ทร.ทยอยซื้อเรือดำน้ำ1 ลำ ลดแรงต้านสังคม | คมชัดลึก

กองทัพเรือ ยังไม่ละความพยายามเดินหน้าจัดซื้อเรือดำน้ำรุ่น Yuan Class S26T จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 1 ลำ ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กันงบประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยบรรจุไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 จากนั้นจะทยอยจัดซื้อให้ครบจำนวน 3 ลำภายในระยะเวลา 12 ปี ตามแผนยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ เพื่อรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ทางทะเล เสริมกำลังการรบ 3 มิติ คือ ผิวน้ำ ใต้น้ำ และในอากาศ ให้ทัดเทียมหรือเหนือกว่าในภูมิภาค

โดยก่อนหน้านั้น กองทัพเรือเคยเสนอจัดซื้อเรือดำน้ำรุ่นดังกล่าวมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา จำนวน 3 ลำ ในวงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท แต่ได้รับการต่อต้านอย่างหนักจากสังคม ที่มองว่าในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนเดือดร้อน แต่ทหารจะทุ่มเงินมหาศาลจัดซื้อเรือดำน้ำ แม้กองทัพเรือจะออกมายืนยันว่า เงินที่ใช้มาจากงบประมาณประจำปีของกองทัพเรือเองไม่ได้ขอเพิ่มจากรัฐบาล พร้อมทั้งแจกเอกสาร 9 หน้าชี้แจงถึงความจำเป็น แต่ไม่สามารถลดกระแสดังกล่าวได้ จนต้องชะลอการจัดซื้อออกไปในที่สุด

“กองทัพเรือยอมถอยมาตั้งแต่ต้น ไม่ได้แข็งขืนจะซื้อเมื่อประชาชนไม่เห็นด้วย แต่อยากให้เข้าใจว่าเรือดำน้ำมีความจำเป็นต่อภารกิจของกองทัพเรือมานานแล้ว และการที่เราทยอยซื้อเพียง 1 ลำ จากเดิมเคยเสนอซื้อครั้งเดียว 3 ลำ น่าจะทำให้ประชาชนเห็นใจและเข้าใจ แต่ยืนยัน กองทัพเรือยังคงใช้งบประมาณของตัวเอง ไม่ได้ขอเพิ่ม หากจะรอให้เศรษฐกิจดีกว่านี้ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ซึ่งกองทัพเรือคงรอไม่ได้ เพราะเรื่องความมั่นคงและภัยคุกคามก็เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ” แหล่งข่าวจากกองทัพเรือ กล่าว

อย่างไรก็ตาม งบประมาณที่ค่อนข้างจำกัด นับเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กองทัพเรือจัดซื้อเรือดำน้ำได้ละครั้ง 1 ลำ เนื่องจากต้องพิจารณาไม่ให้กระทบต่อภารกิจอื่นๆ ของกองทัพเรือด้วย แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความพร้อมรบอาจจะไม่ครบ 100% รวมถึงราคาและแพ็กเกจต่างๆ ที่ต้องปรับเมื่อเทียบกับการจัดซื้อเรือดำน้ำพร้อมกัน 3 ลำ แต่กองทัพเรือก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้

สำหรับเรือดำน้ำที่จัดซื้อมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนลำนี้ จะถูกบรรจุเข้าประจำการที่กองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หลังถูกปิดไปกว่า 60 ปีที่แล้ว พร้อมทั้งได้จัดกำลังไปศึกษาหลักสูตรเรือดำน้ำที่ประเทศต้นแบบที่ประเทศเยอรมนี เกาหลี โดยเฉพาะหลักสูตร submarine ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อรองรับโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ

"กองเรือดำน้ำมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ในการบรรจุเรือดำน้ำเข้าประจำการ เพราะที่ผ่านมาได้มีการฝึกหลักสูตรเรือดำน้ำให้กำลังพลอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งกำลังพลไปเรียนที่ยุโรปและเอเชีย และจะใช้เวลา 5-7 ปีในการต่อเรือดำน้ำ โดยในระหว่างนั้นกองเรือดำน้ำจะต้องจัดเตรียมกำลังพล ท่าเทียบ รวมถึงการคัดเลือกกำลังพลไปเรียนหลักสูตรเพิ่มเติม แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการศึกษาเกี่ยวกับเรือดำน้ำมาบ้างแล้วก็ตาม” พล.ร.ต.พงศกร กุวานนท์ ผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำ กล่าว

จากนี้คงต้องดูกันต่อไปว่า โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ภายใต้ภัยคุกคามทางทะเลที่เพิ่มขึ้น จะได้รับแรงหนุนจากประชาชน หรือผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังไม่นิ่ง จะทำให้โครงการดังกล่าวถูกพับเก็บเหมือนเช่นที่ผ่านมาหรือไม่