผลการค้นหาท้องถิ่น (Local Search) เช่น การเพิ่มข้อมูลธุรกิจในแผนที่ Google Maps เป็นต้น 

 

เลือกเอเจนซี่สำหรับการทำ SEO ให้บริษัทต่างๆ 

  • ประสบการณ์และผลงาน ตรวจสอบประสบการณ์และผลงานของเอเจนซี่ในการทำ SEO ให้กับบริษัทอื่น ๆ ที่ผ่านมา เพื่อให้มั่นใจว่าเอเจนซี่ดังกล่าวมีความเข้าใจในหลักการและเทคนิคการทำ SEO เป็นอย่างดี และสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จได้

 

  • แนวทางในการทำ SEO สอบถามแนวทางในการทำ SEO ของเอเจนซี่ว่าเป็นอย่างไร ตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่ และสอดคล้องกับประเภทธุรกิจของคุณหรือไม่

 

  • ทีมผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบว่าเอเจนซี่มีทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่มีประสบการณ์และความรู้ความสามารถเพียงพอหรือไม่

 

  • ราคา สอบถามราคาการทำ SEO ของเอเจนซี่ เพื่อให้มั่นใจว่าเหมาะสมกับงบประมาณของคุณ

 


การทำ SEO ให้กับบริษัทต่าง ๆ ก็ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในระยะยาว โดยคุณสามารถทำ SEO ด้วยตัวเองหรือจ้างบริษัทรับทำ SEO ก็ได้ การทำ SEO ให้บริษัทต่างๆ นั้นมีความแตกต่างกันไปตามประเภทของธุรกิจ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจประเภทธุรกิจของคุณและกำหนดเป้าหมายในการทำ SEO ของคุณให้ชัดเจน


 

logoline