ส่องสมรภูมิอีสานโฟกัส "เพื่อชาติ"  ไม่ใช่พรรคเสื้อแดง

 

 

          สมรภูมิเลือกตั้งอีสาน คงมีสีสันมากขึ้น หลังจากพรรคเพื่อไทย ครองพื้นที่มายาวนาน ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคไทยรักไทย เมื่อมีการจัดตั้ง “พรรคเพื่อชาติ” โดยมี จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เป็นผู้ขับเคลื่อนอยู่หลังฉาก 

 

 

          ภาพความเป็นกลุ่มก้อนของพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ(นปช.) ทำให้พรรคเพื่อชาติได้รับความสนใจ เพราะเชื่อว่าทั้ง 3 องค์กรทางการเมืองคือกลุ่มตัวตาย ตัวแทนกัน โดยเข้าใจว่าพรรคเพื่อชาติเป็นพรรคสำรองของพรรคเพื่อไทย และเป็นพรรคของกลุ่ม นปช. จนมีชื่อเรียกอีกชื่อว่าพรรคคนเสื้อแดง

          แต่อดีต ส.ส.เพื่อไทยและเป็นแกนนำเสื้อแดงในอีสาน กลับปฏิเสธว่า พรรคเพื่อชาติ ไม่เกี่ยวข้องกับ นปช. และไม่ได้เป็นพรรคสำรองของพรรคเพื่อไทย

          เพื่อให้คลายข้อสงสัย จึงต้องไปถามจากตัวจริงเสียงจริง “พราหมณ์ศักดิ์ระพี พรหมชาติ” ประธาน นปช.สกลนคร และแกนนำ นปช.ส่วนกลาง ซึ่งวันนี้ มีบทบาทเป็นผู้ประสานงานพรรคเพื่อชาติ ภาคอีสาน

          “พราหมณ์ศักดิ์ระพี” ไม่ใช่คนอีสาน แต่เป็นเขยสกลนคร เมื่อปี 2555 เคยลงสมัครนายก อบจ.สกลนคร โดยการสนับสนุนของคนเสื้อแดงสกลนคร แต่ก็พ่ายแพ้แก่นักการเมืองท้องถิ่นสายพรรคภูมิใจไทย

          พราหมณ์ศักดิ์ระพี พรหมชาติ ผู้ประสานงานพรรคเพื่อชาติภาคอีสาน กล่าวว่า พรรคเพื่อชาติไม่ได้เป็นพรรคสำรอง หรือเป็นนอมินีกับพรรคใดทั้งสิ้น

 

          “พรรคเพื่อชาติ ไม่ใช่นอมินีของกลุ่มคนเสื้อแดง และไม่ได้เป็นพรรคสำรองของพรรคเพื่อไทย เพียงแต่ทั้ง 3 หน่วยงานนี้ มีทิศทางการเมืองที่เหมือนกันคือต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ ที่สำคัญพรรคเพื่อชาติเปิดพื้นที่ให้แก่ผู้ที่สนใจทางการเมืองให้เข้ามาร่วมสานอุดมการณ์ร่วมกัน”
 

          สมาชิกในพรรคที่มีอยู่กว่า 1,000 คน มาจากต่างสาขาอาชีพ ทางพรรครับสมาชิกทุกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ซึ่งรวมกลุ่มคนเสื้อแดงที่ให้ความสนใจเข้ามาอยู่ในพรรคจำนวนหนึ่งด้วย ทำให้แนวร่วมส่วนใหญ่จะเป็นสายของคนเสื้อแดง 

 

          พรรคเพื่อชาติ ไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มาจากคนนอก ตรงกับแนวทางของพรรคเพื่อไทย และพรรคอนาคตใหม่

          “เราเป็นพันธมิตรกับทุกพรรคที่มีแนวทางต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบเหมือนกัน โดยหน้าที่ของผมขณะนี้ นอกจากจะเป็นผู้ประสานงานในเขตภาคอีสาน และคัดกรองผู้สมัครให้แก่พรรค”

          เวลานี้ “พราหมณ์ศักดิ์ระพี” ได้ตั้งศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อชาติ อยู่ใน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ซึ่งเป็นฐานกำลังที่ใหญ่ที่สุดของ นปช.สกลนคร  

          การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นปี 2562 พรรคเพื่อชาติ ตั้งเป้าส่งผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 350 เขต สำหรับอีสานมีเขตเลือกตั้ง 116 เขต มีผู้แสดงความจำนงเข้าร่วมทางการเมืองแล้วกว่า 400 คน มีทั้งนักการเมืองท้องถิ่น อดีตผู้ช่วย ส.ส., นายกเทศมนตรี และกลุ่ม นปช. 

          พรรคเพื่อชาติ จะเปิดพื้นที่ให้คนที่สนใจงานด้านการเมือง และไม่เอาเผด็จการ แต่ไม่มีพื้นที่มาลงเลือกตั้งกับพรรค โดยวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทางพรรคได้จัดสัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน เพื่อเตรียมความพร้อม

          การเปิดตัวที่ทำการพรรคในภาคอีสานนั้น คาดว่าจะเปิดอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 15 พฤศจิกายน นี้ ที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร 

 

          “ส่วนตัวผม ยังไม่ตัดสินใจว่าจะสมัครลงเลือกตั้งหรือไม่ วันนี้ขอเป็นผู้ประสานงานให้พรรคก่อน แต่หากทางพรรคเห็นความสามารถก็พร้อมที่จะลงสู่สนามเลือกตั้ง” พราหมณ์ศักดิ์ระพี กล่าว

          ด้าน “รัตนาวรรณ สุขศาลา” หรือที่คนเสื้อแดงเรียกว่า “อาจารย์นาง อุดรธานี” แห่งสถานีวิทยุชุมชนคนรักไท เอฟเอ็ม 106.75 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเคยเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงอุดรธานี และตอนหลัง อาจารย์นางเป็นประธาน นปช.อุดรธานี สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในปีหน้า อาจารย์นางจะเป็นหนึ่งในกลุ่มแกนนำแดงที่มีข่าวว่าจะลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคเพื่อชาติ

          “ส่วนตัวแล้วยอมรับว่า ช่วงหลังรัฐประหารรู้สึกเหนื่อยกับการติดตามงานทางการเมือง จึงยังไม่ตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรค หรือจะตัดสินใจลงเล่นการเมืองตามที่มีกระแสข่าว อีกทั้งถนัดทำงานอยู่เบื้องหลังมากกว่าการลงสมัครเป็น ส.ส.เอง”

          อาจารย์นางบอกว่า จะสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ ความน่าสนใจ อย่างกลุ่ม ส.จ. ในพื้นที่ที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกันมาร่วมทำงาน ตอนนี้ทาบทามไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะยังไม่มีความชัดเจน ต้องรอการประชุมใหญ่พรรคเพื่อชาติ จึงจะให้ข้อมูลได้

          ส่วน “ขวัญชัย ไพรพนา” ประธานชมรมคนรักอุดร ยืนยันจะส่งภรรยา อาภรณ์ สาราคำ อดีต ส.ว.อุดรธานี ลงสมัคร ส.ส.เขต 1 อุดรธานี พรรคเพื่อไทย แม้ว่าโดยส่วนตัวจะรักใคร่กันดีกับจตุพร พรหมพันธุ์ แต่เนื่องจากวางแผนมาตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ หมายมั่นจะปั้นภรรยาเป็น ส.ส.ให้ได้

          เนื่องจาก “พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” มีความสนิทสนมกับจตุพรในช่วงหลัง จึงมีความเป็นไปได้ว่า อดีต ส.ส.อีสาน สมัยพรรคความหวังใหม่ บางคนอาจเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อชาติ

          เบื้องต้นพรรคเพื่อชาติ มีศูนย์ประสานงานพรรคอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ จ.นครศรีธรรมราช จ.สกลนคร และ จ.สุโขทัย ซึ่งหลังการประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อชาติ ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็จะเห็นโฉมหน้าคณะกรรมการบริหารพรรคตัวจริงเสียที