ข่าว

"เกษตรฯ" เร่งรับรองมาตรฐานผลไม้ภาคใต้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"รมว.เกษตรฯ" สั่งกรมวิชาการเกษตร ตรวจประเมินมาตรฐานการผลิตผลไม้ภาคใต้ สร้างความมั่นใจตลาดต่างประเทศ ขยายตลาดส่งออก ป้องกันปัญหาราคาตก


"รมว.เกษตรฯ" เร่งรับรองมาตรฐานผลไม้ภาคใต้ สั่งกรมวิชาการเกษตร ตรวจประเมินมาตรฐานการผลิตผลไม้ภาคใต้และมาตรฐานโรงคัดบรรจุผลไม้ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ตลาดต่างประเทศถึงคุณภาพผลไม้ไทย ขยายตลาดส่งออก ป้องกันปัญหาราคาตกต่ำ

 

          วันที่ 29 ก.ค.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเร่งเร่งตรวจประเมินให้การรับรองผลไม้ภาคใต้ตามมาตรฐานการผลิตทางการเกษตรที่ดี (GAP) และมาตรฐานโรงคัดบรรจุผลไม้ทั้งเปลือก (GMP) ให้ทันฤดูการส่งออกปี 2562 ขณะนี้เตรียมให้การรับรองมาตรฐาน GAP และ GMP ใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต โดยคณะกรรมการจะพิจารณารับรอง GAP แปลงทุเรียนในวันที่ 30 กรกฎาคม 3263 แปลงและวันที่ 2 สิงหาคมรับรองเพิ่มอีก 3550 แปลง มังคุด 3055 แปลง ส่วนการรับรองมาตรฐาน GMP ของโรงคัดบรรจุดำเนินการแล้ว 419 โรง เหลืออีก 93 โรงจะเร่งพิจารณาในต้นสัปดาห์หน้า

 

          ทั้งนี้สาเหตุที่เนื้อที่ให้ผลเงาะลดลงเนื่องจากเกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น เช่น ทุเรียน มังคุด ส่งผลให้ผลผลิตลดลง และลองกองมีเนื้อที่ปลูก 57,443 ไร่ ลดลงจากปี 2561 ร้อยละ 22.77 เนื้อที่ให้ผล 56,121 ไร่ ลดลง ร้อยละ 22.33 ผลผลิตรวม 25,145 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.61 ผลผลิต 448 กก./ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 47.37 สำหรับลองกองแม้เนื้อที่ให้ผลลดลงเนื่องจากเกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น แต่ผลผลิตกลับเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีช่วงแล้งที่เหมาะสมให้ลองกองออกดอกมากกว่าปีที่ผ่านมาจึงส่งผลให้ผลผลิตปีนี้เพิ่มมากขึ้น

 

          จากรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุว่า ผลผลิตไม้ผล 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนจะมี 542,797 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มี 396,168 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.01 เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับราคาไม้ผลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2560 โดยเฉพาะทุเรียน เกษตรกรจึงเอาใจใส่ดูแลสวนผลไม้มากขึ้น ทำให้ผลผลิตต่อไร่ของไม้ผลเพิ่มขึ้นเพราะสภาพต้นสมบูรณ์ โดยทุเรียนมีเนื้อที่ปลูก 369,913 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 6.37 เนื้อที่ให้ผล 283,395 ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.26 ผลผลิตรวม 338,270 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.94 ผลผลิตเฉลี่ย 1,194 กก./ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.80 มังคุดมีเนื้อที่ปลูก 190,621 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 0.23 เนื้อที่ให้ผล 181,681 ไร่ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.71 ผลผลิตรวม 129,022 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.61 ผลผลิตเฉลี่ย 710 กก./ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 44.31 เงาะมีเนื้อที่ปลูก 47,973 ไร่ ลดลงจากปี 2561 ร้อยละ 9.53 เนื้อที่ให้ผล 46,667 ไร่ ลดลงร้อยละ 10.27 ผลผลิตรวม 50,360 ตัน ลดลงร้อยละ 1.95  ผลผลิตเฉลี่ย 1,079 กก./ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.21

         

          สำหรับผลผลิตภาคใต้ตอนล่างประมาณการณ์ว่าจะมี 169,205 ตันหรือคิดเป็นร้อยละ 23.76 ของผลผลิตทั้งภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัดซึ่งคาดว่า จะมีผลผลิตรวมประมาณ 712,002 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีผลผลิต 529,385 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.20 ทั้งนี้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 จ.สุราษฎร์ธานี (สศท.8) รายงานว่า ผลไม้ภาคใต้จะออกมากสุดในเดือนสิงหาคม ซึ่งแนวทางบริหารจัดการผลไม้ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปีนี้ยังคงเน้นเรื่องคุณภาพเป็นสำคัญเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ โดยเฉพาะการส่งออกไปยังต่างประเทศซึ่งต้องมีการรับรองทั้งมาตรฐาน GAP และ GMP ซึ่งหากขยายการส่งออกได้มากขึ้นจะสามารถทำให้ผลผลิตของผลไม้ภาคใต้ที่เพิ่มขึ้นนี้ยังคงรักษาเสถียรภาพราคาไว้ได้ โดยไม่ประสบปัญหาราคาตกต่ำ.
 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ