ศาลนัดสืบพยานประกอบรับสารภาพคดีฆ่าชิงไอโฟน
แม่บัณฑิต มศว. ร้องขอเป็นโจทก์ร่วม คดี "2 โจ๋ ฆ่าชิงไอโฟน"ขณะที่ 2 จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลนัดสืบพยาน 8 พ.ค.นี้
27 ก.พ.60 - เวลา 09.00 น. ศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อ.125/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก ยื่นฟ้อง นายกิตติกร หรือตั้ม วิกาหะ อายุ 26 ปี อาชีพรับจ้าง ชาว จ.สระแก้ว และนายสุพัฒชัย หรือเอ๊กซ์ จันทร์ศรี อายุ 25 ปี อาชีพรับจ้าง ชาว จ.อุทัยธานี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ ที่ตนกระทำผิดฯฐานร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยใช้ยานพาหนะ และร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ภายหลังเมื่อนัดสอบคำให้การวันที่ 18 ม.ค.60 ที่ผ่านมา นายกิตติกร จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพโดยดี ส่วนนายสุพัฒชัย จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี อ้างว่า เป็นแค่คนขี่รถจักรยานยนต์พาไปก่อเหตุเท่านั้น และเข้าไปห้ามนายกิตติกร ให้หยุดประทุษร้ายผู้ตาย
โดยคดีนี้ อัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 17 ม.ค.60 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค.60 เวลากลางคืน จำเลยที่ 1 ได้นั่งซ้อนท้ายรถ จักรยานยนต์ โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นคนขี่ มาถึงบริเวณปาก ซ.สุคนธสวัสดิ์ 27 ถ.สุคนธสวัสดิ์ แขวง - เขตลาดพร้าว กทม.พบนายวศิน เหลืองแจ่ม กำลังถือโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟน 6 ราคา 26,000 บาท จำเลยที่ 1 จึงใช้อาวุธมีดจี้ขู่เข็ญให้นายวศินยื่นโทรศัพท์ให้ แต่นายวศินต่อสู้ขัดขืน จึงถูกจำเลยที่ 1 ใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายนายวศินอย่างแรงหลายครั้งตามร่างกาย และลำคอจนถึงแก่ความตายแล้วชิงโทรศัพท์มือถือผู้ตายหลบหนีไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลยทั้งสองได้พร้อมของกลาง 5 รายการส่งพนักงานสอบสวนสน.โคกครามดำเนินคดี ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพโดยตลอด
ซึ่งท้ายคำฟ้อง อัยการโจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองสถานหนักด้วย เนื่องจาก จำเลยทั้งสองกระทำความผิดโดยอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย และเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน ทั้งหลังก่อเหตุคดีนี้ในวันเดียวกันจำเลยทั้งสองยังก่อเหตุชิงทรัพย์พื้นที่ สน.โชคชัย และก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ พื้นที่ สน.โคกครามด้วย และการกระทำของจำเลยนับเป็นภัยสังคม ซึ่งเหตุที่จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนนั้นเพราะจำนนต่อหลักฐาน
ทั้งนี้ระหว่างการฝากขัง จนถึงชั้นฟ้องคดี ตลอดจนระหว่างการพิจารณา จำเลยทั้งสอง ไม่ได้รับการประกันโดยถูกคุมขังในจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งวันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยมาจากเรือนจำ
อย่างไรก็ดีวันนี้ ศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังอีกครั้ง ปรากฏว่า จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ขณะที่ นางนิราภรณ์ เหลืองแจ่ม มารดาผู้ตาย ได้มอบอำนาจให้ทนายความ ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้ด้วย
โดยศาลพิจารณาแล้ว ก็อนุญาตให้นางนิราภรณ์ เข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ และกำหนดนัดสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ ในวันที่ 8 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพยานของโจทก์ที่จะนำสืบนั้นเตรียมไว้ 2 ปาก คือ พนักงานรักษาความปลอดภัยที่เห็นเหตุการณ์ และพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เจ้าของสำนวนคดี.