พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กล่าวว่า การฝึกซ้อมริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารคพื้นที่จริงเมื่อวันที่ 17 เมษายน ซึ่งมีการปิดการจราจร 40 เส้นทางนั้น ในการดำเนินการเราได้ทยอยเปิดการจราจรในเส้นทางที่ริ้วขบวนเคลื่อนผ่านไปแล้วเป็นระยะๆ เพื่อลดผลกระทบการจราจรให้น้อยที่สุด พบว่าภาพรวมการดำเนินการว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนแต่อย่างใด ก่อนนำไปปฏิบัติอีกครั้งในการฝึกซ้อมริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารคในวันที่ 21 เมษายน ที่จะเริ่มปิดการจราจร 40 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น. ขณะที่ขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกจากศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปยังวัดสุทัศนเทพวรารามเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 เมษายน ที่ปิดการจราจร 7 เส้นทาง พบการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนในวันที่ 19 เมษายน ที่จะมีขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกจากวัดสุทัศนเทพวราราม ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร จะปิดการจราจร 16 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 06.00-11.00 น. ซึ่งเมื่อขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกถึงยังจุดหมาย จะเปิดการจราจรอย่างรวดเร็ว เพื่อลดผลกระทบการจราจร
นายวิทยา ยาม่วง
นายวิทยา ยาม่วง ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัยและการจราจรงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมอบหมายให้ กระทรวงคมนาคม รับผิดชอบงานอำนวยความสะดวกการเดินทางให้บริการประชาชนเข้าร่วมงานพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม โดยมีแผนการดำเนินงานดังนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ(ขสมก.) ได้จัดเตรียมรถให้บริการรับ-ส่งประชาชนจำนวน 900 คัน โดยจัดเส้นทางเดินรถอำนวยความสะดวกทั้งหมด 16 เส้นทางแบ่งออกเป็นเส้นทางเดินรถชัตเติลบัสจำนวน 11 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.เส้นทางเดินรถจากเมืองทองธานี, ศูนย์ราชการแจังวัฒนะ-สนามม้านางเลิ้ง 2.จากสโมสรตำรวจ-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(ถนนวิภาวดี)-สนามม้านางเลิ้ง 3.จากสโมสรกองทัพบก, กทม.2 (ถนนวิภาวดี)-สนามม้านางเลิ้ง 4.จากฟิวเจอร์พาร์ครังสิต-สนามม้านางเลิ้ง 5.จากรฟม.พระราม9, สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว, ศาลอาญารัชดา, สนง.อัยการสูงสุด-บ้านมนังคศิลา 6.จากอิเกีย, เมกาบางนา-บ้านมนังคศิลา 7.จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหราลาดกระบัง-บ้านมนังคศิลา 8.จากท่าเรือคลองเตย, โรงงานยาสูบ, แอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน-บ้านมนังคศิลา 9.จากเซ็นทรัลพระราม2, โรงเรียนบางมดวิทยา-วัดเทพศิรินทร์ 10.จากเซ็นทรัลศาลายา,พุทธมณฑลสาย 4, อู่จอดรถบรมราชชนนี, วิทยาลัยทองสุข-เชิงสะพานพระราม 8 และ11.จากเซ็นทรัลเวสเกตบางใหญ่-เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า
นอกจากนี้ยังได้จัดเส้นทางรถเฉพาะกิจรับส่งทุกป้ายจำนวน 5 เส้นทาง ประกอบด้วย อนุสาวรีย์ชัย-สนามม้านางเลิ้ง, สถานีขนส่งจตุจักร-สนามม้านางเลิ้ง, วงเวียนใหญ่-สะพานพระพุทธยอดฟ้า, สนามศุภชลาศัย-บ้านมนังคศิลา และสถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่)-สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
ขณะเดียวกันยังได้กำหนดจุดจอดรถยนต์ส่วนบุคคลเพื่อต่อรถชัตเติลบัสถึงบริเวณพื้นที่ราชพิธีจำนวน 25 จุด ได้แก่ เมืองทองธานี, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, สโมสรตำรวจ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, สโมสรกองทัพบก, กทม.2, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, ที่จอดรถของรถไฟฟ้าใต้ดินรัชดาภิเษก, ลานจอดรถใต้ดินลาดพร้าว, ศาลอาญารัชดา, สำนักงานอัยการสูงสุด, อีเกียบางนา, เมกาบางนา, ศูนย์ประชุมไบเทคบางนา, สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าลาดกระบัง, ท่าเรือคลองเตย (ใกล้สน.ทางด่วน 1), โรงงานยาสูบ, แอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน, เซ็นทรัลพระราม 2, โรงเรียนบางมดวิทยา, ลานพุทธมณฑลสาย 4, เซ็นทรัลศาลายา, อู่จอดรถบรมราชชนนี, วิทยาลัยทองสุข และเซ็นทรัลเวสเตบางใหญ่ ซึ่งสามารถจอดรถได้รวม 40,000 คัน ซึ่งสามารถต่อรถชัตเติลบัสเพื่อเข้าสู่จุดรวมพลจำนวน 6 จุด ได้แก่ สนามม้านางเลิ้ง, บ้านมนังคศิลา, วัดเทพศิรินทราวาส, สะพานพระราม 8, สะพานพระพุทธยอดฟ้า และเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า เพื่อเดินเท้าต่อสู่พื้นที่งานพระราชพิธี
ในแผนการเดินรถได้จัดเตรียมการเดินขบวนรถพิเศษช่วงงานพระราชพิธีโดยใช้รถดีเซลรางชั้น 3 เส้นทางละ 1 ชุดๆ ละ 4 คัน เดินใน 4 เส้นทางดังนี้ 1.เส้นสายทางสายเหนือ จากสถานีอยุธยา-กรุงเทพฯ-อยุธยา 2.เส้นทางสายใต้ จากสถานีนครปฐม-ธนบุรี-นครปฐม 3.เส้นทางสายตะวันออก จากสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา-กรุงเทพฯ-ชุมทางฉะเชิงเทรา และ4.เส้นทางสายแม่กลองจากสถานีมหาชัย-วงเวียนใหญ่-มหาชัย โดยประชาชนที่จะใช้บริการขบวนรถพิเศษสามารถจอดรถได้ตามสถานีรถไฟต่างๆ จากนั้นใช้บริการชัตเติลบัสเข้าสู่บริเวณพระราชพิธี
ส่วนกรมเจ้าท่ารับผิดชอบการจัดเดินเรืออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน โดยจัดเตรียมเรือข้ามฟากและเรือด่วนเจ้าพระยาในหลายเส้นทาง อาทิ จากจังหวัดนนทบุรีไปยังท่าเรือปิ่นเกล้า, จากท่าเรือสาทรไปสะพานพระพุทธยอดฟ้า นอกจากนี้คมนาคมได้ร่วมปฎิบัติงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดจราจร เตรียมอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการทางพิเศษ รวมทั้งบริหารจัดการ กรณีรถเสีย อุบัติเหตุ ได้จัดเตรียมรถยกเพื่อช่วยแก้ปัญหาจราจรให้สอดคล้องกัน ซึ่งขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้มีการซักซ้อมแผนและมีความพร้อมในช่วงงานพระราชพิธี โดยใช้โมเดลการทำงานใหญ่ๆ ที่ผ่านมาเป็นต้นแบบและบทเรียน