ยังไง? "ทักษิณ" ขยับ การเมือง "พักร้อน" | คมชัดลึก

                 ความเคลื่อนไหวทางการเมืองตอนนี้ หากไม่นับ “ฝ่ายอำนาจรัฐ” ก็ต้องบอกว่าฝ่ายอื่นแทบจะเงียบสนิท

                 ที่ทะลุกลางปล้องขึ้นมาก็คือกรณี “วันเกิด” อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่ปีนี้ต้องเป็นอีกปีที่จัดงานอยู่ต่างประเทศ

(อ่านต่อ...'ทักษิณ' ฉลองวันเกิด คึก!! อัด คสช. ไม่ใช่สุภาพบุรุษ)

               ถึงแม้คนในตระกูลจะดูคึกคักพร้อมหน้าพร้อมตา เพราะมี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ผู้เป็นน้องสาว และสมาชิกใหม่ “ว่าที่ลูกเขยคนเล็ก” ไปร่วมด้วย จะขาดไปก็เพียงลูกชาย “โอ๊ค พานทองแท้” ที่ไม่ได้ไปร่วมงาน แถมมีเรื่องให้ขุ่นใจเมื่อดีเอสไอมีคำสั่งฟ้องคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้แก่เครือกฤษดามหานคร ที่พบว่ามีธุรกรรมการเงินจำนวน 26 ล้านบาท และ 10 ล้านบาท เข้าไปยังกลุ่มของนายพานทองแท้

                 ประหนึ่งสั่งฟ้อง “ฉลองวันเกิดพ่อ”

                 แต่ในมุม “คนการเมือง” ดูเหมือนจะอยู่ในวงจำกัด เพราะต้องระมัดระวังเรื่อง “อิทธิพลครอบงำพรรค” ที่อาจทำให้พรรคถูกยุบอีกครั้งได้

                 นักการเมืองที่ไปปรากฏตัวในงานก็มีเช่น พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรมว.พลังงาน ยุทธพงษ์ จรัสเสถียร อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตส.ส.แพร่ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น และ ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ

                 แต่ที่น่าสนใจคือ มีข่าวว่า “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” นักการเมืองผู้คร่ำหวอด ไปหา “ทักษิณ” ด้วย

                 “ประดิษฐ์” เป็นอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อดีตเลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และต่อมาย้ายไปอยู่พรรคชาติไทยพัฒนา ก่อนจะปรากฏข่าวเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วว่าหันหลังให้ทางโลก ไปบวชเป็นพระภิกษุที่วัดในถิ่นกันดาร ช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง โดยภาพที่ปรากฏออกมาคือ “พระประดิษฐ์” กำลังซักผ้าด้วยตัวเอง

 

 

(อ่านต่อ..."ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์" จาก เศรษฐี นักการเมือง สู่ "นักบวช")

 

                 ทั้งนี้ ที่มีข่าวว่า “ประดิษฐ์” จะมาอยู่พรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ไปปรากฏตัวในงานเลี้ยงวันเกิดทักษิณด้วย

                 มีนักการเมืองร่วมวงอยู่ด้วย มีหรือ “ทักษิณ” จะไม่พูดเรื่องการเมือง ซึ่ง “โอ๊ค” ลูกชายที่ไม่ได้ไปร่วมงานด้วยได้นำคลิปที่พ่อพูดในงานวันเกิดมาโพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวให้ดูให้ฟังกันชัดๆ คลิปยาว 5 นาที 37 วินาที โดย “ทักษิณ” พูดเป็นภาษาอังกฤษ

                 แน่นอนเนื้อหาการเมืองอย่างแรกที่ “ทักษิณ” พูดถึงการโจมตี “คสช.” แปลความได้ว่า "ผมไม่สนใจความเป็นไปทางการเมืองไทยเท่าไหร่ เพราะมีการยึดอำนาจที่นำโดยกองทัพที่ใส่กระโปรง พวกเขาไม่ใช่สุภาพบุรุษ พวกเขาพยายามยื้อการเลือกตั้ง เพื่อสร้างคะแนนนิยม ผมก็ได้แต่หัวเราะอยู่ข้างหลัง พวกเขายิ่งทำก็จะยิ่งแพ้ เพราะพวกเขาไม่เข้าใจประชาชน พวกเขาไม่ได้ไปนั่งในหัวใจประชาชน แต่เรานั่งอยู่ในหัวใจประชาชน เรารู้ว่าประชาชนต้องการอะไร มองหาอะไร อะไรคือความหวังของพวกเขา

                 ตอนนี้ทั้งคนชั้นกลางและคนชั้นล่างเริ่มไม่มั่นใจในอนาคตของตัวเอง เพราะค่าครองชีพสูงขึ้น พวกเขาจึงมองหาพรรคที่จะเป็นคำตอบให้พวกเขา ซึ่งผมมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นคำตอบของคนไทย"

                 แถมตอนท้ายคลิป เมื่อมีคนบอกว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อไทยจะชนะแบบแลนด์สไลด์ ทักษิณก็พูดทันทีว่า “เชื่อว่าจะชนะยิ่งกว่าแลนด์สไลด์อีก”

                 คงไม่ต้องบอกกันแล้วว่าเจตนาในการพูดเรื่องการเมืองของ “ทักษิณ” ในภาวะที่เมืองไทยมีแต่เรื่อง “ดูด” คืออะไร

               สำหรับอดีตนายกฯ ผู้น้อง ถึงแม้คลิปที่ “โอ๊ค" ปล่อยออกมาจะเห็นเธอเพียงแวบๆ แต่ต่อมา ทั้งหลานสาว “แซนด์ ชยิกา วงศ์นภาจันทร์” และ “อดีต ส.ส.ขัตติยา” ก็ปล่อยคลิปปล่อยภาพอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ให้แฟนคลับได้เห็นหน้า ได้ยินเสียงกันแบบชัดๆ

                 ทั้งคลิปทั้งภาพที่ปรากฏออกมา น่าจะทำให้คนที่เมืองไทยคิดถึง พูดถึง “อดีตนายกฯ สองพี่น้อง” ไปได้อีกหลายวัน

                 วกไปที่ภาพรวมการเมืองตอนนี้ เรียกได้ว่าเป็นช่วง “พักร้อน” หากไม่นับความเคลื่อนไหวของรัฐบาล และ “กลุ่มสามมิตร” โดยเฉพาะ “ภิรมย์ พลวิเศษ” ที่ตั้งตัวเป็นเลขาฯ กลุ่ม ก็แทบไม่มีความเคลื่อนไหวจากพรรคการเมืองอื่น

                 อาจมีบ้างก็เป็นไปอย่างเงียบๆ เบาๆ เช่น “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ใช้หมวก “ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน” จัดเวทีเสวนาเรื่องการปฏิรูปตำรวจ

                 สภาพการเมืองโดยรวม น่าจะอยู่ในภาวะ “พักร้อน” ไปจนกว่ากฎหมายลูก 2 ฉบับ คือ กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว. จะประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ซึ่งหลังจากนั้นจะมีสองจุดให้จับตา

                 หนึ่ง คือการเรียกประชุมพรรคการเมือง ที่จะมี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” มานั่งหัวโต๊ะ ต้องดูว่าจะมีการ “คลายล็อก” ให้พรรคการเมืองขยับเขยื้อนได้แค่ไหน

                 ย้ำว่าแค่ “คลายล็อก” ไม่ใช่ “ปลดล็อก”

                 นี่จะเป็นช่วง 90 วันก่อนที่กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. จะมีผลบังคับใช้

                 ช่วงนี้ กกต.ก็จะจัดการเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อเปิดทางให้พรรคการเมืองไปเตรียมทำไพรมารีโหวต

                 จุดที่สอง คือ การประกาศท่าทีทางการเมืองของ “บิ๊กตู่” ถ้า “บิ๊กตู่” จะลงสนามการเมืองโดยการอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ที่จะไปเป็นนายกฯ ของพรรคการเมือง ถ้ามีก็จะน่าจะเป็นช่วงที่กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้แล้ว คือช่วงเริ่มต้นนับหนึ่งไปสู่การเลือกตั้งภายใน 150 วัน

                 จุดที่สองนี้แหละ หาก “บิ๊กตู่” ลงมาจริง อาจทำให้ให้การเมืองขยับแรงขึ้น

                 แต่ทั้งหลายทั้งปวงต้องบอกว่า ต่อให้แรงยังไง ก็จะไม่แรงอย่างที่เคยเกิด เพราะครั้งนี้ฝ่าย คสช.เตรียมล็อกไว้หลายชั้น

                 แม้จะมีการเลือกตั้ง ก็น่าจะเป็นการเลือกตั้งในบรรยากาศเย็นๆ การตั้งเวทีปราศรัยแบบดุเดือดคงไม่มีให้เห็น

                 บอกเลย “พักร้อน” กันแบบยาวๆ !!

 

===================

โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์