เตรียมเฮ!'หลินฮุ่ย'ได้'แพนด้าน้อย'ปีนี้
สวนสัตว์เชียงใหม่เผยหลินฮุ่ยมีอาการคล้ายตั้งท้องชัดเจน เตรียมอัลตร้าซาวด์มดลูก 24-26 เม.ย. เชื่อสำเร็จได้ลูกแพนด้าภายในปีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30น. วันนี้ (31 มี.ค.) ที่ห้องประชุมอาคารสโมสรแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์ พร้อมด้วย นายสมบัติ อนันตรัมพร กรรมการองค์การสวนสัตว์, นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์, นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ และนายสัตว์แพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์และวิจัย องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย ร่วมกันแถลงความร่วมมือในการพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับ องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และความคืบหน้าการผสมเทียมแพนด้า “หลินฮุ่ย”
น.สพ.ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการผสมพันธ์เทียมแพนด้า หลินฮุ่ย ที่ทางทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ ได้เริ่มทำการผสมพันธ์เทียม หลินฮุ่ย ด้วยน้ำเชื้อสดของ “ช่วง ช่วง" เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ผลการดำเนินการดังกล่าวประสบความสำเร็จด้วยดีและเป็นที่น่าพอใจของคณะสัตวแพทย์ที่ทำการผสมพันธ์เทียม พร้อมทั้งได้เฝ้าติดตามภาวะการตั้งท้องของ หลินฮุ่ย มาอย่างต่อเนื่อง โดยการเก็บตัวอย่างปัสสาวะเพื่อตรวจดูระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน พร้อมทั้งสังเกตพฤติกรรมต่างๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเป็นประจำทุกวัน โดยนับตั้งการผสมพันธ์เทียมถึงวันนี้ มีระยะเวลาการดำเนินการแล้วรวม 55 วัน
ล่าสุดจากการตรวจวัดระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ของแพนด้าหลินฮุ่ย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 16-22 มี.ค.60 หรือ 46 วัน หลังจากผสมพันธ์เทียม โดยนับจากวันที่ 5 ก.พ.60 เป็นวันแรกของการติดตามการตั้งท้องของ หลินฮุ่ย มีระดับโปรเจสเตอโรน อยู่ที่ 101 นาโนกรัม ต่อ มิลลิกรัมครีเอทินีน และระดับโปรเจสเตอโรน เพิ่มขึ้นเรื่อยมาจนถึงขณะนี้อยู่ที่ 185 นาโนกรัม ต่อ มิลลิกรัมครีเอทินีน ในวันที่ 30 มี.ค.60 หรือ 54 วัน หลังการผสมเทียม
ขณะเดียวกันหากเทียมกับอายุการตั้งท้องและคลอด หลินปิง มีช่วงระยะเวลาหลังจากการผสมพันธุ์เทียมทั้งสิ้น 97 วัน ซึ่งในปีนี้หลังจาก 5 ก.พ.60 คาดการณ์ว่าหากประสบความสำเร็จในการดำเนินการนั้นก็น่าจะตกอยู่ช่วงประมาณเดือน พ.ค. ที่จะถึงนี้ โดยแผนที่ได้เตรียมการหลังการแถลงข่าวในครั้งก่อนคือ ได้ดำเนินการปิดบ้านของ หลินฮุ่ย โดยให้ หลินฮุ่ย ได้อยู่เพียงลำพัง ปราศจากการรบกวน ซึ่งหลังจากที่ได้ดำเนินการไปแล้วนั้นจากการเฝ้าติดตามพบว่า หลินฮุ่ย มีสุขภาพดีขึ้นมาก และมีลักษณะอารมณ์ที่ดีมาก รวมถึงการกินและพักผ่อนเยอะขึ้น นอนถึงวันละ 18 ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงที่ หลินฮุ่ย ได้ใช้เวลากับตัวเองอย่างเต็มที่ ร่างกายแข็งแรง ขนสวยงาม และฮอร์โมนค่อนข้างสมบูรณ์มาก รวมทั้งในสวนของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ และทางทีมงานก็ยังคงเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงทางสภาพร่างกายอย่างต่อเนื่องว่าจะมีเต้านมขยายขึ้นหรือไม่ ประกอบกับช่วงนี้ หลินฮุ่ย ก็มีพฤติกรรมสำรวจพื้นที่ทำรัง ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการที่ได้ตั้งเป้าไว้และสัญญาณเหล่านี้ก็ค่อนข้างจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
เบื้องต้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดการตั้งท้องหรือไม่ ซึ่งต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป อย่างไรก็ตามทางทีมงานยังคงเฝ้าติดตามระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน อย่างต่อเนื่องทุกวันและมีแผนจะดำเนินการตรวจการตั้งท้องของ หลินฮุ่ย ด้วยวิธีอัลตร้าซาวนด์ โดยได้เรียนเชิญ รศ.น.สพ.ดร.สุดสรร ศิริไวทยพงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์เธนุเวชวิทยาและวิทยาการสืบพันธุ์ คณะสัตวแพทย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยคณะทำงานจากสำนักอนุรักษ์และวิจัย องค์การสวนสัตว์เข้าร่วมดำเนินการตรวจอัลตร้าซาวนด์ เพื่อหาตัวอ่อนในท้องของแพนด้า หลินฮุ่ย ในวันที่ 24, 25, 26 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงที่พอจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของมดลูก หากมีการขยายตัวของมดลูก หรือมีการสร้างถุงหุ้มตัวอ่อนก็น่าจะเริ่มมองเห็นได้ในช่วงดังกล่าว น่าจะทำให้ทราบผลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการตั้งท้อง พร้อมทั้งจะดำเนินการติดตามหลังจากปลายเดือน เม.ย. อย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ไปเรื่อยๆ เพื่อดูพัฒนาการการเปลี่ยนแปลงภายในมดลูกจากการอัลตร้าซาวนด์ต่อไป โดยที่ทางทีมงานต่างมีความหวังอย่างเต็มที่ว่าจะประสบความสำเร็จได้ลูกแพนด้าที่น่ารักอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน โดยในส่วนของความร่วมมือการพัฒนาการท่องเที่ยวนั้น นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ทางกระทรวงเล็งเห็นความสำคัญและศักยภาพของสวนสัตว์ว่ามีความพร้อมอย่างยิ่งที่ในการที่จะบรรจุเข้าไปอยู่ในแผนบูรณาการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งทางกระทรวงจะมีการผลักดันและสนับสนุนในด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ ทั้งการเชื่อมโยงและสร้างความร่วมมือกับทางภาคธุรกิจท่องเที่ยวในการบรรจุสวนสัตว์เข้าไปอยู่ในแผนการท่องเที่ยว รวมทั้งจะมีการเชื่อมโยงกิจกรรมต่างๆ ของกระทรวงกับทางสวนสัตว์ทุกแห่งในประเทศไทยด้วยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยจะใช้สวนสัตว์เชียงใหม่เป็นต้นแบบในความร่วมมือนี้
ด้าน รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์ กล่าวว่า ในต่างประเทศการท่องเที่ยวในสวนสัตว์เป็นสิ่งที่มีการทำกันอยู่แล้วและเป็นที่นิยมอย่างมาก ซึ่งตามความร่วมมือระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับ องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะมีการสนับสนุนส่งเสริมและบรรจุสวนสัตว์ให้เข้าไปอยู่ในแผนการท่องเที่ยว โดยที่ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนทางด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวสวนสัตว์ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น เป็นจุดขายใหม่ของการท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อทุกฝ่าย