คอลัมนิสต์

ซักฟอกนโยบายรัฐ ภารกิจทดสอบ"ฝ่ายค้าน"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  รักแผ่นดิน  โดย...   ฅนไท  ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

 

 

          เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลในสภาครั้งแรก อย่างเป็นทางการของฝ่ายค้าน ที่นำโดยพรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่ ต่อการอภิปรายนโยบายรัฐบาล ซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 24-26 ก.ค.นี้

 


          ขุนพลฝ่ายค้านรอบนี้ ล้วนแต่เป็น “หน้าใหม่” เพราะ “ดาวสภา” เดิมของฝ่ายค้าน กลายเป็น ส.ส.สอบตกไปเสียแทบหมดสิ้น จึงต้องติดตามดูว่า


          “ดาวดวงใหม่” ของฝ่ายค้าน จะเกิดขึ้นได้อย่าง “เข้าตา” ประชาชนหรือไม่


          การเป็น “ดาวสภา”ของฝ่ายค้าน หาใช่การเก่งแค่สร้าง “วาทะกรรม” หรือ


          ”หลอกด่ารัฐบาล" หากแต่คนที่ก้าวขึ้นเป็นระดับขุนพลในการอภิปรายจะต้องเป็นผู้ที่ “ทำการบ้าน” มีข้อมูล -หลักฐาน สามารถอภิปรายเรื่องยากให้ประชาชนเข้าใจง่าย ๆ


          ยกตัวอย่างเช่น การอภิปรายของ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี หรือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ทั้งสองเป็นตัวอย่างของ “ดาวสภาค้างฟ้า” ที่เวลาอภิปราย


          ทั้งนโยบายรัฐ หรือไม่ไว้วางใจรัฐบาล คอการเมืองจะรอชมทางหน้าจอโทรทัศน์อย่างเนืองแน่น


          แต่สภารอบนี้ ไม่มี “ดาวสภาทั้งสอง” จึงอาจจะเป็นโอกาส กำเนิดดาวดวงใหม่ ที่เริ่มฉายแววขึ้นมา เช่น ชลน่าน ศรีแก้ว จิรายุ ห่วงทรัพย์ แต่ต้องดูการทำการบ้านในการอภิปรายครั้งนี้ว่า จะเป็น “ดาวดวงใหม่” หรือ ดาวดับ!


          เพราะสภา ถึงแม้จะเป็นที่พูด ที่สามารถ “สร้างคนได้” แต่ก็สามารถ “ฆ่า”คนได้ หากการพูดนั้นมาจากการไม่รู้จริง หรือการเอาข้อมูลเท็จ มากล่าวหาผู้อื่น จนจับได้ไล่ทัน ซึ่งเคยมีบทเรียนมาแล้วในประวัติศาสตร์การเมืองไทยหลายยุคหลายสมัย


          ไมโครโฟนในสภา จึงไม่ใช่แค่อาวุธ “ทิ่มแทง” ศัตรูทางการเมืองเพียงอย่างเดียว หากแต่ไมโครโฟนในสภา อาจกลายเป็นอาวุธ “ประหัตประหาร”ตัวเอง


          ดังนั้นการจะลุกขึ้นอภิปรายใดๆ จำเป็นจะต้องมีความรู้ และหลักฐานอย่างชัดเจน ใช่สักแต่ “พล่าม” ในสภาเท่านั้น


          ยกแรกของสภาในระบอบประชาธิปไตยชุดนี้ หลังจากเราห่างหายบรรยากาศ แห่งการ “พูด”ในสภา จึงมิใช่แค่บททดสอบความพร้อมของรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น หากแต่เป็นบททดสอบฝ่ายค้านไปด้วยเช่นกัน

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ