ลอบทิ้งสารเคมีหวั่นอันตรายจนท.เร่งตรวจสอบ
แอบทิ้งถัง 200 ลิตร สารเคมีรั่วส่งกลิ่นคละคลุ้ง ชาวบ้านหวั่นอันตรายแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ก.ค.59 ร.ต.ท.ศิววิชญ์ สมบูรณ์ผล รอง สวป.สน.ภาษีเจริญ พร้อมด้วย นายไพฑูรย์ งามมุข หัวหน้าฝ่ายจัดการสารเคมีและวัตถุอันตราย สำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และ นางวารุณี เสือผ่อง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชำนาญงาน ฝ่ายสิ่งแวดล้อม สำนักงานเขตภาษีเจริญ นำกำลังเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยบางแค บางขุนเทียน และดาวคะนอง รวม 50 นาย พร้อมรถดับเพลิง เข้าตรวจสอบในพื้นที่ร้างเชิงสะพานบางขี้เก้ง ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ฝั่งมุ่งหน้าเพชรเกษม แขวงบางด้วนเขตภาษีเจริญ กทม.หลังรับแจ้งมีผู้นำสารเคมีไม่ทราบชนิดมาทิ้งเอาไว้ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนประชาชน
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่รกร้างข้างถนนมีหญ้าขึ้นสูงชัน เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ติดกับทางเข้าหมู่บ้านและชุมชน จำนวนหลายแห่ง เจ้าหน้าที่พบถังขนาด 200 ลิตร สีน้ำเงินไม่ติดฉลาก ถูกนำมาทิ้งคว่ำอยู่ในมุมลับตาด้านในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีวัตถุก้อนแข็งสีขาว และก้อนเหลวสีชมพู รั่วไหลออกมาจากถัง ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง และทำให้หญ้าเกิดรอยไหม้แห้งตาย เป็นวงกว้าง ประมาณ 10 ตารางเมตร นอกจากนั้นดินในจุดดังกล่าวยังถูกสารเคมีทำลายจนเป็นรอยไหม้สีน้ำตาลดำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำผ้ามาคลุมถังเอาไว้ ก่อนทำการล้อมพื้นที่ด้วยเชือกกันประชาชนออกห่างจากจุดเกิดเหตุในรัศมี 50 เมตร เพื่อรอเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยตรวจสอบสารเคมีซึ่งมีเครื่องแบบและอุปกรณ์ป้องกันซึ่งมีมาตรฐานจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บางขุนเทียน เดินทางมาร่วมตรวจสอบ
จากการสอบถาม นางวารุณี กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านแจ้งร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่เทศกิจ สำนักงานเขตภาษีเจริญ ว่า พบถังขนาด 200 ลิตร จำนวน 4 ถัง บรรจุสารเคมีไม่ทราบชนิดนำมาทิ้งไว้ที่จุดดังกล่าว โดยหลังฝนตก สารเคมีได้ส่งกลิ่นเหม็นอบอวลไปทั่วบริเวณ ทางสำนักงานเขตภาษีเจริญ จึงรีบแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการสารเคมีและวัตถุอันตราย สำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ใกล้เคียงมาร่วมตรวจสอบในวันนี้ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีชนิดใด แต่เมื่อมาถึงแล้วพบว่า มีสารเคมีเหลืออยู่เพียง 1 ถัง คาดว่าอีก 3 ถัง เจ้าของน่าจะแอบเข้ามาเก็บเอาไปแล้ว โดยทิ้งถังที่แตกเอาไว้ในที่เกิดเหตุเนื่องจากไม่กล้าเก็บเอากลับไป
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยตรวจสอบสารเคมี จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บางขุนเทียน ได้เดินทางมาถึงยังจุดเกิดเหตุ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ใส่ชุดป้องกัน จำนวน 1 นาย เข้าไปเก็บตัวอย่างสารต้องสงสัยบริเวณรอบๆ ถัง 200 ลิตรที่พบ จำนวน 3 ชนิด คือ ก้อนแข็งสีขาว ก้อนเหลวสีชมพู และก้อนดินสีน้ำตาลไหม้ ออกมาให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการสารเคมีและวัตถุอันตราย สำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ใช้เครื่องเคมีคอลอัลโนไลเซอร์ ทำการตรวจสอบ โดยในเบื้องต้นต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงจะรู้ว่าเป็นสารเคมีชนิดใด
นายไพฑูรย์ กล่าวว่า จากการนำตัวอย่างสารต้องสงสัยมาตรวจสอบนั้น ต้องรอผลพิสูจน์จากเครื่องมือสักระยะ อย่างไรก็ตามคาดว่าผู้ที่นำมาทิ้งเอาไว้ ในเบื้องต้นที่ได้รับแจ้งว่ามี 4 ถัง น่าจะมีวัตถุอันตรายที่เป็นกรดหรือด่างรวมอยู่ด้วย เนื่องจากมีหญ้าตายและดินถูกทำลาย แต่ในภายหลังเกรงความผิดจึงแอบย้อนกลับมาเอาคืนไป จำนวน 3 ถัง ทิ้งไว้แต่ถังที่แตกและมีวัตถุก้อนแข็งสีขาวบรรจุเอาไว้เท่านั้น หลังจากนี้หากผลพิสูจน์สารต้องสงสัยทั้งหมดออกมาแล้ว จะนำหลักฐานให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตภาษีเจริญ นำเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ภาษีเจริญ เพื่อแจ้งความจับกุมตัวผู้นำมาทิ้งมาดำเนินการตามกฎหมาย
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.นายสุทธิศักดิ์ เลี้ยงเจริญทรัพย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ ได้เดินทางมาดูในจุดเกิดเหตุพร้อมเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย จำนวน 4 ชนิด ที่เก็บได้จากในถัง 200 ลิตร และบริเวณรอบๆ ถัง ด้วยเครื่องเคมีคอลอัลโนไลเซอร์ในเบื้องต้นพบว่าน่าจะเป็นสารตั้งต้นในการผลิตเครื่องสำอางที่หมดอายุไปแล้ว โดยตรวจไม่พบความอันตรายทางปฏิกิริยาเคมี ความไวไฟ และผลกระทบต่อสุขภาพ จึงถือว่าปลอดภัย ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างไปส่งตรวจที่ห้องแลปอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนการเก็บกู้ได้มอบหมายให้ทางฝ่ายรักษาความสะอาดเขตภาษีเจริญ นำถังดังกล่าวไปทิ้งในจุดที่เหมาะสมและนำปูนขาวมาโรยเอาไว้ในจุดที่พบถังถูกทิ้ง สำหรับผู้ที่นำมาทิ้งเอาไว้จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข ฐานทิ้งสิ่งปฏิกูลในสถานที่ไม่เหมาะสมมีโทษปรับ 2,000 บาทต่อไป