หมู่บ้านติดน้ำพองอ่วมน้ำไม่ลด
บ้านติดน้ำพองยังอ่วม น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร เส้นทางเข้าออกถูกตัดขาดเป็นหมู่บ้านกลางน้ำ ขนคนแก่ เด็ก และคนพิการออกไปอยู่นอกชุมชน ชาวบ้านตั้งกองทุนน้ำมันดูแลกันเอง
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 60 ที่บ้านโนนเชือก หมู่ 7 ต.บ้านขาม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กลุ่มอาสาสมัครจากมูลนิธิร่วมกตัญญู จุดบ้านนา จุดบ้านพริก จ.นครนายก และจ.ขอนแก่น กว่า 50 คน ระดมขนข้าวปลาอาหารแห้ง รวมถึงเครื่องกันหนาวไปมอบให้กับชาวบ้านในชุมชนโนนหนองลาด หรือบ้านเกาะ ต.บ้านขาม เนื่องจากในพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทางเข้าออก 2 เส้นทาง ถูกตัดขาดทุกเส้นทางชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก เนื่องจากความช่วยเหลือมีน้อยและไม่ทั่วถึง
นายสุภณัฐน์ วิเศษสุข ตัวแทนอาสาสมัครจากมูลนิธิร่วมกตัญญู จุดบ้านนา จุดบ้านพริก จ.นครนายก กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับข้อมูล รวมทั้งการประสานงานจากอาสาสมัครในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จึงเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของอุปโภค บริโภค ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค ที่ จ.นครนายก มีประชาชนที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำสิ่งของมาร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก
“มุ่งหน้านำสิ่งของมามอบให้กับชาวบ้านชุมชนโนนหนองลาด หรือบ้านเกาะ เพราะได้รับข้อมูลว่าความช่วยเหลือยังล่าช้า ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นมีจำกัด ชาวบ้านเองจะออกมาข้างนอกลำบาก เพราะเรือไม่เพียงพอ ประกอบกับระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร การเดินทางเข้าออกในชุมชน ต้องใช้เรือเท่านั้น ชุมชนถูกล้อมรอบด้วยน้ำท่วมสูง ทำให้ถูกตัดขาดจากภายนอก บ้านเรือนชั้นเดียวไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ชาวบ้านต้องใช้ศาลากลางบ้านเป็นที่อยู่ที่นอน ชีวิตความเป็นอยู่ลำบากมาก”นายสุภณัฐน์ กล่าว
จากการสอบถามนายโอวาท รักษาเคน ผู้ใหญ่บ้านโนนเชือก หมู่ 7 ต.บ้านขาม กล่าวว่า สำหรับชุมชนโนนหนองลาด หรือบ้านเกาะ ขึ้นกับบ้านโนนเชือก ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 6 กิโลเมตร มีชาวบ้านอาศัยอยู่ 40 ครัวเรือน ประชากรกว่า 100 คน สภาพเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ เป็นพื้นที่ปลูกข้าว สำหรับปีนี้พบว่าสถานการณ์น้ำท่วมคล้ายกับน้ำท่วมเมื่อปี 2554 แต่ปีนี้ท่วมถึง 4 ครั้ง
กระทั่งเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 60 น้ำท่วมเข้าชุมชนสูง วันที่ 20 ต.ค. 60 ซึ่งเป็นวันที่เขื่อนอุบลรัตน์มีการระบายน้ำสูงถึง 54 ล้าน ลบ.ม. ทำให้น้ำจากลำน้ำพองท่วมชุมชนสูงสุดกว่า 2 เมตร ทำให้พื้นที่ทางการเกษตรกว่า 1,300 ไร่ ได้รับความเสียหายทั้งหมด
สำหรับสิ่งของที่ต้องการรับการบริจาค ชาวบ้านต้องการข้าวสาร เนื่องจากในระยะยาวคาดว่า จะมีปัญหาเรื่องอาหารอุปโภค บริโภค เพราะนาข้าวเสียหายไม่ได้ผลผลิต
ขณะที่นายสวาท อุปฮาด ชาวบ้านชุมชนโนนหนองลาด กล่าวว่า สถานการณ์น้ำปีนี้หนักกว่าปี 54 เพราะท่วมถึง 4 ครั้ง จนครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ปริมาณน้ำสูง ชาวบ้านทำนากัน 2 ครั้ง เสียหายทั้ง 2 ครั้ง พื้นที่นาข้าวน้ำท่วมสูงถึง 5 เมตร ขณะที่ถนนเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาดทั้งหมด ในชุมชนเองน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร การชีวิตความเป็นอยู่จึงลำบาก
เพราะกว่าชาวบ้านจะสื่อสารกับภายนอกได้ผ่านไปนาน ต้องอาศัยพึ่งพากันของชาวบ้านในชุมชน หลายคนไม่อยากทิ้งบ้านต้องอยู่กับน้ำท่วมมานานนับเดือน สำหรับภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งนี้ คาดว่ามกราคม ปี 2561 จึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ
“กลุ่มเสี่ยงอย่างคนแก่ คนพิการ และเด็ก เราตัดสินใจให้โยกย้ายออกไปอยู่ด้านนอก เพราะไม่ต้องการให้สูญเสียชีวิตกัน ส่วนกลุ่มแรงงานที่ต้องเดินทางไปทำงานข้างนอกชุมชน ชาวบ้านได้พร้อมใจกันบริจาคเงิน ตั้งเป็นกองทุนน้ำมัน เพื่อใช้เติมเรือสำหรับเดินทางเข้าออก เราต้องทำอย่างนี้เพราะครอบครัวยังต้องกินต้องใช้ เมื่อน้ำท่วมก็ขาดรายได้แล้ว ไม่ต้องการให้ชาวบ้านขาดอาชีพอีก เพิ่งจะมีหน่วยงานนำข้าวของเครื่องใช้มาบริจาค ชาวบ้านเองรู้สึกดีใจ และขอขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน” นายสวาท กล่าว