เปิดให้ปชช.ลงนามถวายอาลัย 08.30-16.00 น.ทุกวัน | คมชัดลึก

           วันนี้(15ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีประชาชนแต่งกายด้วยชุดดำมายืนเฝ้าอยู่รอบบริเวณรั้ววังเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ต่างตั้งจิตอธิษฐานและเฝ้ามองไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ที่ประดิษฐานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ด้วยความอาลัยยิ่ง 

           กระทั้งเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน สำนักพระราชวังได้แจ้งว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้าลงนามถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง โดยวันนี้เปิดให้ลงนามแต่เวลา 12.00 -16.00 น. และจะเปิดให้ลงนามถวายความอาลัย ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. โดยจัดแถวเรียงสี่ชุดละประมาณ 100 คน

           อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสะดวกรวดเร็วเนื่องจากมีประชาชนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่แจ้งว่า นอกจากการแต่งกายด้วยชุดสุภาพ งดสวมใส่กางเกงและกระโปรงสั้นแล้ว ควรสวมรองเท้าหุ้มส้นจะเป็นผ้าใบหรือหนังก็ได้เพราะหากสวมรองเท้าแตะมาต้องถอดไว้ด้านล่างก่อนขึ้นไปลงนามถวายความอาลัย 

          ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดให้ประชาชนร่วมลงนามถวายความอาลัยครั้งละประมาณ 100 คน โดยจะแนะนำขั้นตอนการถวายความอาลัยให้นั่งพับเพียบต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดยหันปลายเท้าไปทางขวาแล้วก้มกราบโดยไม่แบมือครั้งเดียวอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นจึงเข้าไปยังห้องลงนามถวายความอาลัยเป็นอันเสร็จขั้นตอน อย่างไรก็ดีควรงดการถ่ายภาพและอยู่ในอาการสำรวม

         ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางสำนักพระราชวัง ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าชมวัดพระศรีรัตน ศาสดาราม ได้ตามปกติ ช่วงเวลา 08.00-16.00 น. เข้าทางประตูสวัสดิโสภา โดยจะเปิดให้เข้าชมฟรี แต่ขอความร่วมมือให้แต่งกายสุภาพในชุดไว้ทุกข์สีดำ

           นายวิลักษณ์ โหลทอง ซึ่งเดินทางมาพร้อมภรรยา และลูกน้อยอีก 2 คน กล่าวภายหลังจากร่วมลงนามถวายความอาลัยว่า ตอนแรกตั้งใจมาไหว้พระบรมศพด้านนอกพระบรมมหาราชวัง แต่สักพักทหารที่เฝ้าประจำการณ์บอกว่าวันนี้จะเปิดให้ประชาชนเข้าไปลงนามถวายพระพรพระบรมศพที่ศาลาสหทัยสมาคม โดยเปิดให้เข้าทางประตูวิเศษไชยศรีจึงเดินตามไปเข้าแถวด้วย ซึ่งจริงๆ ไม่คาดคิดว่าจะได้เข้าไปถวายความอาลัยถึงข้างใน รู้สึกปลาบปลื้มมาก แล้วก็อยากให้ลูกๆ ได้มาร่วมด้วย ในหลวงทรงอยู่เหนือหัวและเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเราจริงๆ

          ด้านนางดุษฎี บรรสาร วัย 49 ปี ชาวจังหวัดตรังที่วันนี้พาลูกสาววัย 12 ปี และหลานวัย 7 ปีมาร่วมลงนามถวายความอาลัยด้วย เผยความรู้สึกด้วยน้ำตานองหน้าว่า ได้ข้ามจากร.พ.ศิริราชมารอรับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ที่มาประกอบพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพบริเวณถนนหน้าพระลาน เห็นคนเข้าแถวจึงเข้าไปสอบถามและรู้ว่ามีการเปิดให้เข้าลงนามถวายความอาลัยในวันนี้ รู้สึกดีใจและตื้นตันใจมาก

           “ตั้งแต่เด็กพ่อเป็นครู ทุกวันที่ 4 ธันวาคมก่อนวันพ่อ พ่อจะนั่งเฝ้าหน้าทีวี เราก็สงสัยว่ารออะไร เพราะตอนนั้นอยากดูการ์ตูนตามประสาเด็ก พอโตขึ้นถึงรู้ว่าในหลวงจะพูดให้ประชาชนฟังในวันเกิดทุกปี ตอนนี้ไม่มีท่านแล้วรู้สึกใจหาย เสียใจมาก ตอนได้ยืนข่าวลือว่าท่านสิ้นแล้วไม่เคยเชื่อเลย ท่านบอกจะอยู่ 120 ปี ไม่เคยเตรียมใจเลย รักท่านมากที่สุด” นางดุษฎี กล่าวทั้งน้ำตา

          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากการพระราชพีธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ครบ 15 วัน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว สำนักพระราชวังจะเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท อนึ่ง สำหรับคณะบุคคลต่างๆที่ประสงค์จะนำพวงมาลามาถวายสักการะ จะได้มีการจัดให้วางภายหลังเมื่อครบกำหนดพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ทั้งนี้ สำนักพระราชวังจะแจ้งให้ทราบต่อไป