ข่าว

นายกฯลงพื้นที่อุบลฯ บ่ายนี้ หลายจังหวัดเริ่มคลีคลาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัด "อีสาน" เริ่มคลี่คลาย เหลือ 4 จังหวัด เผย "บิ๊กตู่" จ่อลงพื้นที่ "อุบลฯ" บ่ายนี้ แนะประชาชนดูแลสุขภาพทั้งช่วงน้ำท่วมและภายหลังน้ำลด

 

 

           19 ก.ย.62-น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยล่าสุดในหลายจังหวัดภาคอีสานว่า สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ยังเหลืออีก 4 จังหวัด คือ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ โดยในบ่ายวันนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จะได้ร่วมคณะพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย จ.อุบลราชธานี ด้วย

 

 

           นายกฯลงพื้นที่อุบลฯ บ่ายนี้ หลายจังหวัดเริ่มคลีคลาย

 

            ส่วนสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จ. ศรีสะเกษยังคงมีน้ำท่วมสูงในอีก 2 อำเภอ คือ อ. กันทรารมย์ และ อ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่งโครงการชลประทานศรีสะเกษได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ คาดว่าจะประชาชนสามารถอพยพกลับที่อาศัยได้ภายในอีก 1 สัปดาห์ สำหรับเส้นทางทั้ง 40 เส้นทางในจ.ศรีสะเกษที่ถูกน้ำท่วม กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ประชาชนสามารถใช้สัญจรได้ 

 

 

           นายกฯลงพื้นที่อุบลฯ บ่ายนี้ หลายจังหวัดเริ่มคลีคลาย

 

 

           น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่าในส่วนของการดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนหลังน้ำลด โดยเน้นการดูแลทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะการเตรียมรับมือโรคไข้เลือดออกและโรค ฉี่หนู ที่พบว่ามักจะแพร่ระบาดหลังน้ำลด โดยเน้นประชาชนให้กลับไปทำความสะอาดบ้านเรือนที่พัก รวมทั้งจัดทีมแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงฆ่าตัวตาย โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบนโยบายกระทรวงสาธารณสุขขอให้ช่วยดูแลดูกฎเกณฑ์ข้อบังคับให้ยืดหยุ่น หากพบกรณีจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องอนุมัติเบิกจ่าย ขณะเดียวกันรัฐมนตรีว่าการกระคมนาคม ได้สั่งการให้หน่วยงานคมนาคมวางแผนศึกษาผลกระทบด้านคมนาคม เช่น เส้นทางที่ขวางทางน้ำ หรือ เส้นทางการบายพาสน้ำ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต  

 

            รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนให้ดูแลสุขภาพ เพราะยังมีการคาดการณ์ฝนตกหนักในช่วงวันที่ 21-22 ก.ย. นี้ ในทุกภาคของประเทศไทย ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือประสบปัญหา สามารถติดต่อทุกหน่วยงานในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ของศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัยทั่วประเทศได้ 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ