เปิดแล้ว "น้องไพศาล"คลังสมอง "อนาคตใหม่" ศูนย์กลาง "ซ้ายไทย"
ข้อมูลน่าสนใจว่าแถวหน้าของอนาคตใหม่เป็นคนรุ่นใหม่ก็จริง แต่ข้างหลังมากไปด้วยคนระดับคุรุจำนวนมาก หนึ่งในคนเบื้องหลังพรรคอนาคตใหม่นั้นคือ "พิชัย พืชมงคล"
000 ไม่ต้องไปรออ่าน “ม.อ.โพล” มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ “สภากาแฟโพลล์” แถวปักษ์ใต้ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เสาไฟฟ้าทรุด” คะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ลดฮวบ ด้วยเหตุนี้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” จึงต้องประกาศจุดยืน “สองไม่เอา” ไม่เอาลุงตู่ และไม่เอาเสี่ยแม้ว
000 ชั่วโมงนี้คะแนนนิยมของ “พรรคอนาคตใหม่” ดีวันดีคืนทั่วภาคใต้ ตามมาด้วยพรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ ฉะนั้นสัปดาห์สุดท้ายก่อนวันหย่อนบัตร ทัพใหญ่ ปชป.ต้องเดินสายปูพรม “อ้อนขอคะแนนคนใต้” ตามสูตรเดิม
000 ภาพรวมทั้งประเทศปฏิเสธไม่ได้ว่า “พรรคส้มหวาน” อยู่ในกระแสความนิยมคนรุ่นใหม่และคนอยากลอง “ของใหม่” เหมือน “ไพศาล พืชมงคล” กุนซือ “บิ๊กป้อม” โพสต์ในเพจ Paisal Puechmongkol ว่า “กระหึ่มไปทั้งพรรคอนาคตใหม่จากผลโพลล์ลับและข้อมูลจาก Google Trend ว่าจะเกิดสึนามิทางการเมืองในประเทศไทย!”
ไพศาล พืชมงคล
000 ตอนท้าย “ไพศาล” เปิดเผยข้อมูลน่าสนใจ “แถวหน้าของอนาคตใหม่เป็นคนรุ่นใหม่ อายุยังน้อยก็จริง แต่ข้างหลังมากไปด้วยคนระดับคุรุจำนวนมาก” แสดงว่าไพศาลเป็นคนรู้จริง และรู้ลึกเสียด้วย ประเด็น “คนทำงานเบื้องหลัง” หรือ “คลังสมอง” ของอนาคตใหม่ ยังไม่มีสื่อไหนเคยเปิดเผยมาก่อน
000 หนึ่งในคนเบื้องหลังพรรคอนาคตใหม่นั้นคือ “พิชัย พืชมงคล” ที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดการบริษัท ธรรมนิติ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นน้องชายของไพศาล พืชมงคล “พิชัย” กระโจนเข้ามาช่วยพรรคส้มหวานตั้งแต่ก่อนวันก่อตั้งพรรค โดยการชักชวนของเพื่อนๆ ในนาม “คนรุ่น 6 ตุลา” สายยุวชนสยาม หรือสายศูนย์กลางนักเรียนแห่งประเทศไทย
พิชัย พืชมงคล
000 สืบไปสืบมาพบว่า “พิชัย พืชมงคล” เป็นนักเรียนเก่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรุ่น 90 (เข้าเรียนปี 2514 จบปี 2518) หรือสวนกุหลาบคอนเนกชั่น “รุ่น OSK90” ถือว่าเป็นรุ่นที่เต็มไปด้วยคนดัง เช่น เนวิน ชิดชอบ, วัฒนา เมืองสุข, ทรงศักดิ์ ทองศรี, สมชัย ศรีสุทธิยากร, วุฒิสาร ตันไชย, สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และวีระ สมความคิด เป็นต้น
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
000 สมัยนักเรียนขาสั้น “พิชัย” จะอยู่ในกลุ่มเดียวกับสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และผองเพื่อน “ขาสั้นคอซองซ้ายจัด” ซึ่งในวันนี้ พวกเขาอยู่ในช่วงวัย 60 ปี ต่างเข้ามาทำงานเป็น “อาสาสมัคร” ให้พรรคอนาคตใหม่ รวมถึง “พลากร จิรโสภณ” เจ้าของธุรกิจตุ๊กตาหมี Four Bears ครั้งหนึ่ง พลากรเคยเข้าป่าอยู่ในสำนัก 54 เขตน่าน ที่มี ส.แผ้ว หรือ จรัล ดิษฐาอภิชัย เป็นเจ้าสำนัก พลากรไม่เคยเล่นการเมือง แต่ครั้งนี้ทุ่มเต็มที่เพื่ออนาคตใหม่ของประเทศไทย
000 คนรุ่นนี้มีความใฝ่ฝันอยากเปลี่ยนแปลงสังคมไทย แต่การเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ทำให้ชีวิตพลิกผันต้องกลายเป็น “คนแพ้สงคราม” จวบจนวันที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย คนหนุ่มสาวยุค 1970 ได้โถมตัวเข้าสนับสนุนพรรค ทรท.เต็มที่ แต่ทักษิณพาพวกเขาไปไม่ถึงฝั่งฝัน
กระแสอนาคตใหม่มาแรง
000 เมื่อ “ธนาธร จึงรุ่งเรือง” นายทุนหัวก้าวหน้า ตัดสินใจตั้งพรรคอนาคตใหม่ ทำให้แรงใจไฟฝันคุโชนอีกครั้ง “คนรุ่น 6 ตุลา” จึงระดมพลไปช่วยพรรคอนาคตใหม่ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วยหวังจะเห็นคำขวัญ “ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” เกิดขึ้นจริงเสียที เพราะรอกันมานาน ร่วงโรยร่วงหล่นไปตามสังขาร
เจ๊หน่อย จะสอบตก
000 ข่าวลือว่า “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย มีโอกาสจะ “สอบตก” น่าจะเป็นจริง เพราะเซียนการเมืองวิเคราะห์ตรงกัน พรรคเพื่อไทยจะได้ “ส.ส.เขต” แต่ไม่ได้ “ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์” เพราะเจอพรรคฝ่ายเดียวกันตัดคะแนน ทั้งพรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติ และพรรคเสรีรวมไทย
000 สัญญาณจากสนามเลือกตั้งอุบลราชธานี มีประชาชนกว่า 3 พันคนเข้ามาร่วมฟังการปราศรัยของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่ง “คนชั้นกลาง” ในตัวเมืองอุบลฯ ต้องการเปลี่ยนการเมืองระดับประเทศ “วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์” ลูกชาย “เกรียง กัลป์ตินันท์” ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้รับผลกระทบแน่นอน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ จะไม่มีผลอะไร เพราะคนกลุ่มนี้ไม่เลือกพรรคสายทหารอยู่แล้ว
วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์
000 แถมสัญญาณจากเขต 4 มหาสารคาม “สรรพภัญญู ศิริไปล์” อดีตผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติ ได้ประกาศให้การสนับสนุน “เจ๊แมว” กุสุมาลวตี ศิริโกมุท ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พรรคเพื่อชาติ ส่งผลให้ “จิรวัฒน์ ศิริพานิชย์” ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เสี่ยงต่อการสอบตกสูงมาก
เจ๊แมวกับ สรรพภัญญู อดีตผู้สมัคร ส.ส.ไทยรักษาชาติ
000 ตรวจสอบไปทั่วแนวรบอีสาน คำพูดที่ว่าอีสานเป็น “ของตาย” ที่พรรคเพื่อไทยจะโกยแต้มได้มากมาย มาถึงวันนี้เกิดความไม่แน่นอนขึ้นแล้ว เพราะ “ตัวแปร” ที่จะแย่งคะแนนเสียงจากเพื่อไทย กลายเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเสียเอง