ข่าว

งงเด้!! คำสั่งระงับใช้น้ำเค็ม"เลี้ยงสัตว์น้ำ"

งงเด้!! คำสั่งระงับใช้น้ำเค็ม"เลี้ยงสัตว์น้ำ"

23 ก.ค. 2560

ชาวบ้านแพ้ว เกือบ 300 ชีวิต “ฮือฮา”คำสั่งระงับใช้น้ำเค็มเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่เกษตร-เขตน้ำจืด “กลุ่มผู้เลี้ยงกุ้ง" 13 ตำบล นัดหารือ 2ส.ค. ก่อนเคลื่อนไหว

           เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2560 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.สมุทรสาคร โดยนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจัรจังหวัดสมุทรสาคร ได้ออกคำสั่งเรื่อง..ประกาศระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืดภายในเขตพื้นที่จังหวัดฯ (เลขที่1097/2560) ตามที่มีสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 กรณีที่ใช้ความเค็มในพื้นที่น้ำจืดเนื่องจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นเหตุให้เกิดมลภาวะมลพิษทั้งทางน้ำ และมลพิษในดิน เกิดภาวะขาดความสมดุลตามธรรมชาติ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนและก่อให้เกิดผลเสียหายต่อทรัพย์สินของรัฐและประชาชน

         ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ระงับการใช้ความเค็ม(และน้ำเค็ม)ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกรณีในพื้นที่น้ำจืดภายในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครพร้อมกันนี้ให้ดำเนินการให้จับสัตว์น้ำ(หรือกุ้ง)นับตั้งแต่คำสั่งนี้ตามที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา(ลงวันที่26เมษายน2560) ซึ่งให้แล้วเสร็จภายในเวลา120วัน

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดในการนี้“ที่ศาลาวัดดอนราว” ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ได้มีกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งและเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ประมาณเกือบ 300 คนได้นัดออกมารวมตัวกันเรียกร้องเพื่อหวังคัดค้าน และล่ารายชื่อกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้ง ซึ่งระบุว่า อ้างอิงเพื่อแสดงถึงความเดือนร้อนต่อคำสั่งดังกล่าวของทางจังหวัด หลังมีเจ้าหน้าที่นำประกาศมาติดประชาสัมพันธ์ยังจุดต่างๆในสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนที่เกี่ยวข้องได้รับทราบตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา(ลงวันที่26เมษายน2560) และขนสัตว์น้ำเค็มหรือกุ้งให้พ้นออกนอกเขตพื้นที่น้ำจืดตามที่กำหนดให้เสร็จในระยะเวลา120วัน

         ทั้งนี้โดยวันที่2ส.ค.2560 จะมีการประชุมเพื่อจัดเวทีหารือกันระหว่างหน่วยงานราชการ (ที่ ศาลาประชาคมวัดยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว) เพื่อแลกเปลี่ยนเสนอข้อคิดเห็นถึงผลกระทบของผู้เกี่ยวข้องตามคำสั่งดังกล่าว โดยมีอำเภอบ้านแพ้วในฐานะเป็นประธานร่วมเจรจา อย่างไรก็ตาม อ.บ้านแพ้ว นั้นประกอบด้วย13ตำบล และมีกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงกุ้งเพื่อจำหน่ายกระจายอยู่ทั่วทุกเขตตำบล