คอลัมนิสต์

แฉพฤติการณ์ "สิบล้อมาเฟีย"ยิงขู่-พุ่งชน ไม่สน จนท.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... ล่าความจริง..พิกัดข่าว โดย...  อนุรักษ์ เพ็ญสวัสดิ์

 

 

 

          “มีการขัดขืนระหว่างเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบน้ำหนัก ทั้งจอดรถไว้แล้ววิ่งหนี หรือมีกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ขับรถติดตามมาข่มขู่แย่งชิงรถไปจากเจ้าหน้าที่ ล่าสุดมีการยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่ถึง 4 นัดที่หนองบัวลำภู และก่อนหน้านั้นมีการขว้างระเบิดปิงปองใส่ด่านตรวจที่สระบุรีด้วย”

 

 

          นี่คือคำบอกเล่าจากเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงเกี่ยวกับอันตรายที่ต้องเผชิญจากการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุก โดยเฉพาะรถสิบล้อที่บรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดที่กฎหมายกำหนด อ่านเผินๆ นึกว่าเป็นสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จริงๆ แล้วสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแทบทุกพื้นที่ ยิ่งเส้นทางไหนเป็นเส้นทางชุมนุมสิบล้อ ปัญหายิ่งวิกฤติ


          พฤติการณ์ขัดขืน ตอบโต้ กลั่นแกล้ง และคุกคามเจ้าหน้าที่ ถึงขั้นขับรถสิบล้อไล่ชนก็ยังมี เป็นเหตุการณ์ร้ายที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเคลื่อนที่เร็ว กรมทางหลวง ต้องประสบพบเจอแทบทุกครั้งที่ออกปฏิบัติภารกิจตั้งด่านตรวจสอบน้ำหนัก ไม่ว่าจะช่วงกลางวันแสกๆ หรือยามค่ำคืนก็ตาม สะท้อนถึงความอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมายของแก๊งอิทธิพล


          “ล่าความจริง” ขยายประเด็นตรวจสอบเรื่องนี้มาจากเรื่องร้องเรียนของชาวบ้านหนองบัวลำภู โดยเฉพาะ อ.ศรีบุญเรือง ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากปัญหารถสิบล้อหลบด่านตรวจและด่านชั่งน้ำหนักที่มักไปดักบนถนนสายหลัก เลี่ยงมาใช้ถนนสายรองที่ชาวบ้านร้านตลาดใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นถนนที่ตัดผ่านชุมชน วัด โรงเรียน และย่านการค้า ทำให้เกิดอันตรายและถนนพังเสียหายใช้การไม่ได้

 

          เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงหลายสิบชีวิตได้รับคำสั่งลับให้ลงพื้นที่ไปทำภารกิจปราบปรามแก๊งรถบรรทุกที่สร้างความเดือดร้อน พบรถบรรทุกหลบด่านวันละนับร้อยคัน แต่เส้นทางการทำงานไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะพวกเขาต้องเจอพฤติกรรมการข่มขู่คุกคามสารพัดรูปแบบจนทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย ซ้ำร้ายกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนยังเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดย่านนั้นอีกด้วย




          แก๊งสิบล้อแก๊งนี้โดยมากรับบรรทุกหินจากโรงโม่หินในจังหวัดเลย หนองบัวลำภู และใกล้เคียง มีรถยนต์เครื่องแรงทำหน้าที่ “ม้าเร็ว” เหมือนหน่วยล่วงหน้า คอยขับสอดส่องดูตามทางหลวงสายต่างๆ ว่ามีด่านตั้งอยู่หรือไม่ เมื่อเจอด่านก็พาขับหลบเลี่ยงเข้าไปตามถนนสายรอง จนกลายเป็นปัญหาค้างคาใจชาวบ้าน


          แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ลงไปทำงานด้วยการใช้หน่วยเคลื่อนที่เร็วคอยดักทางแก๊งสิบล้อ ปรากฏว่าเมื่อสกัดจับรถที่กระทำผิดกฎหมายได้ ก็โดนแก๊งรถปิกอัพอีก 4-5 คันมาปิดล้อม จากนั้นก็มีการยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า เปิดทางให้รถบรรทุกพุ่งชนแท่งแบริเออร์แล้วหลบหนีไป


          ปราบพล โล่ห์วีระ ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ กรมทางหลวง เปิดใจกับ “ล่าความจริง” ต้นตอของปัญหานี้เกิดจากการที่กลุ่มรถบรรทุกพยายามขนวัสดุและสินค้าให้เกินน้ำหนักที่กฎหมายกำหนดไว้ 2 เท่าตัว เพื่อหวังฟันกำไรเพิ่ม โดยไม่แคร์ว่ารัฐต้องสิ้นเปลืองเงินภาษีของคนไทยทั้งประเทศมาซ่อมผิวถนนปีละหลายหมื่นล้านบาท ขณะที่เจ้าของสินค้าหรือผู้ที่สั่งสินค้าก็ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม พยายามสั่งวัสดุและกดราคาให้ถูกที่สุด ทำให้ต้องมีการขนใส่รถบรรทุกแล้วบรรทุกน้ำหนักเกิน เพื่อลดต้นทุนจากการขนส่ง


          ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทางหลวงเข้มงวดกับการบรรทุกน้ำหนักเกินมากขึ้น สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ถึงกว่า 12,000 ราย ทำให้สิงห์รถบรรทุกบางส่วนที่มีพฤติกรรมละเมิดกฎหมายและมีอิทธิพลหนุนหลัง ล้างแค้นด้วยการข่มขู่คุกคามเจ้าหน้าที่ในหลายรูปแบบ ทำให้หน่วยต้นสังกัดต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปฝึกในค่ายทหารเพื่อรับมือกับภัยร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ


          “เวลาเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจะลงพื้นที่แต่ละครั้งต้องสนธิกำลังหลายสิบคนและต้องส่งไปเรียนศิลปะป้องกันตัวกับหน่วยงานของทหารกันเลย” ปราบพล กล่าว


          สำหรับแนวทางแก้ไขเฉพาะหน้าที่จังหวัดหนองบัวลำภูดำเนินการแล้ว นำร่องเป็น “หนองบัวลำภูโมเดล” ก็คือประสานท้องถิ่นทุกแห่งร่วมมือกันบังคับใช้กฎหมาย สนธิกำลังทุกหน่วยทุกฝ่ายให้ช่วยกันกวาดล้างจับกุม ส่วนในระยะกลางคือการสร้างด่านตรวจน้ำหนักถาวรในพื้นที่ และระยะยาวคือแก้กฎหมายเพิ่มบทลงโทษ เอาผิดถึงบริษัทที่รับจ้างสิบล้อมาขนวัสดุ


          ทุกมาตรการล้วนดีและไม่มีใครค้าน แต่ต้องไม่ลืมดูแลสวัสดิภาพและสวัสดิการเจ้าหน้าที่ทางหลวงน้ำดีทุกคนด้วย!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ