ข่าว

สวยเหมือนเดิม ! “น้องทราย” เหยื่อครูปาแก้ว

สวยเหมือนเดิม ! “น้องทราย” เหยื่อครูปาแก้ว

09 มี.ค. 2560

สวยเหมือนเดิม! หมอยันฮี รักษา “น้องทราย” ถูกครูปาแก้วปากเบี้ยวหายเป็นปกติแล้ว

        9 มี.ค.60- จากกรณี น.ส.นฤดี จอดสันเที๊ยะ หรือ น้องทราย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ถูกครูพละปาแก้วกาแฟใส่ บริเวณกกหูซ้าย ส่งผลให้ใบหน้าผิดรูป ปากเบี้ยว ซึ่งเป็นข่าวครึกโครมไปช่วงเดือนกันยายน59 ต่อมาทาง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้เข้าช่วยเหลือน้องทราย ก่อนเข้ามาทำการรักษาที่โรงพยาบาลยันฮีทางด้านศัลยกรรม จนเวลาผ่านมา 4-5 เดือน ล่าสุด อาการของน้องทรายได้ดีขึ้นแล้ว โดยเธอได้โพสต์ใบหน้าของตัวเองลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Naruedee Chotsanthia ซึ่งได้กลับมาเป็นปกติแล้ว แม้จะยังไม่เต็มร้อยแต่ก็ทำเอาเจ้าตัวมีความสุขมากๆ

สวยเหมือนเดิม ! “น้องทราย” เหยื่อครูปาแก้ว

         นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางไปที่โรงพยาบาลยันฮี หลังได้รับการประสานจาก นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) โรงพยาบาลยันฮี ว่า ขณะนี้ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการรักษาของ น.ส.นฤดี จอดสันเที๊ยะ หรือ น้องทราย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 ที่ถูกครูพละปาแก้วใส่ใบหน้าจนมีอาการปากเบี้ยว ไม่สามารถหลับตาซ้ายได้ และมุมปากยิ้มได้เพียงข้างเดียวหายดีแล้ว

         สำหรับน้องทรายนั้นเคยท้อใจจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ หลังถูกครูพละที่โรงเรียนโมโหที่ไม่ทำตามคำสั่งให้นั่งลงในสนามกีฬาจนปาแก้วเซรามิคมาถูกที่บริเวณกกหูซ้ายอย่างแรงจนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลปูดบวมเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2559 และต่อมาไม่กี่วันก็เกิดอาการปากเบี้ยว น้ำลายไหลตลอดเวลา หลับตาซ้ายไม่สนิท จากนั้นได้ตระเวนรักษาที่โรงพยาบาลหลายแห่งมาร่วมเดือนแต่อาการยังไม่ดีขึ้น จนแพทย์แนะนำว่าอาจจะต้องรักษาโดยการผ่าตัดซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสูงเกือบ 3 แสนบาท ซึ่งหากปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีอาจจะพิการที่ใบหน้าได้ จากนั้นได้นำเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาไปแจ้งกับครูพละ เพื่อขอให้รับผิดชอบแต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้ กระทั่งเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2559 ได้ตัดสินใจเดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาฯ พร้อมกับนางปราณีย์ จอดสันเที๊ยะ มารดา และญาติๆ เข้าร้องเรียนต่อนางปวีณา เพื่อขอให้ช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรม 

          สวยเหมือนเดิม ! “น้องทราย” เหยื่อครูปาแก้ว

         หลังรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว นางปวีณาได้ประสานนพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) โรงพยาบาลยันฮี เพื่อขอให้ช่วยรักษาน้องทราย ก่อนพาไปตรวจดูอาการเบื้องต้นในวันที่ 16 ก.ย.59 โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่างมาร่วมตรวจดูอาการและวิเคราะห์เบื้องต้นว่า อาการดังกล่าวเกิดจากเส้นประสาทคู่ที่ 7 อักเสบ จากการได้รับการกระทบกระเทือน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการรักษาประมาณ 3-6 เดือน และทางโรงพยาบาลยันฮียินดีช่วยเหลือรักษาให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

             สวยเหมือนเดิม ! “น้องทราย” เหยื่อครูปาแก้ว

         ต่อมานพ.สุพจน์ พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยญชาญ ประกอบด้วย นพสุธน พิศูทธินุศาสตร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ นพ.นเรศศักดิ์ เหล่าสงวนเอก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง นพ.อภิชัย ชัยดรุณ อายุรแพทย์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม พญ.ปาริฉัตร หวานฉ่ำ แพทย์ประจำศูนย์ไฮเปอร์แบริค ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงขั้นตอนการรักษาในช่วงระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา โดยมีนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ และน้องทรายร่วมรับฟัง

          นพ.สุพจน์ กล่าวว่า ได้รับน้องทรายเข้ารักษาตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำการรักษาอย่างต่อเนื่องโดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมกันทำการรักษา ได้แก่ แพทย์อายุรกรรมระบบประสาท การฝังเข็ม กายภาพบำบัด และการรักษาด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100 % (Hyperbaric) ซึ่งผลการรักษารวมเวลาทั้งสิ้น 5 เดือน (16 ก.ย.59-15 ก.พ.60) ปรากฏว่า ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ แพทย์ผู้ทำการรักษาเห็นผลการตอบรับจากการให้ยา การฝังเข็ม การรักษาด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์100 % (Hyperbaric) และการทำกายภาพบำบัดเป็นระยะๆ ทำให้การรักษาหายเร็วกว่าที่คาดไว้ ปัจจุบันน้องทรายสามารถหลับตาได้สนิททั้งตาซ้ายและขวา สามารถยิ้มได้ปกติและผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจของน้องทรายและคุณแม่

สวยเหมือนเดิม ! “น้องทราย” เหยื่อครูปาแก้ว

         ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) โรงพยาบาลยันฮี และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยรักษาน้องทรายจนหายดีโดยที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด หลังจากนี้น้องทรายก็จะกลับไปเรียนหนังสือและสามารถอยู่ในสังคมได้ตามปกติ ส่วนในเรื่องคดีก็ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

         ขณะที่ น้องทราย บอกว่า ต้องขอขอบคุณ นางประวีณา หงสกุล ที่เข้าช่วยเหลือตนองเองในครั้งนี้ และต้องขอขอบคุณ นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) โรงพยาบาลยันฮี และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ให้การรักษา จนอาการหายเป็นปกติ รู้สึกดีใจและมีความสุขมาก เหมือนได้ชีวิตใหม่.